ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ศึกวันแดงเดือด ลิเวอร์พูล จะรับการมาเยือนของ แมนฯ ยูไนเต็ด โดยเกมนี้ ลิเวอร์พูล เจ้าถิ่น ถือว่ามีฟอร์มการเล่นที่ดีขึ้นในช่วงหลัง หลังจากที่ได้บรรดาตัวหลักบางรายหายเจ็บกลับมา โดยพวกเขาไม่แพ้ใครในเกมลีกมา 4 เกมติดต่อกันแล้ว และมีลุ้นที่จะกลับไปอยู่ในกลุ่มท็อป 4 อีกครั้ง ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็กำลังอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยมสุดๆ ไม่แพ้ใครมา 11 เกมติดต่อกันในทุกรายการ ขณะที่ในพรีเมียร์ลีกก็ไม่แพ้ใครมา 4 เกมติดเหมือนกัน โดยพวกเขาหวังที่จะบุกมาชนะ ลิเวอร์พูล เพื่อโอกาสในการลุ้นแชมป์ลีกต่อไป
พรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ลิเวอร์พูล พบ แมนฯ ยูไนเต็ด
สนาม : แอนฟิลด์
เวลา : 23.30 น. วันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคม 2566
ถ่ายทอดสดทาง : True Premier Football 1, 2 (ช่อง 600, 602) และช่อง True 4K (ช่อง 400)
ลิเวอร์พูล
ทีมหงส์แดงฟอร์มเริ่มดีขึ้นในระยะหลัง โดย 5 นัดหลังสุดในทุกรายการ พวกเขาชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 1 นอกจากนี้ยังไม่แพ้ใครมาสองเกมติดต่อกันแล้ว โดยเป็นเกมพรีเมียร์ลีกที่เสมอ 1 ชนะ 1 ผลงานล่าสุดคือการเปิดบ้านเอาชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน ไป 2-0 และถ้านับเฉพาะฟอร์มในพรีเมียร์ลีก จะเห็นได้ว่า ลิเวอร์พูล ไม่แพ้ใครมา 4 เกมติดต่อกันแล้ว และยังเป็นการชนะได้ถึง 3 เกม นั่นจึงทำให้ตอนนี้พวกเขาขยับขึ้นมารั้งอยู่อันดับ 6 ของตาราง มีอยู่ 39 แต้มจาก 24 นัด ตามหลังอันดับ 4 อย่าง สเปอร์ส เหลือเพียง 6 แต้ม แถมยังแข่งน้อยกว่าถึง 2 เกมด้วย นั่นทำให้ความหวังในการจะกลับมาติดท็อป 4 ของ ลิเวอร์พูล จะพุ่งสูงขึ้นทันทีหากว่าพวกเขาเปิดบ้านเอาชนะคู่ปรับตลอดกาลได้ในเกมนี้
ในส่วนของสภาพทีม ลิเวอร์พูล จะยังคงไม่สามารถใช้งาน หลุยส์ ดิอาซ, ติอาโก้ อัลกันตาร่า และ คาลวิน แรมซี่ย์ ที่ยังไม่หายเจ็บ ส่วน อาร์ตูร์ เมโล่, นาบี เกอิต้า และ โจ โกเมซ ยังมีอาการเจ็บเล็กน้อย ยังไม่น่ามีส่วนร่วมในเกมนี้ แต่ส่วนที่เหลือไม่มีปัญหา ซึ่งบรรดาตัวหลักหลายรายต่างหายเจ็บกลับมาช่วยทีมได้แล้ว ทำให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ จะมีตัวเลือกมากพอสมควร โดยการจัดทีมในนัดนี้หงส์แดงยังมาในระบบ 4-3-3 เหมือนเดิม ขณะที่ 3 ประสานในแดนหน้าคาดว่าจะเป็น ดาร์วิน นูนเญซ, ดีโอโก้ โชต้า และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เหมือนในนัดที่แล้ว
แมนฯ ยูไนเต็ด
หลังแพ้ อาร์เซน่อล 3-2 ในเกมพรีเมียร์ลีกตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา ทีมปีศาจแดงของ เอริค เทน ฮาก ก็ไม่แพ้ใครอีกเลย 11 เกมติดต่อกันในทุกรายการ และยังเป็นการเอาชนะได้ถึง 9 เกม โดยล่าสุดพวกเขาชนะมา 4 เกมติดต่อกันแล้ว ผลงานในเกมล่าสุดคือศึก เอฟเอ คัพ รอบที่ 5 ที่เปิดบ้านเอาชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ไปได้ 3-1 เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา เรียกได้ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังอยู่ในฟอร์มที่แข็งแกร่งมากจริงๆ หลังจากเมื่อสัปดาห์ก่อนเพิ่งจะคว้าแชมป์คาราบาว คัพ มาครองหมาดๆ และยังคงอยู่บนเส้นทางการลุ้นแชมป์ในอีก 3 รายการที่เหลือ ทั้งใน พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ และ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก โดยผลงานในพรีเมียร์ลีกตอนนี้ก็ยังคงรั้งอยู่อันดับ 3 มีอยู่ 49 คะแนนจาก 24 นัด ตามหลังจ่าฝูง อาร์เซน่อล อยู่ 14 แต้ม แต่ยังแข่งน้อยกว่า 2 เกม
