เทน ฮาก เสียดายผียันไม่อยู่ พลาดโอกาสคว้า 3 แต้ม

แมนฯ ยูไนเต็ด มีคิวบุกมาเยือน เบรนท์ฟอร์ด ในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา หลังจากที่ทำผลงานยอดเยี่ยมเอาไว้ก่อนเข้าสู่ช่วงเบรกทีมชาติ ด้วยการเอาชนะ ลิเวอร์พูล 4-3 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ในเกม เอฟเอ คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ เมื่อราว 2 สัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ เบรนท์ฟอร์ด เจ้าถิ่นผลงานย่ำแย่มากๆ ในช่วงที่ผ่านมา เมื่อไม่ชนะใครในลีกมา 6 เกมติดต่อกันแล้ว และแพ้ไปถึง 13 จากการลงเล่น 17 เกมหลังสุดในทุกรายการ

อย่างไรก็ตาม รูปเกมที่ออกมากลับไม่ได้เป็นอย่างที่หลายคนคาด แมนฯ ยูไนเต็ด กลับเป็นฝ่ายโดย เบรนท์ฟอร์ด บุกกระหน่ำเกือบทั้งเกม เมื่อเป็นฝ่ายสร้างโอกาสจบสกอร์ได้มากถึง 31 ครั้ง และได้เตะมุมมากถึง 14 หน แต่กระนั้นในช่วงทดเจ็บนาทีที่ 96 ทีมปีศาจแดงกลับเป็นฝ่ายออกนำได้ก่อนจากการยิงของ เมสัน เมาท์ ทำให้กำลังจะได้ 3 แต้ม ทั้งๆ ที่ฟอร์มการเล่นอาจจะไม่ได้น่าประทับใจ

แต่แล้วเพียงแค่ 3 นาทีต่อมา เบนท์ฟอร์ด ก็ตามตีเสมอได้จาก คริสตอฟเฟอร์ อาเยอร์ ในนาทีที่ 99 ทำให้จบเกมเสมอกันไป 1-1 แบ่งกันไปทีมละ 1 คะแนน ซึ่งจากการทำได้แค่เสมอในเกมนี้ ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด รั้งอยู่อันดับที่ 6 ตามเดิม มีอยู่ 48 คะแนนจากการลงเล่น 29 เกม ตามหลังอันดับ 4 อย่าง แอสตัน วิลล่า ไกลสุดกู่ถึง 11 แต้มเข้าไปแล้ว แทบจะหมดลุ้นท็อป 4 อย่างเป็นทางการ

หลังจบเกม เทน ฮาก ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ยอมรับว่า รู้สึกเสียดายที่ทีมรักษาสกอร์นำเอาไว้ไม่ได้ทั้งๆ ที่อยู่ในช่วงท้ายเกมสุดๆ แล้ว โดยกล่าวว่า "เรากำลังจะชนะอยู่แล้วในเกมนี้ บางทีมันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เราสมควรได้รับ แต่เมื่อมีโอกาสที่จะได้ 3 แต้ม คุณก็ต้องทำให้ได้ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังที่ทำได้แค่เสมอ"

"วันนี้ เบรนท์ฟอร์ด เล่นได้ดีกว่า พวกเขาแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและต้องการที่จะเป็นผู้ชนะมากกว่าเรา พวกเขาต่อสู้เพื่อสิ่งนั้น แต่กระนั้นเราเองก็ต้องแสดงออกมาให้มากกว่านี้"

"เราเคยแสดงให้เห็นถึงแพสชั่นมาแล้วในเกมกับ ลิเวอร์พูล รวมถึงนัดอื่นๆ ซึ่งเราต้องนำสิ่งนี้ลงไปในสนามด้วย พวกเราสู้เต็มที่ และกำลังจะชนะแต่หลังจากนั้นเรากลับปล่อยให้มันหลุดมือไป ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังมากๆ"

สำหรับโปรแกรมพรีเมียร์ลีกนัดถัดไปของ แมนฯ ยูไนเต็ด นั้น พวกเขาจะเจอกับเกมยาก 2 เกมติดต่อกัน เมื่อต้องออกไปเยือน เชลซี ในวันพฤหัสบดีที่ 4 เมษายนนี้ ต่อด้วยเล่นในบ้านรับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล ในวันอาทิตย์ที่ 7 เมษายน