ผู้บริหารโบโลญญ่ายืนยัน ดีลคาลาฟิออรี่ไปปืนยังไม่คืบ

คาลาฟิออรี่ โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นกับทีมชาติอิตาลี ในศึกยูโร 2024 ที่ผ่านมา แม้ว่าทีมอัซซูรี่จะไปได้เพียงแค่รอบ 16 ทีมสุดท้ายก็ตาม แต่ก็ทำให้หลายทีมใหญ่ในยุโรปสนใจดึงตัวปราการหลังวัย 22 ปีรายนี้ไปร่วมทีม โดยมีทั้ง ยูเวนตุส และ อาร์เซน่อล ที่แสดงความสนใจอย่างจริงจัง

แต่หลังจากที่ค่าตัวของนักเตะนั้นพุ่งสูงขึ้น กลายเป็น อาร์เซน่อล ที่มีภาษีดีกว่าทีมม้าลาย และมีรายงานว่าพวกเขาบรรลุเงื่อนไขส่วนตัวกับทางนักเตะได้แล้ว และ คาลาฟิออรี่ ก็มีความสนใจที่จะย้ายมาค้าแข้งในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ขณะที่ในส่วนของค่าตัวนั้น เชื่อว่าน่าจะอยู่ที่ราว 54 ล้านยูโรรวมโบนัสแล้ว หรือราว 2,138 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด การเจรจากลับดูไม่มีความคืบหน้า และหยุดชะงักลงไป ซึ่ง เคลาดิโอ เฟนุชชี่ ผู้บริหารใหญ่ของสโมสร โบโลญญ่า ได้ออกมายืนยันด้วยตนเอง เมื่อวันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่า การเจรจาตอนนี้ไม่มีการพัฒนาแต่อย่างใด แต่ไม่ได้ให้เหตุผลอะไรมากไปกว่านั้น

ขณะที่สื่ออย่าง Caught Offside ได้ออกมาเผยว่า สาเหตุหลักที่ทำให้เป็นอุปสรรคสำคัญในการเจรจาครั้งนี้ น่าจะเป็นเรื่องของโครงสร้างของค่าตัวที่ทั้งสองฝ่ายยังตกลงกันไม่ได้ ถึงแม้ว่าจะตกลงราคาที่ 54 ล้านยูโรได้แล้วก็ตาม โดยรายงานข่าวระบุว่า โบโลญญ่า ต้องการเงินค่าตัวที่แน่นอนที่ 50 ล้านยูโร (ราว 1,979 ล้านบาท) ขณะที่ส่วนที่เหลือให้เป็นเรื่องของโบนัส แต่ทาง อาร์เซน่อล ต้องการจ่ายค่าตัวการันตีที่ 45 ล้านยูโร (ราว 1,781 ล้านบาท) เท่านั้น และให้ส่วนที่เหลือเป็นโบนัสแทน ทำให้ยังตกลงกันไม่ได้

ทั้งนี้ สาเหตุที่ โบโลญญ่า ไม่ยอมรับข้อเสนอจากทาง อาร์เซน่อล เนื่องจากพวกเขาต้องแบ่งเงินในการขาย คาลาฟิออรี่ ให้กับทีมเก่าอย่าง เอฟซี บาเซิ่ล ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการเงินส่วนที่เป็นค่าตัวแบบการันตีให้ได้มากที่สุด และให้ส่วนที่เป็นโบนัสเหลือน้อยที่สุดนั่นเอง

นอกจากนี้ จากการที่ โบโลญญ่า คว้าโควต้าไปเล่นใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้าได้ ทำให้พวกเขาจะมีรายได้มากกว่าเดิม และทำให้ไม่ต้องเจอกับแรงกดดันในการที่จะต้องรีบขายนักเตะออกจากทีม อีกทั้งก่อนหน้านี้พวกเขาก็เพิ่งจะได้เงินจากการขาย โจชัว เซิร์กซี กองหน้าดาวรุ่งทีมชาติเนเธอร์แลนด์ไปให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในราคา 42.5 ล้านยูโร (ราว 1,682 ล้านบาท) แม้ว่าจะเป็นการแบ่งจ่ายในเวลา 3 ปีก็ตาม