แม็กไกวร์เชื่อทวงตัวจริงผี ชี้ไม่เคยคิดว่าเป็นแค่ตัวแถม

แม็กไกวร์ กลายเป็นกองหลังส่วนเกินของ แมนฯ ยูไนเต็ด มาตั้งแต่เมื่อฤดูกาลก่อน และยิ่งชัดเจนมากขึ้นในฤดูกาลนี้ หลังถูกริบปลอกแขนกัปตันทีมไปให้กับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส โดยถ้ามองถึงลำดับความสำคัญภายในทีมแล้ว กองหลังทีมชาติอังกฤษวัย 30 ปี กลายเป็นตัวเลือกลำดับสุดท้ายในตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟของทีม ต่อจาก ราฟาแอล วาราน, ลิซานโดร มาร์ติเนซ และ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ที่มักจะถูก เทน ฮาก เลือกลงสนามก่อนอยู่เสมอ

อย่างไรก็ตาม ในเกมพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุดก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงเบรกทีมชาติ แม็กไกวร์ กลับมาทำผลงานได้ดีอีกครั้ง หลังเล่นได้อย่างแข็งแกร่งและมีส่วนช่วยให้ทีมคัมแบ็กกลับมาเอาชนะ เบรนท์ฟอร์ด ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บได้จากการทำคนเดียวสองประตูของ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประตูที่สองที่เป็นประตูชัยของทีมนั้น แม็กไกวร์ ยังเป็นคนโหม่งแอสซิสต์ให้กับ แม็คโทมิเนย์ อีกด้วย

ล่าสุด แม็กไกวร์ ซึ่งอยู่ในระหว่างเตรียมที่จะรับใช้ทีมชาติอังกฤษ ในเกมกระชับมิตรที่จะพบกับ ออสเตรเลีย ต่อด้วยเกม ยูโร 2024 รอบคัดเลือกที่จะรับการมาเยือนของ อิตาลี ในวันที่ 13 และ 17 ตุลาคมนี้ตามลำดับนั้น ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับสถานะของตัวเองในทีม แมนฯ ยูไนเต็ด เวลานี้ว่า เขาเชื่อว่าตัวเองมีคุณภาพมากพอที่จะกลับมาทวงตำแหน่งตัวจริงในทีมกลับคืนมาอีกครั้ง และไม่คิดว่าจะต้องนั่งดูเพื่อนเล่นบนม้านั่งสำรองตลอดไป พร้อมกันนี้ยังชี้ว่าสถิติของเขายามที่ได้ลงเล่นตัวจริงไม่ว่าจะกับสโมสรหรือทีมชาตินั้นยอดเยี่ยมมากแค่ไหน โดยกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า

"ผมไม่คิดว่าตัวเองจะต้องมานั่งดูเพื่อนร่วมทีมลงเล่นไปตลอดชีวิตแน่ๆ หรือว่าจะได้ลงเล่นเป็นตัวจริงแค่เดือนละครั้ง ซึ่งถ้าหากมันยังคงเป็นไปแบบนั้น ผมคิดว่าตอนนั้นคงต้องมีการพูดคุยกับสโมสรเพื่อหารือเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น"

"ผมรู้ดีว่ามันไม่ใช่การตัดสินใจของผมว่าจะได้ลงเล่นเป็นตัวจริงให้กับยูไนเต็ดหรือไม่ ก็คงต้องรอดูว่าระหว่างที่เราพักจากสโมสรเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์ เมื่อกลับไปแล้วจะมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปหรือไม่"

"ผมยังเชื่อมั่นในฝีเท้าของตัวเอง และก็รู้สึกเจ็บใจอยู่บ้าง เพราะจำนวนเกมที่ได้ลงสนามในตอนนี้ไม่ได้ใกล้เคียงกับความต้องการของผมเลย แต่ผมคงต้องพูดว่าสถิติของผมกับผู้จัดการทีมคนนี้ (เอริค เทน ฮาก) มันค่อนข้างชัดเจน เพราะทีมมีเปอร์เซ็นต์ที่จะชนะได้สูงมากเวลาที่ผมได้ลงเล่น"

"หากลองมองดูสถิติของผมในช่วง 15-20 เกมที่ผ่านมาทั้งในทีมชาติและสโมสร ผมก็ค่อนข้างพอใจฟอร์มการเล่นของตัวเองมาก ตอนนี้ผมต้องการมีสมาธิกับการช่วยทีมชาติอังกฤษในสองเกมใหญ่ที่กำลังจะมาถึง จากนั้นเป้าหมายต่อไปคือการชิงตำแหน่งตัวจริงใน แมนฯ ยูไนเต็ด กลับคืนมาให้ได้ รวมถึงช่วยทีมไต่อันดับในพรีเมียร์ลีกกลับขึ้นไปอีกครั้ง"

ทั้งนี้ สถิติของ แม็กไกวร์ ในการลงสนามในนามสโมสรและทีมชาติ นับตั้งแต่จบศึกฟุตบอลโลก 2022 เป็นต้นมา อยู่ในระดับที่ยอดเยี่ยมมากๆ เนื่องจากมีเปอร์เซ็นต์ทำให้ทีมชนะสูงถึง 88.9% เลยทีเดียว โดยเจ้าตัวได้ลงสนามไปทั้งสิ้น 18 นัด ปรากฏว่าทีมชนะได้ถึง 16 เกม เสมอ 1 และแพ้แค่ 1 เท่านั้น ซึ่งเกมเดียวที่แพ้คือเกม ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดที่สอง ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด บุกไปพ่าย เซบีย่า ขาดลอย 3-0 นั่นเอง