ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ จะเปิดรัง ซิตี้ กราวด์ รับการมาเยือนของ อาร์เซน่อล โดยเกมนี้ ฟอเรสต์ เจ้าถิ่น มีฟอร์มที่ดีขึ้นในช่วงที่ผ่านมา หรือว่านับตั้งแต่ที่มีการเปลี่ยนโค้ชเมื่อช่วงปลายเดือนธันวาคม โดยพวกเขาแพ้แค่เกมเดียวจาก 6 เกมหลังสุดรวมทุกรายการ และยังชนะได้ถึง 3 เกม ขณะที่ อาร์เซน่อล หลังจากที่ฟอร์มตกมาร่วมเดือน ล่าสุดหลังจากที่ได้พักยาวช่วงปีใหม่ พวกเขากลับมาคืนฟอร์มได้เรียบร้อยด้วยการถล่ม คริสตัล พาเลซ ขาดลอย 5-0 ทำให้ตอนนี้ความมั่นใจกลับมาเต็มเปี่ยมกันอีกครั้ง
พรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ พบ อาร์เซน่อล
สนาม : ซิตี้ กราวด์
เวลา : 02.30 น. พุธที่ 31 มกราคม 2566 (แข่งคืนวันอังคาร)
ถ่ายทอดสดทาง : True Premier Football 1, 2 (ช่อง 600, 602)
ฟอเรสต์
นับตั้งแต่เปลี่ยนโค้ชจาก สตีฟ คูเปอร์ มาเป็น นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ ผลงานของทีมเจ้าป่าก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าจะประเดิมเกมแรกด้วยการพ่าย บอร์นมัธ คาบ้านไป 2-3 ในช่วงปลายเดือนธันวาคม แต่หลังจากนั้นพวกเขาแพ้แค่เกมเดียวจาก 6 เกมหลังสุดรวมทุกรายการ และมีช่วงที่ไม่แพ้ใคร 4 เกมติดต่อกันด้วย โดยผลงานในเกมล่าสุดคือศึกเอฟเอ คัพ รอบที่ 4 ที่บุกไปเสมอกับ บริสตอล ซิตี้ 0-0 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่วนเกมพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุดเมื่อ 10 วันก่อนนั้น พวกเขาบุกไปพ่าย เบรนท์ฟอร์ด แบบเฉียดฉิว 3-2 พลาดทำสถิติชนะในเกมลีก 3 นัดติดครั้งแรกของซีซั่น ทำให้ตอนนี้พวกเขามีอยู่ 20 คะแนนจาก 21 นัด รั้งอยู่อันดับที่ 16 ของตาราง โดยมีแต้มทิ้งห่างพื้นที่ตกชั้นอยู่ 4 แต้มด้วยกัน
ขณะที่ในส่วนของสภาพทีมนั้น ฟอเรสต์ ถือว่ามีปัญหานักเตะบาดเจ็บไม่มากนัก แต่หลักๆ จะเป็นเรื่องตัวผู้เล่นที่ต้องไปเล่นทีมชาติในช่วงนี้มากกว่า โดยพวกที่ยังไม่หายเจ็บนั้นจะมีแค่ ไทโว่ อโวนิยี่, เฟลิเป้, แอนโธนี่ อีแลงก้า และ ดิว็อก โอริกี้ เท่านั้น ส่วนที่ต้องไปเล่นทีมชาตินั้นเพียบ ไม่ว่าจะเป็น โอล่า ไอน่า, มูสซ่า นียาคาเต้, อิบราฮิม ซองกาเร่, แซร์จ โอริเย่ร์, วิลลี่ โบลี่ และ ชีคคู คูยาเต้ ซึ่งเป็นแข้งแอฟริกันทั้งหมด ทำให้เกมนี้ ฟอเรสต์ น่าจะยังยึดผู้เล่นชุดเดิมๆ เป็นหลัก ในระบบการเล่น 4-2-3-1 แนวรุกจะใช้ คริส วู้ด ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมี คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย, มอร์แกน กิ๊บส์-ไวท์ และ นิโกลาส โดมิงเกซ คอยสนับสนุนเกมรุก
อาร์เซน่อล
