สเปอร์สเปิดบ้านรับมือหงส์แดง เกมสุดสูสีอาจจบลงด้วยผลเสมอ

สเปอร์สเปิดบ้านรับมือหงส์แดง เกมสุดสูสีอาจจบลงด้วยผลเสมอ
ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2023-24 ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ จะเปิดรัง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล โดยเกมนี้ สเปอร์ส เจ้าถิ่นยังคงฟอร์มร้อนแรงต่อเนื่อง ยังไม่แพ้ใครในลีกเลยแม้แต่เกมเดียว และแม้ว่านัดที่แล้วจะทำได้แค่เสมอ อาร์เซน่อล แต่เป็นเกมที่ยอดเยี่ยมสำหรับพวกเขา ขณะที่ ลิเวอร์พูล นั้นยอดเยี่ยมกว่า เมื่อยังไม่แพ้ใครเลยในปีนี้เช่นกัน แถมยังชนะมา 7 เกมติดต่อกันแล้วในทุกรายการ ทำให้เกมนี้จะเป็นอีกเกมที่น่าจะสูสีกันมากๆ

พรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ พบ ลิเวอร์พูล
สนาม : ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม
เวลา : 23.30 น. วันเสาร์ที่ 30 กันยายน 2566
ถ่ายทอดสดทาง : True Premier Football 1, 2 (ช่อง 600, 602)

สเปอร์ส
ทีมไก่เดือยทอง ของ แอนจ์ ปอสเตโคกลู ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมจริงๆ นับตั้งแต่เปิดฤดูดาล หลังลงเล่นในลีกมา 6 เกมยังไม่แพ้ใคร ชนะ 4 เสมอ 2 มี 14 แต้ม รั้งอยู่อันดับ 4 ของตาราง โดยก่อนหน้าที่จะบุกไปเสมอกับ อาร์เซน่อล มาได้ในเกมลีกนัดที่แล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน สเปอร์ส เคยชนะมา 4 เกมติดต่อกัน เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทีมที่ทำผลงานในปีนี้ได้โดดเด่นมากจริงๆ ทั้งๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งในเรื่องของตัวกุนซือหรือว่าตัวผู้เล่น แต่กลับเล่นได้ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ ทำให้ตอนนี้พวกเขาลงเล่นด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม และพร้อมที่จะเอาชนะทุกทีมที่เจอ

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุด สเปอร์ส ยังมีปัญหานักเตะบาดเจ็บหน้าเดิมๆ โดยจะยังคงไม่สามารถใช้งานนักเตะอย่าง โรดริโก้ เบนตานกูร์, ไรอัน แซงเซอญง, ไบรอัน จิล, อัลฟี่ ไวท์แมน และ อีวาน เปริซิช ที่ยังบาดเจ็บอยู่ทั้งหมด ขณะที่ในรายของ โจวานี่ โล เซลโซ่ และ เบรนแนน จอห์นสัน มีอาการเจ็บเล็กน้อย ต้องรอเช็คความฟิตอีกครั้ง แต่ส่วนที่เหลือนั้นไม่มีปัญหา โดยเกมนี้ สเปอร์ส จะมาในระบบ 4-2-3-1 เหมือนเดิม แนวรุกจะใช้ ซน ฮึง-มิน ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมี เมเนอร์ โซโลมอน, เจมส์ แม็ดดิสัน และ เดยัน คูลูเซฟสกี้ เป็นตัวสนับสนุน

