ฟอเรสต์เล่นในบ้านมีทีเด็ด แต่ยังดูเป็นรองเชลซีที่ฟอร์มกำลังกลับมา

พรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ พบ เชลซี
สนาม : ซิตี้ กราวด์
เวลา : 23:30 น. วันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม 2566
ถ่ายทอดสดทาง : True Premier Football 1, 2 (ช่อง 600, 602)

ฟอเรสต์
ทีมเจ้าป่าเคยมีช่วงเวลาที่เล่นได้ค่อนข้างดีตั้งแต่ครึ่งหลังของเดือนตุลาคมเป็นต้นมา โดยเคยมีช่วงทำสถิติชนะ 4 จาก 6 เกมในทุกรายการ และในจำนวนนั้นยังเป็นการชนะได้ 3 เกมติดต่อกันอีกด้วย อย่างไรก็ตามในเกมพรีเมียร์ลีกช่วงบ็อกซิ่งเดย์ ฟอเรสต์ เจอกับงานยากไม่น้อย เมื่อต้องบุกมาเยือน แมนฯ ยูไนเต็ด ที่กำลังฟอร์มแรง ก่อนจะแพ้ไปอย่างขาดลอย 3-0 ซึ่งก็ไม่ได้เหนือความคาดหมายอะไร และเป็นอะไรที่เข้าใจได้ เพราะตอนนี้ต้องยอมรับว่าทีมปีศาจแดงกำลังเล่นได้เข้าฝักจริงๆ ทำให้ ฟอเรสต์ ต้องกลับมาตั้งใจกันใหม่ในเกมนี้ซึ่งจะได้กลับมาเล่นในบ้านของตัวเองอีกครั้ง

ในส่วนของสภาพทีมนั้น ฟอเรสต์ มีปัญหานักเตะบาดเจ็บค่อนข้างเยอะ โดยเกมนี้จะยังไม่มี มูสซ่า นียาคาเต้, โอมาร์ ริชาร์ดส์, ชีคคู คูยาเต้ และ ชูเลี่ยน เบียงโคเน่ ที่ยังบาดเจ็บทั้งหมด ส่วน มอร์แกน กิ๊บส์-ไวท์ และ เจสซี่ ลินการ์ด มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย ไม่น่าฟิตทันในเกมนี้ แต่ข่าวดีคือเกมนี้จะได้ ดีน เฮนเดอร์สัน นายทวารที่ยืมมาจาก แมนฯ ยูไนเต็ด กลับมายืนเฝ้าเสาได้อีกครั้ง หลังจากที่เกมก่อนเจอกับต้นสังกัดที่แท้จริงเลยลงเล่นไม่ได้

เชลซี
เชลซี ในยุคของ เกรแฮม พ็อตเตอร์ มีปัญหาเรื่องฟอร์มการเล่นอย่างมากในช่วงก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงเบรกฟุตบอลโลก เพราะ 5 เกมหลังสุดในทุกรายการพวกเขาแพ้ไปถึง 4 เกม โดยเป็นเกมลีกถึง 3 นัด และเกม คาราบาว คัพ ที่พ่าย แมนฯ ซิตี้ ตกรอบไปแล้วเรียบร้อย นั่นทำให้อันดับในตารางคะแนนของทีมสิงห์บลูส์ ร่วงลงไปอยู่อันดับ 8 ทันที อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้พักหายใจกันไปราว 1 เดือนเศษ เชลซี กลับมาในฟอร์มที่ดีอีกครั้ง เมื่อเปิดบ้านเอาชนะ บอร์นมัธ ไปได้ 2-0 ในเกมพรีเมียร์ลีกวันบ็อกซิ่งเดย์ ทำให้สถานการณ์ต่างๆ ที่เคยดูแย่ เริ่มกลับมาโอเคขึ้นอีกครั้ง และพวกเขาก็หวังจะต่อยอดฟอร์มของตัวเองให้ได้ในเกมนัดนี้ที่จะไปเยือน ฟอเรสต์

ในส่วนของสภาพทีม เชลซี ยังมีปัญหานักเตะบาดเจ็บค่อนข้างมาก ข่าวร้ายล่าสุดคือ รีซ เจมส์ แบ็กขวาตัวเก่งที่เจ็บซ้ำ และต้องพักไปอีกเกือบ 2 เดือน รวมกับพวกที่เจ็บอยู่ก่อนหน้านี้แล้วอย่าง เอ็นโกโล่ กองเต้, เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, อาร์มันโด้ โบรย่า, เบน ชิลเวลล์ และ รูเบน ลอฟตัส-ชีค ทำให้เห็นได้ชัดว่าขุมกำลังมีปัญหาอยู่เหมือนกัน นั่นทำให้ พ็อตเตอร์ ต้องมีการปรับแท็คติกไปมาในแต่ละเกม อย่างไรก็ตาม ในส่วนของแนวรุกยังคงใช้ ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมย็อง, ไค ฮาแวร์ตซ์ และ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เป็นสามประสานในแดนหน้าตามเดิม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฟอเรสต์ (4-3-3) : ดีน เฮนเดอร์สัน : เนโก้ วิลเลี่ยมส์, โจ วอร์รอลล์, วิลลี่ โบลี่, แฮร์รี่ ทอฟโฟโล่ : ไรอัล เยตส์, เรโม่ ฟรอยเลอร์, ลูอิส โอไบรอัน : เบรนแนน จอห์นสัน, แซม เซอร์ริดจ์, เอมมานูเอล เดนนิส

เชลซี (4-3-3) : เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า : เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, เทรโวห์ ชาโลบาห์, คาลิดู คูลิบาลี่, มาร์ก กูกูเรย่า : คอเนอร์ กัลลาเกอร์, จอร์จินโญ่, เมสัน เมาท์ : ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, ไค ฮาแวร์ตซ์, ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมย็อง

ความน่าจะเป็น : ฟอเรสต์ อาจจะมีผลงานในบ้านที่ถือว่าใช้ได้ และเคยสร้างเซอร์ไพรส์มาแล้วอย่างการเอาชนะ ลิเวอร์พูล 1-0 ในเกมพรีเมียร์ลีก หรือเอาชนะ สเปอร์ส 2-0 ในเกม คาราบาว คัพ อย่างไรก็ตาม เกมนี้ถือว่าไม่ง่าย เพราะ เชลซี เองถือว่ามีมาตรฐานที่ค่อนข้างสูง และตอนนี้พวกเขาก็กำลังเล่นด้วยความมั่นใจ ตรงข้ามกับ ฟอเรสต์ ที่เพิ่งบุกไปโดน แมนฯ ยูไนเต็ด ถล่มมาหมาดๆ ดูแล้วเกมนี้ยังเชื่อว่าจะเป็น เชลซี ที่ครองเกมบุกได้เหนือกว่า และน่าจะอาศัยคุณภาพที่เหนือกว่าเล่นงานเจ้าถิ่นที่กำลังเมาหมัด ก่อนจะบุกมาเบียดชนะไปได้เป็นอย่างน้อย

สกอร์ที่คาด : น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ แพ้ เชลซี 1-2