ลิเวอร์พูล ทีมดังในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ บรรลุข้อตกลงในการคว้าตัว โคดี้ กักโป กองหน้าทีมชาติเนเธอร์แลนด์จาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ทีมในศึกเอเรดิวิซี่ เป็นที่เรียบร้อย โดยเป็นการประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการจากทาง พีเอสวี เอง
ก่อนหน้านี้ กักโป ตกเป็นข่าวมาตลอดว่ากำลังจะได้ย้ายไปร่วมทีม แมนฯ ยูไนเต็ด หลังจากที่ตัวนักเตะเคยออกมายอมรับเองว่าเกือบจะได้ย้ายไปยังถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แล้ว ตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่ทั้งสองสโมสรตกลงเรื่องค่าตัวกันไม่ได้ ทำให้การเจรจาหยุดชะงักไป
แต่หลังจากที่ศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่ กาตาร์ จบลง กักโป วัย 23 ปีที่ทำผลงานได้ดีกับเนเธอร์แลนด์ ก็กลับมามีข่าวย้ายทีมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด อีกครั้ง และดูเหมือนว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เหลือเพียงแค่ทีมปีศาจแดงยอมจ่ายค่าตัวตามที่ทาง พีเอสวี ต้องการเท่านั้น ซึ่งคาดว่าน่าจะอยู่ที่ราว 50 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 2,094 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันจันทร์ที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา พอล จอยซ์ นักข่าวสาย ลิเวอร์พูล จาก เดอะ ไทม์ส สื่อที่มีความน่าเชื่อถืออันดับต้นๆ ของอังกฤษได้รายงานว่า ลิเวอร์พูล ใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงในการคว้าตัว กักโป จาก พีเอสวี ด้วยค่าตัวเบื้องต้น 37 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,550 ล้านบาท) และมีออปชั่นจ่ายเพิ่มเติมเป็น 50 ล้านปอนด์ในอนาคต โดยทาง จอยซ์ ระบุว่า การเจรจาดำเนินไปอย่างรวดเร็วมาก และถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดนักเตะจะเดินมาตรวจร่างกายในเร็วๆ นี้
หลังจากที่มีรายงานข่าวนี้ออกไปไม่ถึง 1 ชั่วโมง บรรดาสื่อที่น่าเชื่อถืออื่นๆ ต่างก็ทยอยลงข่าวนี้เช่นกัน ก่อนที่ทางสโมสรพีเอสวี จะประกาศผ่านทางเว็บไซต์อย่างเป็นทางการว่า ได้บรรลุข้อตกลงในการขาย กักโป ให้กับ ลิเวอร์พูล เรียบร้อยแล้ว ซึ่งถือเป็นอะไรที่เหนือความคาดหมายมากๆ เพราะก่อนหน้านี้ ลิเวอร์พูล แทบไม่เคยมีข่าวกับกองหน้าทีมชาติเนเธอร์แลนด์รายนี้เลยแม้แต่นิดเดียว ไม่ว่าจะเป็นในช่วงก่อนหรือหลังจากจบฟุตบอลโลก
อย่างไรก็ดี สาเหตุสำคัญที่ทำให้ ลิเวอร์พูล ต้องลงตลาดในตำแหน่งกองหน้ากึ่งปีกอีกครั้ง เป็นเพราะอาการบาดเจ็บของ ดีโอโก้ โชต้า และ หลุยส์ ดิอาซ ขณะที่ ดาร์วิน นูนเญซ กองหน้าค่าตัวแพงที่ย้ายมาจาก เบนฟิก้า ในราคา 85 ล้านปอนด์ ก็ยังทำผลงานได้ไม่เป็นที่น่าพอใจนัก
สำหรับ กัคโป ถือว่ามีฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมกับ พีเอสวี ในฤดูกาลนี้ที่ทั้งยิงและแอสซิสต์รวม 30 ประตู ขณะที่กับทีมชาติเนเธอร์แลนด์ในฟุตบอลโลก 2022 ก็ยิงไป 3 ประตู และมีส่วนในการพาทีมผ่านเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ ก่อนจะไปแพ้ในการดวลจุดโทษต่อ อาร์เจนติน่า ในที่สุด
ภาพจาก Getty Images
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :
Website : www.truevisions.co.th
Facebook : Truevisions
Twitter : @TrueVisions
Line : @Truevisions
Youtube official : Truevisionsofficial
Instagram : Truevisionsofficial