ลิเวอร์พูล
ทีมหงส์แดงของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ถือว่ามีผลงานที่ยอดเยี่ยมมากๆ นับตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาล โดยหลังจากที่บุกไปเสมอกับ เชลซี 1-1 ในเกมแรกของพรีเมียร์ลีก หลังจากนั้นพวกเขาลงเล่นอีก 7 เกมรวมทุกรายการและชนะได้ทั้งหมด โดยเป็นเกมพรีเมียร์ลีก 5 เกม ส่วนอีก 2 เกมเป็นฟุตบอลถ้วยอย่าง ยูโรป้า ลีก รอบแบ่งกลุ่ม และ คาราบาว คัพ โดยผลงานในเกมล่าสุดคือการเปิดบ้านชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ ใน คาราบาว คัพ เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนเกมลีกนัดล่าสุดเมื่อสัปดาห์ก่อนก็ยอดเยี่ยม เมื่อเล่นใน แอนฟิลด์ เอาชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ไปได้ 3-1 จนทำให้ตอนนี้เก็บไปแล้ว 16 แต้ม รั้งอันดับ 2 ตามหลังจ่าฝูงอย่าง แมนฯ ซิตี้ แค่ 2 แต้มเท่านั้น และที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ ลิเวอร์พูล ชนะคู่แข่งด้วยสกอร์ 3-1 มา 5 ครั้งแล้วในซีซั่นนี้ รวมถึง 4 เกมหลังสุดก็ชนะด้วยสกอร์ดังกล่าว

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น ลิเวอร์พูล จะยังคงไม่มี ติอาโก้ อัลกันตาร่า ที่ยังไม่หายเจ็บแค่รายเดียว ส่วนในรายของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กลับมาซ้อมได้แล้ว แต่ต้องรอเช็คความฟิตอีกครั้ง ซึ่งน่าจะมีชื่อเป็นตัวสำรองเป็นอย่าง ส่วนที่เหลือนั้นไม่มีปัญหา ฟิตสมบูรณ์ทั้งหมด โดยเกมนี้ ลิเวอร์พูล จะมาในระบบ 4-3-3 แนวรุกจะยังใช้ 3 ประสานในแดนหน้าอย่าง หลุยส์ ดิอาซ, ดาร์วิน นูนเญซ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ส่วนในแดนกลางจะเป็น อเล็กซิส แม็ก อัลลิสเตอร์, เคอร์ติส โจนส์ และ โดมินิก โซโบซไล เหมือนเดิม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
สเปอร์ส (4-2-3-1) : กูเยลโม่ วิคาริโอ : เปโดร ปอร์โร่, คริสเตียน โรเมโร่, มิคกี้ ฟาน เดอ เฟ่น, เดสตินี่ อูโดกี้ : อีฟส์ บิสซูม่า, ป๊าป ซาร์ : เดยัน คูลูเซฟสกี้, เจมส์ แม็ดดิสัน, เมเนอร์ โซโลมอน : ซน ฮึง-มิน

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซง เบคเกอร์ : โจ โกเมซ, โฌแอล มาติป, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน : โดมินิก โซโบซไล, อเล็กซิส แม็ก อัลลิสเตอร์, เคอร์ติส โจนส์ : โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ, หลุยส์ ดิอาซ

ความน่าจะเป็น : เป็นเกมที่สูสีมากๆ และออกได้ทั้งสามหน้า สเปอร์ส ได้เปรียบจากการเล่นในบ้าน อีกทั้งฟอร์มการเล่นที่ผ่านมาก็ทำได้ยอดเยี่ยม แต่ระยะหลังพวกเขามีสถิติในการเจอกับ ลิเวอร์พูล ที่ไม่ดีเท่าไหร่ ประกอบกับทีมหงส์แดงช่วงนี้ก็ฟอร์มดีมากเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เกมนี้น่าจะแตกต่างออกไป สเปอร์ส ดูมีการยกระดับการเล่นขึ้นมาได้ดีมาก ถ้าหากว่า ลิเวอร์พูล ติดประมาทก็มีสิทธิ์โดนเล่นงานได้เหมือนกัน แต่กระนั้นเชื่อว่าด้วยเชิงฟุตบอลที่ทันกัน น่าจะทำให้มีความสูสี อยู่ที่ว่าใครจะเล่นได้ละเอียดกว่ากัน ซึ่งดูแล้วโอกาสที่จะจบลงด้วยการเสมอกันแบบมีสกอร์น่าจะมีความเป็นไปได้มากที่สุด

สกอร์ที่คาด : สเปอร์ส เสมอ ลิเวอร์พูล 2-2

ภาพจาก Getty Images

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :

Website : www.truevisions.co.th

Facebook : Truevisions

Twitter : @TrueVisions

Line : @Truevisions

Youtube official : Truevisionsofficial

Instagram : Truevisionsofficial