เทน ฮาก รับโกรธจัดผีเละ 7-0 สับลูกทีมไร้ความเป็นมืออาชีพ

แมนฯ ยูไนเต็ด มีคิวบุกไปเยือน ลิเวอร์พูล ที่ แอนฟิลด์ ในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยเกมนี้ชัยชนะถือว่ามีความสำคัญมากสำหรับทั้งสองทีม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทีมหงส์แดงที่ต้องการทำแต้มเข้าใกล้อันดับ 4 ให้มากขึ้น ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ถ้าชนะในเกมนี้ได้ นอกจากจะยังรักษาโอกาสในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกแล้ว ยังแทบจะการันตีว่าจะไม่หลุดจากพื้นที่ท็อป 4 เลยก็ว่าได้

เกมในครึ่งแรกทั้งสองทีมยังเล่นได้สูสีกัน ลิเวอร์พูล ครองบอลและสร้างโอกาสจบสกอร์ได้หลายครั้ง แต่ส่วนใหญ่ยังหวังผลไม่ค่อยได้ ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็มีโอกาสยิงตรงกรอบอยู่หลายครั้ง จนกระทั่งนาทีที่ 43 ลิเวอร์พูล ก็ออกนำก่อนจนได้ จากจังหวะที่ โคดี้ กักโป หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนแต่งบอลเข้าขวาแล้วยิงเสียบเสาไกลเข้าไปอย่างสวยงาม ให้ทีมหงส์แดงขึ้นนำ 1-0 และเป็นประตูเดียวในช่วงครึ่งแรก

แม้ว่ารูปเกมจะสูสีกัน แต่ในครึ่งหลังถือว่าเป็นหายนะของ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างแท้จริง เพราะโดน ลิเวอร์พูล ยิงอีก 6 ประตูรวด โดยได้จาก ดาร์วิน นูนเญซ นาทีที่ 47 และ 75, กักโป นาทีที่ 50, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ นาทีที่ 66 และ 83 และปิดท้ายด้วย โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง นาทีที่ 88 ทำให้จบเกม ลิเวอร์พูล ถล่ม แมนฯ ยูไนเต็ด ยับเยิน 7-0 ถือเป็นชัยชนะเหนือทีมปีศาจแดงด้วยความห่างที่สุดเท่าที่เคยมีมา หลังจากที่ ลิเวอร์พูล เคยชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยสกอร์ 7-1 เมื่อเดือนตุลาคมปี 1895 สมัยที่อยู่ในระดับดิวิชั่น 2

หลังจบเกม เทน ฮาก ให้สัมภาษณ์ด้วยความรู้สึกที่ผิดหวังสุดๆ โดยกล่าวว่า "เกมฟุตบอลคุณสามารถแพ้ได้ แต่มันต้องไม่ใช่ลักษณะแบบนี้ ผมคิดว่าครึ่งแรกเรายังเล่นได้ดี และมีความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวก่อนจะจบ 45 นาทีแรก แต่ในครึ่งหลังมันแย่มาก มันไม่มีความเป็นมืออาชีพเลย เราไม่ได้เล่นกันเป็นทีม และเป็นเรื่องที่เราต้อมาคุยกัน"

"มันไม่ใช่แค่นักเตะเพียง 1 หรือ 2 คน แต่มันคือทั้งทีม ผมเห็นนักเตะทั้ง 11 คนเล่นแบบไร้สติ ไม่ทำตามแผนที่วางไว้ ไม่มีความเป็นมืออาชีพ ซึ่งสำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด แล้ว เรามีมาตรฐานที่สูงกว่านี้"

"ผมรู้สึกประหลาดใจมากๆ เพราะตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทีมนี้มีทัศนคติของผู้ชนะ แต่ในครึ่งหลังเรื่องพวกนี้หายไปหมด เราเล่นกันอย่างไร้ทิศทาง และไม่ได้ทำในสิ่งที่ต้องทำ ตอนนี้เราต้องกลับไปเริ่มต้นกันใหม่ เราเคยกลับมาได้หลายต่อหลายครั้ง และพวกเราจะกลับมาได้อีกครั้ง"

"แน่นอนว่าผมรู้สึกโกรธมาก เราทำให้แฟนๆ ต้องผิดหวัง นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดที่สุด ผลการแข่งขันในเกมนี้มันทำให้เราได้เห็นถึงความเป็นจริง และเราต้องรับมือกับมันด้วยความเข้มแข็ง"

สำหรับโปรแกรมของ แมนฯ ยูไนเต็ด นัดถัดไป พวกเขาจะได้กลับไปเล่นที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด พบกับ เรอัล เบติส ในศึก ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดแรก ในวันที่ 9 มีนาคม ต่อด้วยเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่จะยังเล่นในบ้านอีกครั้ง รับมือ เซาธ์แฮมป์ตัน ในวันที่ 12 มีนาคมนี้