เซอร์ จิม แร็ทคลิฟฟ์ มหาเศรษฐีชาวอังกฤษซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศได้ออกมายืนยันว่า เขาไม่สนใจที่จะเทคโอเวอร์สโมสรลิเวอร์พูลแต่อย่างใด หลังมีรายงานข่าวเมื่อวันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป กลุ่มทุนที่เป็นเจ้าของทีมหงส์แดงได้ยอมรับว่ามีความคิดที่จะขายสโมสรในถิ่นแอนฟิลด์ หลังเทคโอเวอร์มาตั้งแต่เมื่อปี 2010 ด้วยราคาเพียง 300 ล้านปอนด์ หรือราว 12,800 ล้านบาท
ทั้งนี้ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ข่าวคราวเรื่องการจับสลากประกบคู่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ ลิเวอร์พูล ต้องกับกับ เรอัล มาดริด นั้น ดูจะกลายเป็นเรื่องที่ไม่มีใครสนใจไปในทันที หลังมีรายงานข่าวตามมาจากทาง ดิ แอธเลติก สื่อดังของอังกฤษว่า เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป หรือ FSG ซึ่งเป็นกลุ่มทุนที่เป็นเจ้าของสโมสรลิเวอร์พูล มีความต้องการที่จะกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหม่ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือต้องการที่จะปักป้ายขายทีมหงส์แดง ที่ตอนนี้มีมูลค่าสูงถึง 3.6 พันล้านปอนด์ หรือราว 153,700 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นมูลค่าที่สูงมาก เมื่อเทียบกับตอนที่ซื้อมา 10 ปีก่อนที่ราคาเพียง 300 ล้านปอนด์เท่านั้น
นั่นทำให้บรรดาสื่อต่างพยายามจับโยงชื่อมหาเศรษฐีหลายต่อหลายราย ที่ดูพอจะมีศักยภาพในการที่จะเข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรลิเวอร์พูลในเวลานี้ และหนึ่งในนั้นก็มีชื่อของ เซอร์ จิม แร็ทคลิฟฟ์ มหาเศรษฐีชาวอังกฤษรวมอยู่ด้วย หลังจากที่ก่อนหน้านี้เศรษฐีหมายเลขหนึ่งของเมืองผู้ดี เคยตกเป็นข่าวว่าพยายามที่จะขอซื้อ เชลซี ต่อจาก โรมัน อบราโมวิช มาแล้ว แต่สุดท้ายเป็นทางกลุ่มของ ท็อดด์ โบลี่ห์ ที่คว้ากรรมสิทธิ์ในการครอบครองทีมสิงห์บลูส์ไปแทน
นอกจากนี้ แร็ทคลิฟฟ์ ยังเคยยอมรับว่าเขาต้องการที่จะซื้อสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นทีมที่เขาตามเชียร์มาตั้งแต่เด็กมาเป็นของตัวเองอีกด้วย แต่ติดปัญหาตรงที่ตระกูลเกลเซอร์ ไม่เคยมีความต้องการที่จะขายทีมปีศาจแดงออกไป ทำให้ไม่มีทางที่การเจรจาจะเกิดขึ้น
อย่างไรก็ดี จากการที่ FSG ได้ประกาศว่าจะขาย ลิเวอร์พูล ทำให้บรรดาสื่อต่างจับชื่อของ แร็ทคลิฟฟ์ เข้ามาเป็นหนึ่งในแคนดิเดททันที แต่ล่าสุด มหาเศรษฐีวัย 70 ปี ได้ปฏิเสธโอกาสนี้ไปเป็นที่เรียบร้อย โดยให้เหตุผลว่าเขาคิดว่าการมุ่งมั่นพัฒนาสโมสร นีซ ในฝรั่งเศส ซึ่งเขาเป็นเจ้าของนั้น เป็นแนวทางที่คุ้มค่าต่อการลงทุนมากกว่า โดยได้ให้สัมภาษณ์กับ เดอะ เทเลกราฟ สื่อดังของอังกฤษเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า
"สำหรับสถานะของเราในตอนนี้คือการมุ่งมั่นกับ นีซ เพื่อผลักดันให้สโมสรฟุตบอลแห่งนี้กลายเป็นทีมชั้นแนวหน้าของฝรั่งเศส และสามารถที่จะเทียบเคียงกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง ได้ ซึ่งนั่นเป็นแนวทางที่คุ้มค่าต่อการลงทุนมากกว่าที่จะไปทุ่มเงินซื้อสโมสรชื่อดังในพรีเมียร์ลีก"
สำหรับ เซอร์ จิม แร็ทคลิฟฟ์ ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทปิโตรเคมีชื่่อดังอย่าง Ineos นั้น ได้รับการจัดอันดับจาก บลูมเบิร์ก ว่าเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในอังกฤษเมื่อปี 2020 จากการที่มีทรัพย์สินในการประเมินที่ 28.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 24.4 พันล้านปอนด์ ติดท็อป 55 คนรวยที่สุดในโลก ขณะเดียวกันยังเป็นบุคคลที่สนใจในวงการกีฬา โดยเขาเป็นเจ้าของสโมสร โลซาน-สปอร์ต ทีมใน ซูเปอร์ลีกของ สวิตเซอร์แลนด์ และ นีซ ทีมในศึก ลีก เอิง ฝรั่งเศส และยังเป็นพาร์ทเนอร์หลักของทีมเมอร์ซิเดส เอเอ็มจี ในศึกฟอร์มูล่า วัน เป็นต้น
ภาพจาก Getty Images
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :
Website : www.truevisions.co.th
Facebook : Truevisions
Twitter : @TrueVisions
Line : @Truevisions
Youtube official : Truevisionsofficial
Instagram : Truevisionsofficial