ศึกแดงเดือดขบวนสุดท้าย หงส์ยังเหนือกว่าน่าบุกมาเฉือนผี

พรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แมนฯ ยูไนเต็ด พบ ลิเวอร์พูล
สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
เวลา : 21.30 น. อาทิตย์ที่ 7 เมษายน 2567
ถ่ายทอดสดทาง : True Premier Football 1, 2 (ช่อง 600, 602), True 4K (ช่อง 400)

แมนฯ ยูไนเต็ด
ทีมปีศาจแดงของ เอริค เทน ฮาก ยังคงเป็นทีมที่มีผลงานขึ้นๆ ลงๆ เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้เหมือนเดิม แถมยังมักก่อความผิดพลาดแบบที่ไม่ควรเกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ อย่างเช่นผลงานในเกมล่าสุดที่บุกไปพ่ายต่อ เชลซี 4-3 โดยไปโดนยิง 2 ประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ทั้งๆ ที่กำลังจะชนะอยู่แล้วกลายเป็นกลับมาแพ้ซะอย่างนั้น

ทำให้ตอนนี้พวกเขาแพ้ไป 3 จาก 7 เกมหลังสุดในทุกรายการ และ 3 เกมที่แพ้เป็นเกมพรีเมียร์ลีกทั้งหมด นั่นทำให้ตอนนี้พวกเขามีแค่ 48 คะแนนจาก 30 นัด ยังคงรั้งอยู่อันดับ 6 ของตารางก็จริง แต่ก็ไม่น่ามีลุ้นท็อป 4 อะไรแล้ว แถมยังต้องระวังทีมอื่นแซงอีกด้วย และเกมนี้ต้องรับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล ที่ต้องการ 3 แต้มเท่านั้นเพื่อลุ้นแชมป์ จึงเป็นเกมที่ยากแน่นอนสำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด แม้ว่าจะเพิ่งชนะหงส์แดงมาได้ใน เอฟเอ คัพ เมื่อไม่นานมานี้ก็ตาม

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด มีปัญหานักเตะบาดเจ็บเพียบเหมือนเดิม โดยเกมนี้จะไม่สามารถใช้งานผู้เล่นอย่าง ลุค ชอว์, อองโตนี่ มาร์กซิยาล, ไทเรลล์ มาลาเซีย, อัลทาย บายินเดียร์, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ และ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ที่ยังบาดเจ็บอยู่ทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีพวกที่เจ็บเพิ่มมาจากเกมล่าสุดอย่าง ราฟาแอล วาราน, จอนนี่ อีแวนส์ และ กาเซมิโร่ ที่อาจจะลงเล่นไม่ได้ทั้งหมดอีกด้วย ทำให้เกมนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด จะมาในระบบ 4-2-3-1 เหมือนเดิม แนวรุกจะใช้ ราสมุส ฮอยลุนด์ เป็นหน้าเป้า และมีตัวสนันสนุนอย่าง อเลฮานโดร การ์นาโช่, บรูโน่ แฟร์นันด์ส และ มาร์คัส แรชฟอร์ด

ลิเวอร์พูล
ทีมหงส์แดงกลับมาชนะต่อได้ทันที หลังเสียฟอร์มบุกไปพ่าย แมนฯ ยูไนเต็ด 4-3 ในช่วงต่อเวลาพิเศษของเกม เอฟเอ คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ เมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา แต่หลังจากนั้นก็กลับมาชนะในเกมพรีเมียร์ลีก 2 นัดติดต่อกัน ผลงานในเกมล่าสุดคือการเปิดบ้านชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ไป 3-1 เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้พวกเขากลับไปนำเป็นจ่าฝูงของลีกได้อีกครั้ง จากการมี 70 แต้มจาก 30 นัด

แต่อย่างไรก็ตาม เกมนี้พวกเขาต้องชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ให้ได้สถานเดียว หากต้องการรักษาตำแหน่งจ่าฝูงไว้ต่อไป เพราะเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทั้ง อาร์เซน่อล และ แมนฯ ซิตี้ ต่างเก็บชัยชนะได้ทั้งคู่ ทำให้ตอนนี้ อาร์เซน่อล ทำแต้มแซงขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงอยู่เป็นการชั่วคราว

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น ลิเวอร์พูล ยังมีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหน้าเดิมๆ โดยเกมนี้จะยังคงไม่มี โฌแอล มาติป, ติอาโก้ อัลกันตาร่า, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ดีโอโก้ โชต้า, สเตฟาน บายเซติช และ อลิสซง เบคเกอร์ ที่ยังไม่หายเจ็บ แต่ส่วนที่เหลือไม่มีปัญหา โดยเกมนี้ ลิเวอร์พูล จะมาในระบบการเล่น 4-3-3 เหมือนเดิม แนวรุกจะใช้สามประสานอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ และ หลุยส์ ดิอาซ คอยไล่ล่าประตู ส่วนแดนกลางก็ถือว่าเต็มสูบ เพราะจะมีทั้ง โดมินิก โซโบซไล, วาตารุ เอ็นโด และ อเล็กซิส แม็ก อัลลิสเตอร์ คอยคุมเกม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนฯ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : อังเดร โอนาน่า : อารอน วาน-บิสซาก้า, วิลลี่ คัมบ์วาล่า, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, ดีโอโก้ ดาโลต์ : สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, ค็อบบี้ ไมนู : อเลฮานโดร การ์นาโช่, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, มาร์คัส แรชฟอร์ด : ราสมุส ฮอยลุนด์

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ควีวิน เคลเลเฮอร์ : คอเนอร์ แบร็ดลี่ย์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน : โดมินิก โซโบซไล, วาตารุ เอ็นโด, อเล็กซิส แม็ก อัลลิสเตอร์ : โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ, หลุยส์ ดิอาซ

ความน่าจะเป็น : เป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีที่ไม่มีใครยอมใครอย่างแน่นอน อีกทั้งนี่ยังเป็นศึกแดงเดือดรอบสุดท้ายในฤดูกาลนี้แล้ว ทั้งสองทีมใส่กันเต็มที่แน่ๆ ถ้าดูจากฟอร์มการเล่น แมนฯ ยูไนเต็ด อาจจะเป็นรองเพราะไม่มีความสม่ำเสมอ แต่การที่ได้เล่นในบ้านและเพิ่งจะเอาชนะ ลิเวอร์พูล มาได้ใน เอฟเอ คัพ ก็น่าจะช่วยสร้างความมั่นใจให้พวกเขาไม่น้อย ขณะที่ ลิเวอร์พูล ฤดูกาลนี้เจอปีศาจแดงมา 2 ไม่ชนะเลย เกมนี้มาเยือนต้องเล่นด้วยความกดดันเพราะต้องชนะสถานเดียว ดูแล้วเกมนี้น่าจะวัดกันที่ใครฉกฉวยความผิดพลาดจากคู่แข่งได้ดีกว่า และคาดว่า ลิเวอร์พูล จะบุกมาเฉือนชนะไปได้ในเกมนี้

สกอร์ที่คาด : แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ ลิเวอร์พูล 1-2