ทีมปืนใหญ่มีช่วงเวลาที่ฟอร์มตกต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงต้นเดือนธันวาคม มาจนถึงต้นเดือนมกราคมเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาเกือบๆ 1 เดือนเต็มที่ชนะแค่เกมเดียวจากการลงเล่น 7 เกมรวมทุกรายการ และยังมีช่วงที่แพ้ 3 เกมติดต่อกันด้วย โดยในจำนวนนี้เป็นเกมพรีเมียร์ลีกถึง 5 เกม และพวกเขาแพ้ไปถึง 3 นัด จนทำให้อันดับรูดลงมาอยู่ถึงอันดับที่ 4 ของตาราง ขณะที่เกมเอฟเอ คัพ ก็ต้องตกรอบไปตั้งแต่รอบที่ 3 หลังแพ้คาบ้านต่อ ลิเวอร์พูล ไป 0-2 อย่างไรก็ตาม ในเกมลีกนัดล่าสุดเมื่อ 10 วันที่แล้ว อาร์เซน่อล กลับมาคืนฟอร์มได้อีกครั้ง หลังจัดการเปิดบ้านถล่ม คริสตัล พาเลซ ไปขาดลอย 5-0 หยุดยั้งการไม่ชนะต่อเนื่องในลีกไว้เพียง 3 เกม ทำให้ล่าสุดเก็บเพิ่มเป็น 43 คะแนนจาก 21 นัด ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 3 ของตาราง โดยมีแต้มตามหลังจ่าฝูงอย่าง ลิเวอร์พูล อยู่ 5 แต้ม
ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น อาร์เซน่อล จะยังไม่มีผู้เล่นอย่าง ยูร์เรียน ทิมเบอร์, โธมัส ปาร์เตย์ และ ฟาบิโอ วิเอยร่า ที่ยังไม่หายเจ็บ ขณะที่ ทาเคฮิโร่ โทมิยาสึ และ โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ ยังติดภารกิจกับทีมชาติ นั่นทำให้เกมนี้ อาร์เซน่อล จะมาในระบบ 4-3-3 ตามเดิม สามประสานในแดนหน้าเกมนี้จะยังเป็น บูคาโย่ ซาก้า, กาเบรียล เชซุส และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ คอยไล่ล่าประตู ขณะที่แดนกลางจะมี มาร์ติน โอเดการ์ด และ ดีแคลน ไรซ์ เป็นตัวขับเคลื่อน
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฟอเรสต์ (4-2-3-1) : แม็ตต์ เทอร์เนอร์ : กอนซาโล่ มอนเตียล, แอนดรูว์ โอโมบามิเดเล่, มูรีโย่ โดส ซานโตส, แฮร์รี่ ทอฟโฟโล่ : ไรอัน เยตส์, ดานิโล่ : คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย, มอร์แกน กิ๊บส์-ไวท์, นิโกลาส โดมิงเกซ : คริส วู้ด
อาร์เซน่อล (4-3-3) : ดาบิด ราย่า : เบน ไวท์, วิลเลี่ยม ซาลิบา, กาเบรียล มากัลเญส, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ : มาร์ติน โอเดการ์ด, ดีแคลน ไรซ์, ไค ฮาแวร์ตซ์ : บูคาโย่ ซาก้า, กาเบรียล เชซุส, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่
ความน่าจะเป็น : ฟอเรสต์มีผลงานที่ดีขึ้นมากก็จริงในช่วงที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่ถึงกับน่าประทับใจมากขนาดนั้น และเกมนี้เมื่อดูกันที่คุณภาพแล้ว พวกเขายังเป็นรองทีมเยือนอย่าง อาร์เซน่อล อยู่มาก ประกอบกับการที่ทีมปืนใหญ่ตอนนี้กลับมาฟิตเต็มสูบแล้วหลังจากที่ได้พักค่อนข้างนานตั้งแต่ผ่านพ้นปีใหม่เป็นต้นมา ทำให้เกมนี้เชื่อว่าจะเป็น อาร์เซน่อล ที่ครองเกมได้เหนือกว่า และถ้าหากว่าไม่มีอะไรผิดพลาด ด้วยคุณภาพเกมรุกที่ดุดันของพวกเขา น่าจะบุกมาเอาชนะ ฟอเรสต์ ได้ไม่ยากนัก
สกอร์ที่คาด : ฟอเรสต์ แพ้ อาร์เซน่อล 1-3
ภาพจาก Getty Images
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :
Website : www.truevisions.co.th
Facebook : Truevisions
Twitter : @TrueVisions
Line : @Truevisions
Youtube official : Truevisionsofficial
Instagram : Truevisionsofficial