กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ดาวยิงตัวเก่งของสโมสรอาร์เซน่อล มีชื่อเป็น 1 ใน 26 ขุนพลทีมชาติบราซิล ชุดลุยศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ ท่ามกลางความคาดหวัง หลังจากที่เขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการพาทัพ "ไอ้ปืนใหญ่" รั้งจ่าฝูงของตารางพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อย่างเหนียวแน่น
สื่อในประเทศอังกฤษ อย่าง เดลี่เมล์ ได้เปิดเผยเรื่องราวของแข้งรายนี้เอาไว้ได้อย่างน่าสนใจ เพราะเขาใช้เวลาไม่นานในการสร้างชื่อของตัวเอง จนมีโอกาสติดทีมชาติชุดใหญ่ไปลุยฟุตบอลโลก
ย้อนกลับไปเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ในขณะที่ทีมชาติบราซิล กำลังลุยศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่ประเทศรัสเซีย มาร์ติเนลลี่ ในวัย 17 ปี ลงเล่นให้กับทีมอิทัวโน่ ในลีกดิวิชั่น4 ของประเทศบราซิล
จากจุดเริ่มต้นในเส้นทางการเป็นนักฟุตซอลของสโมสรโครินเธียนส์ เขาย้ายสายมาเล่นฟุตบอลใหญ่กับทีมเยาวชนของอิทัวโน่ ในปี 2015 จากนั้นเขาใช้เวลา 2 ปี ได้รับสัญญาอาชีพ และทำผลงานยิงไป 10 ประตู จาก 34 นัด
วันเวลาผ่านไป เขาสามารถสร้างผลงานได้อย่างโดดเด่น จนมีข่าวว่าได้รับความสนใจจากหลายสโมสรในยุโรป สุดท้ายเป็นทางฝั่งอาร์เซน่อล ที่มือไวคว้าตัวไปร่วมทีมด้วยมูลค่า 6 ล้านปอนด์ ในช่วงซัมเมอร์ปี 2019
ในวัย 18 ปี เขาถูกอาร์เซน่อล ส่งไปเพาะบ่มฝีเท้ากับทีมสำรอง ซึ่งเจ้าตัวก็ใช้ทุกโอดาสที่มีทุ่มเทแรงกายแรงใจอย่างเต็มที่เพื่อพิสูจน์ตัวเอง สุดท้ายในช่วงปรีซีซั่นที่สหรัฐอเมริกา เขาก็สามารถซื้อใจ อูไน เอเมรี่ กุนซืออาร์เซน่อล ในเวลานั้น ตัดสินใจเก็บเจ้าตัวไว้ในแผนทำทีมชุดใหญ่
กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ตอบแทนความไว้วางใจของ อูไน ด้วยการซัดคนเดียว 2 ประตู ในเกมที่เอาชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 5-0 ในศึกคาราบาวคัพ
โดยในเวลานั้น อูไน เอเมรี่ พูดถึงแข้งดาวรุ่งรายนี้ว่า "เขาเป็นนักเตะที่อายุยังน้อย และเราก็เฝ้ารอดูพัฒนาการของเขา เขาฝึกซ้อมแต่ละครั้งด้วยจิตวิญญาณที่เต็มเปี่ยม และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ผมบอกเขาเสมอว่าจะต้องมีความอดทนเพื่อเฝ้ารอโอกาสของตัวเอง เขาเต็มที่ทุกการฝึกซ้อม และเมื่อได้ลงสนามเขาก็แสดงทุกอย่างที่มีออกมา เขาเป็นนักเตะที่ถ่อมตัวมากๆ การต่อสู้ของเขาเต็มไปด้วยความหิวกระหาย"
แม้แต่ทางด้าน เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือลิเวอร์พูล ยังเคยเอยปากชื่นชมและชื่นชอบในตัวของดาวรุ่งรายนี้ ถึงขนาดที่ยอดรับว่าลูกทีมของเขาต้องเจอกับงานที่ยากลำบากในการเผชิญหน้ากับ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่
เมื่อถึงยุคผลัดเปลี่ยนกุนซือมาเป็น มิเกล อาร์เตตาร์ เขาถูกมอบหมายให้ดูแลฝึกฝนแข้งรายนี้ และในเวลา 3 ปี ทุกอย่างก็เริ่มแบ่งบาน โดย อาร์เตตาร์ พูดถึงลูกทีมรายนี้ว่า
"เมื่อผมย้ายมาคุมทีมอาร์เซน่อล ทุกคนบอกกับผมว่าคุณจะแปลกใจเมื่อได้เห็นการต่อสู้ในทีมของมาร์ติเนลลี่ ในตอนนั้นผมยังมองว่าเขาอายุแค่ 18 ปี แต่เมื่อผมก็เห็นเขาลงเล่นในเกมใหญ่และวิธีจัดการของเขาในสนาม มันทำให้ผมแประหลาดใจมากๆ จุดนี้มันช่วยยืนยันทุกสิ่งที่ผมเคยได้ยินมาเกี่ยวกับตัวเขา ทุกสิ่งที่เขาทำมันเหลือเชื่อมากหากเทียบกับอายุของเขาที่เพิ่งจะแค่ 18 ปีเท่านั้น"
แม้ส่วนใหญ่ในช่วงเริ่มต้น เขาจะได้ออกสตาร์ทในรายการฟุตบอลถ้วย แต่เมื่อได้ลงสนามเขาก็แสดงศักยภาพของตัวเองออกมาให้ทุกคนได้เห็น แถมยังยิงประตูสำคัญๆให้ทีมหลายต่อหลายครั้ง แต่ไม่มีครั้งไหนที่น่าจดจำไปกว่าเกมที่เขาดวลกับเชลซี ในเดือนมกราคมปี 2020 เขามีส่วนช่วยให้ทีมเสมอ 2-2 ในเกมนั้น
ผลงานในวันนั้นเขาได้รับการยกย่องจากเพื่อนร่วมทีม และแน่นอน ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ถึงขนาดโพสต์ข้อความในโซเชียลว่า กาเบรียล จะเป็นนักเตะซุปเปอร์สตาร์ในอนาคต
หลังจากนั้น กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ก็กลายเป็นส่วนผสมสำคัญในการสร้างทีมของ มิเกล อาร์เตตาร์ โดย ณ เวลานี้ เขาเริ่มต้นซีซั่นด้วยการยิงไป 5 ประตู กับอีก 2 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 13 นัด ในพรีเมียร์ลีก
และแล้วก็ถึงเวลากับการก้าวขึ้นมาสู่ทีมชาติบราซิลชุดใหญ่เต็มตัว จากลีกดิวิชั่น 4 ของ บราซิล เขาใช้เวลา 40 เดือน ยกระดับตัวเองกับทีมอาร์เซน่อล จนสุดท้าย ติเต้ เฮดโค้ชทีมชาติบราซิล ก็อดไม่ได้ที่จะเรียกตัวเขาเข้ามาติดทีมชาติไปลุยศึกฟุตบอลโลก 2022
"อย่าละทิ้งความฝันของตัวเอง มันคือช่วงเวลาที่น่าภูมิใจของผมและครอบครัว เพราะผมได้มีโอกาสเป็นตัวแทนของประเทศไปลุยฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์" นี่คือข้อความที่ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ในวัย 21 ปี โพสต์ลงในโซเชียล มันช่างเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมและยกย่องจากหัวใจจริง...
Getty Images
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :
Website : www.truevisions.co.th
Facebook : Truevisions
Twitter : @TrueVisions
Line : @Truevisions
Youtube official : Truevisionsofficial
Instagram : Truevisionsofficial