ในส่วนของสภาพทีมล่าสุด แมนฯ ยูไนเต็ด จะยังไม่สามารถใช้งานนักเตะอย่าง ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค, คริสเตียน เอริคเซ่น และ อองโตนี่ มาร์กซิยาล ที่ยังบาดเจ็บทั้งหมดเหมือนเดิม ขณะที่ เจดอน ซานโช่ มีอาการป่วย ต้องรอเช็คความฟิตอีกครั้ง แต่ส่วนที่เหลือนั้นไม่มีปัญหา โดยเกมนี้เชื่อว่า เทน ฮาก จะกลับมาใช้ผู้เล่นชุดใหญ่เต็มพิกัดในระบบ 4-2-3-1 แดนกลางยังมี กาเซมิโร่ คอยคุมเกม ขณะที่เกมรุกจะนำโดย มาร์คัส แรชฟอร์ด, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, อันโตนี่ และ เวาท์ เว็กฮอร์สต์
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซง เบคเกอร์ : เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน : จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, สเตฟาน บายเซติช : โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดีโอโก้ โชต้า, ดาร์วิน นูนเญซ
แมนฯ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา : อารอน วาน-บิสซาก้า, ราฟาแอล วาราน, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, ลุค ชอว์ : กาเซมิโร่, เฟร็ด : อันโตนี่, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, มาร์คัส แรชฟอร์ด : เวาท์ เว็กฮอร์สต์
ความน่าจะเป็น : เป็นเกมที่สำคัญมากๆ สำหรับทั้งสองทีม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ลิเวอร์พูล ที่ต้องการจะขยับอันดับขึ้นไปอยู่ในกลุ่มท็อป 4 ให้ได้ ดังนั้นเกมนี้พวกเขาจะต้องเอาชนะให้ได้เท่านั้น เพราะทุกเกมต่อจากนี้ของทีมหงส์แดง การแพ้หรือเสมอคือการขาดทุนดีๆ นี่เอง อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังอยู่ในฟอร์มที่ดีมากๆ ไม่แพ้ใครมา 11 เกมติดต่อกันแล้วในทุกรายการ แม้ว่าที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล จะเหนือกว่ายามที่เจอกับปีศาจแดง แต่ชั่วโมงนี้เป็นอะไรที่แตกต่างกันออกไป เพราะ เอริค เทน ฮาก เข้ามาเปลี่ยนให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ให้กลายเป็นอีกทีมอย่างแท้จริง เชื่อว่าเกมนี้จะเป็นเกมที่สู้กันสูสี เพราะเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีไม่มีใครยอมใคร แต่ความเร็วในเกมรุกของ แมนฯ ยูไนเต็ด น่าจะสร้างปัญหาให้แนวรับหงส์แดงไม่น้อย และแดนกลางของ ลิเวอร์พูล ถือว่าเป็นจุดอ่อนในระยะหลัง ดังนั้นเกมนี้เชื่อว่า แมนฯ ยูไนเต็ด มีโอกาสสูงที่จะไม่แพ้ อยู่ที่ว่าจะคมพอที่จะบุกมาเอาชนะได้หรือไม่เท่านั้น แต่โอกาสที่จะออกเสมอกันมีความเป็นไปได้มากที่สุด
สกอร์ที่คาด : ลิเวอร์พูล เสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-1
ภาพจาก Getty Images
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :
Website : www.truevisions.co.th
Facebook : Truevisions
Twitter : @TrueVisions
Line : @Truevisions
Youtube official : Truevisionsofficial
Instagram : Truevisionsofficial