พาเลซยังฟอร์มบู่ไม่เลิก มีสิทธิ์โดนเชลซีบุกอัดคาบ้าน

พรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
คริสตัล พาเลซ พบ เชลซี
สนาม : เซลเฮิร์ตซ์ พาร์ค
เวลา : 03.00 น. อังคารที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 (แข่งคืนวันจันทร์)
ถ่ายทอดสดทาง : True Premier Football 1, 2 (ช่อง 600, 602)

คริสตัล พาเลซ
คริสตัล พาเลซ ของ รอย ฮ็อดจ์สัน ผลงานตกลงไปเยอะในช่วงที่ผ่านมา หลังชนะได้แค่ 2 เกมจากการลงเล่น 14 เกมหลังสุดในทุกรายการ และถ้าดูเฉพาะในพรีเมียร์ลีก เคยมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ไม่ชนะใคร 8 นัดติดต่อกัน และยังเป็นการแพ้ไปถึง 5 เกม ยังดีที่ 4 เกมหลังสุดในลีกพวกเขาชนะ 2 แพ้ 2 ทำให้พอจะมีคะแนนขยับขึ้นมาได้บ้าง แต่ผลงานในเกมล่าสุดคือการบุกไปโดน ไบรท์ตัน ถล่มขาดลอย 4-1 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นั่นทำให้ตอนนี้ คริสตัล พาเลซ มีอยู่ 24 คะแนนจาก 23 นัด รั้งอยู่อันดับที่ 15 ของตาราง โดยมีคะแนนอยู่เหนือโซนตกชั้น 5 คะแนน และข้อดีอีกอย่างก็คือ พาเลซ แข่งน้อยกว่าทีมอื่นๆ ในโซนท้ายตารางอยู่ 1 นัด

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น คริสตัล พาเลซ ถือว่ามีปัญหานักเตะบาดเจ็บมากพอสมควร โดยเกมนี้จะไม่สามารถใช้งานผู้เล่นอย่าง ชีค ดูกูเร่, ร็อบ โฮลดิ้ง, โจเอล วอร์ด, เอเบเรชี่ เอเซ่, ไมเคิ่ล โอลิเซ่, มาร์ก เกฮี และ เจซูรัน รัค-ซาคยี่ ที่บาดเจ็บทั้งหมด แต่ที่เหลือไม่มีปัญหาพร้อมลงสนาม โดยเกมนี้ คริสตัล พาเลซ น่าจะมาในระบบ 4-3-3 แนวรุกจะใช้สามประสานอย่าง ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า, จอร์แดน อายิว และ เจฟฟรีย์ ชลุปป์ คอยไล่ล่าประตู

เชลซี
เชลซี ภายใต้การนำของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ แพ้มาตลอดในเกมพรีเมียร์ลีก 2 นัดหลังสุด โดยเป็นการบุกไปพ่ายต่อ ลิเวอร์พูล 4-1 ต่อด้วยการพ่ายคาบ้านต่อ วูล์ฟแฮมป์ตัน ไปขาดลอย 2-4 ตามลำดับ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นชนะในเกมลีกมา 3 นัดติดต่อกัน นั่นทำให้ เชลซี กลับมาเข้าลูปเดิมๆ ก็คือเดี๋ยวชนะเดี๋ยวแพ้ เอาแน่เอานอนอะไรไม่ค่อยได้ ส่งผลให้มีอยู่แค่ 31 แต้มจาก 23 เกม ตกลงไปอยู่ครึ่งล่างของตารางอีกครั้งในอันดับที่ 11 อย่างไรก็ตาม ยังดีที่ฟอร์มการเล่นในเกมนัดล่าสุด ซึ่งเป็นศึก เอฟเอ คัพ รอบที่ 4 นัดรีเพลย์นั้น เชลซี บุกไปเอาชนะ แอสตัน วิลล่า ได้แบบน่าเซอร์ไพรส์ 3-1 ทำให้ยังอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์ เอฟเอ คัพ อยู่ และน่าจะช่วยทำให้ความมั่นใจกลับคืนมาอีกครั้ง ก่อนหน้าที่ต้องออกไปเยือน คริสตัล พาเลซ คืนนี้

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดของ เชลซี นั้น ยังมีปัญหานักเตะบาดเจ็บกันมากมายเหมือนเดิม โดยพวกที่ยังเจ็บอยู่และลงเล่นไม่ได้อย่างแน่นอนนั้นประกอบไปด้วย เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, เทรโวห์ ชาโลบาห์, รีซ เจมส์, มาร์ก กูกูเรย่า, โรเบิร์ต ซานเชซ, เลสลี่ย์ อูโกชุควู, โรเมโอ ลาเวีย และ ลีวาย โคลวิลล์ ทำให้เกมนี้ เชลซี จะมาในระบบการเล่น 4-2-3-1 เหมือนเดิม แนวรุกจะได้ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมีจะมีตัวสนับสนุนในเกมรุกอย่าง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, คอเนอร์ กัลลาเกอร์ และ โคล พาลเมอร์

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
คริสตัล พาเลซ (4-3-3) : ดีน เฮนเดอร์สัน : ดาเนียล มูนญอซ, โยอาคิม แอนเดอร์เซ่น, คริส ริชาร์ดส์, ไทริค มิทเชลล์ : วิลล์ ฮิวจ์ส, อดัม วาร์ตัน, เจฟเฟอร์สัน เลร์มา : ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า, จอร์แดน อายิว, เจฟฟรีย์ ชลุปป์

เชลซี (4-2-3-1) : จอร์จี้ เปโตรวิช : มาโล กุสโต้, อักเซล ดิซาซี่, เบอนัวต์ บาเดียชิล, เบน ชิลเวลล์ : มอยเซส ไกเซโด้, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ : โคล พาลเมอร์, คอเนอร์ กัลลาเกอร์, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง : คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู

ความน่าจะเป็น : เทียบฟอร์มกันแล้ว ถือว่าเป็นสองทีมที่ฟอร์มไม่ดีด้วยกันทั้งคู่ แต่ดูเหมือนว่า พาเลซ จะย่ำแย่กว่าในเรื่องนี้ หลังมีสถิติชนะเพียง 2 เกมจากการลงเล่น 14 เกมหลังสุดรวมทุกรายการ นั่นทำให้เกมนี้แม้ว่าจะได้เล่นในบ้าน แต่ก็ไม่ได้เหนือกว่าผู้มาเยือนอย่าง เชลซี สักเท่าไหร่ รูปเกมที่ออกมาน่าจะเป็น เชลซี ที่ครองเกมได้มากกว่า และถ้าหากว่าไม่ใช้โอกาสเปลืองกันไปเอง ก็น่าจะมีโอกาสเอาชนะไปได้ในเกมนี้

สกอร์ที่คาด : คริสตัล พาเลซ แพ้ เชลซี 1-2