เกรแฮม พ็อตเตอร์ กุนซือของ เชลซี ออกมาเผยว่าแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าทีมของตนจะไม่สามารถยิงประตูได้ ทั้งๆ ที่สร้างโอกาสได้อย่างมากมาย ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่พ่ายคาบ้านต่อ เซาธ์แฮมป์ตัน 0-1 เมื่อวันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ไม่ชนะใครในลีกมา 4 เกมติดต่อกันแล้ว และเก็บได้เพียงแค่ 3 แต้มเท่านั้นในรอบ 4 นัดหลังสุด
ในเกมที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นโอกาสดีที่สุดแล้วที่ เชลซี จะกลับมาคว้าชัยชนะได้อีกครั้ง เนื่องจากพวกเขาได้เล่นในบ้าน แถมคู่แข่งยังเป็น เซาธ์แฮมป์ตัน ทีมบ๊วยของตารางที่ก่อนหน้านี้ชนะในพรีเมียร์ลีกแค่เกมเดียวจาก 11 เกมหลังสุด แถมยังแพ้ไปถึง 9 นัด และมีช่วงที่แพ้รวด 6 เกมติดต่อกันด้วย ขณะที่ก่อนหน้ามาเยือน เชลซี ในเกมนี้ ก็แพ้รวดในลีกมา 3 เกมติดต่อกัน
อย่างไรก็ตาม เชลซี กลับเป็นฝ่ายโดน เซาธ์แฮมป์ตัน ออกนำไปก่อนอย่างเหลือเชื่อ จากประตูของ เจมส์ วอร์ด-พราวส์ ในนาทีสุดท้ายของครึ่งแรก หลังจากนั้นในครึ่งหลังทีมสิงโตน้ำเงินครามพยายามบุกอย่างหนัก โดยตลอดทั้งเกมสร้างโอกาสในการจบสกอร์ไปถึง 17 ครั้ง แต่กลับไร้ประสิทธิภาพเนื่องจากพวกเขายิงตรงกรอบได้เพียงแค่ 4 ครั้งเท่านั้น ทำให้สุดท้ายแล้วจบ 90 นาที เชลซี ต้องเป็นฝ่ายพ่ายคาบ้านไป 0-1 ต้องรั้งอยู่อันดับที่ 10 ของตารางคะแนนต่อไป โดยมี 31 แต้มจาก 23 นัด ตามหลังอันดับ 4 อย่าง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ไกลถึง 10 คะแนนเต็ม
หลังจบเกม พ็อตเตอร์ ให้สัมภาษณ์อย่างผิดหวังว่า "ผมคิดว่าในครึ่งแรกเราเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐาน และโดนลงโทษในช่วงท้ายครึ่งแรกจาก เจมส์ วอร์ด-เพราส์ เขายอดเยี่ยมในเรื่องลูกฟรีคิกอยู่แล้ว ต้องยกเครดิตให้ เซาธ์แฮมป์ตัน ด้วยที่มีเกมการเล่นที่ดีในนัดนี้"
"เกมในครึ่งหลังเราพยายามกดดันเข้าใส่อย่างหนัก พยายามที่จะผลักดัน เรามีโอกาสที่จะทำประตูได้แต่มันกลับไม่เป็นอย่างนั้น นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ในเวลานี้ ในครึ่งหลังเรามีโอกาสดีมากๆ ที่จะได้ประตู และผมก็แทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเราจะยิงกันไม่ได้ แน่นอนว่าผมต้องรับผิดชอบกับเรื่องนั้น"
พร้อมกันนี้ พ็อตเตอร์ ยังกล่าวถึงเหตุการณ์ที่ถูกแฟนบอลของ เชลซี โห่ใส่ โดยกล่าวว่า "ผลการแข่งขันในนัดนี้ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ แน่นอนว่ามันสามารถเข้าใจถึงความอึดอัดใจที่เกิดขึ้นของแฟนๆ หน้าที่ของเราคือทำงานต่อไป ผมอยู่ที่่นี่เพื่อช่วยเหลือและปรับปรุงทีมในช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับทุกคน"
ภาพจาก Getty Images
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :
Website : www.truevisions.co.th
Facebook : Truevisions
Twitter : @TrueVisions
Line : @Truevisions
Youtube official : Truevisionsofficial
Instagram : Truevisionsofficial