ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024-25 เชลซี จะเปิดรัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ รับการมาเยือนของ บอร์นมัธ โดยเกมนี้ เชลซี เจ้าถิ่น แม้ว่าจะชนะมาได้ในเกมเอฟเอ คัพ แต่ฟอร์มในลีกถือว่าไม่ดีนักเนื่องจากไม่ชนะใครมา 4 เกมติดต่อกันแล้ว เกมนี้ต้องรับมือ บอร์นมัธ ที่กำลังเล่นได้ยอดเยี่ยมมาก หลังไม่แพ้ใครมา 9 นัดติดต่อกันแล้วในทุกรายการ แถมยังชนะได้ถึง 7 เกม ทำให้เกมนี้ไม่ง่ายเลยที่ เชลซี หวังจะคว้า 3 แต้ม
พรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024-25
เชลซี พบ บอร์นมัธ
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
เวลา : 02.30 น. พุธที่ 15 มกราคม 2568 (แข่งคืนวันอังคาร)
ถ่ายทอดสดทาง : True Premier Football 3 (ช่อง 603)
เชลซี
เชลซี ภายใต้การนำของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ผลงานสะดุดอย่างไม่น่าเชื่อ หลังไม่ชนะใครในพรีเมียร์ลีกมา 4 นัดติดต่อกัน แถมยังเป็นการแพ้ไปถึง 2 นัด ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ชนะมารัวๆ ถึง 8 เกมติดต่อกันในทุกรายการ และเป็นการชนะในเกมพรีเมียร์ลีกถึง 5 เกมติดต่อกัน แต่พอเข้าสู่โปรแกรมช่วงบ็อกซิ่งเดย์ ก็กลายเป็นฝันร้ายของพวกเขาอย่างแท้จริง เมื่อเริ่มต้นด้วยการบุกไปเสมอ เอฟเวอร์ตัน 0-0 ต่อด้วยการแพ้คาบ้านต่อ ฟูแล่ม 1-2 ในเกมลีกนัดวันบ็อกซิ่งเดย์, บุกพ่าย อิปสวิช ทาวน์ 2-0 ในช่วงสิ้นปี และปิดท้ายด้วยการบุกไปเสมอ คริสตัล พาเลซ 1-1 ในเกมลีกนัดล่าสุดเมื่อสัปดาห์ก่อน
ทำให้จากที่กำลังจะมีลุ้นแชมป์ กลายเป็นตกลงมารั้งอันดับที่ 4 และมีแต้มตามหลัง ลิเวอร์พูล จ่าฝูง ไกลถึง 10 คะแนนเข้าไปแล้ว แถมยังแข่งมากกว่า 1 นัดด้วย แต่อย่างไรก็ตาม เกมล่าสุดเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พวกเขาเรียกความมั่นใจกลับมาได้อีกครั้ง หลังเปิดบ้านไล่ถล่ม มอร์แคมบ์ ทีมจากลีกทูไปแบบสบายๆ 5-0 ในเกม เอฟเอ คัพ รอบ 3 แม้ว่าจะไม่ใช่การชนะทีมที่แข็งแกร่งอะไร แต่ก็น่าจะทำให้ เชลซี กลับมาเข้าที่เข้าทางกันได้อีกครั้ง ก่อนหน้าจะรับมือ บอร์นมัธ ในเกมลีกวันนี้
ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น เชลซี มีปัญหานักเตะบาดเจ็บพอควร โดยเกมนี้จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เบอนัวต์ บาเดียชิล, เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, เคียร์แนน ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์ และ โนนี่ มาดูเอเก้ ที่ยังไม่หายเจ็บ ขณะที่ในรายของ มีไคโล่ มูดริค นั้นติดโทษแบน แต่ที่ส่วนเหลือนั้นไม่มีปัญหา ทำให้เกมนี้ เชลซี จะมาในระบบ 4-2-3-1 ตามเดิม แนวรุกจะใช้ นิโกล่าส์ แจ็คสัน ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมีตัวสนับสนุนอย่าง เปโดร เนโต้, โคล พาลเมอร์ และ เจดอน ซานโช่ คอยไล่ล่าประตู ขณะที่แดนกลางจะใช้ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ คุมเกมร่วมกับ มอยเซส ไกเซโด้
บอร์นมัธ
บอร์นมัธ มีผลงานที่ดีอย่างน่าเหลือเชื่อในช่วงที่ผ่านมา โดยพวกเขาแพ้ไปเพียง 2 เกมจากการลงเล่น 14 นัดหลังสุดในทุกรายการ เสมอเพียง 4 นัด และชนะไปถึง 8 เกม ล่าสุดไม่แพ้ใครมา 9 เกมติดต่อกันแล้ว และชนะไปถึง 7 นัด ผลงานในเกมล่าสุดคือการการเปิดบ้านถล่ม เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ขาดลอย 5-1 ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 3 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนเกมพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุดเมื่ออาทิตย์ก่อนก็ยังยอดเยี่ยม เมื่อเปิดบ้านเฉือนชนะ เอฟเวอร์ตัน ไป 1-0 นั่นทำให้ตอนนี้ พวกเขาเก็บไปแล้ว 33 คะแนนจาก 20 เกม รั้งอยู่อันดับที่ 7 ของตาราง และมีแต้มตามหลังอันดับที่ 4 อย่าง เชลซี เพียงแค่ 3 คะแนนเท่านั้น กลายเป็นมีโอกาสลุ้นพื้นที่ท็อป 4 ได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น บอร์นมัธ มีปัญหานักเตะบาดเจ็บค่อนข้างมาก โดยจะไม่สามารถใช้งานผู้เล่นมากถึง 8 ราย ได้แก่ อเล็กซ์ สกอตต์, หลุยส์ เซนิสเตร์ร่า, ฮูเลียน อาเราโฮ่, มาร์กอส เซเนซี่, มาร์คัส ทาเวอร์เนียร์, อดัม สมิธ, เอวานิลสัน และ เอเนส อูนาล ที่ยังบาดเจ็บทั้งหมด แต่ส่วนที่เหลือนั้นไม่มีปัญหา ทำให้เกมนี้ บอร์นมัธ จะมาในระบบ 4-2-3-1 ตามเดิม เกมรุกนัดนี้ต้องขยับ อองตวน เซเมนโย่ ยืนเป็นหน้าเป้า และมีตัวสนับสนุนอย่าง เดวิด บรู๊คส์, จัสติน ไคลเวิร์ต และ ดังโก้ อ๊วตทาร่า คอยปั้นเกม ส่วนแดนกลางจะใช้ ไรอัน คริสตี้ คุมเกมร่วมกับ ลูอิส คุ้ก
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เชลซี (4-2-3-1) : โรเบิร์ต ซานเชซ : รีซ เจมส์, จอช อาเชียมปง, ลีวาย โคลวิลล์, มาร์ก กูกูเรย่า : มอยเซส ไกเซโด้, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ : เปโดร เนโต้, โคล พาลเมอร์, เจดอน ซานโช่ : นิโกล่าส์ แจ็คสัน
บอร์นมัธ (4-2-3-1) : เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า : เจมส์ ฮิลล์, อิลเลีย ซาบาร์นี่, ดีน ฮุยเซ่น, มิลอช เคอร์เคซ : ลูอิส คุ้ก, ไรอัน คริสตี้ : เดวิด บรู๊คส์, จัสติน ไคลเวิร์ต, ดังโก้ อ๊วตทาร่า : อองตวน เซเมนโย่
ความน่าจะเป็น : เชลซี พลาดท่าไม่ชนะในลีกมา 4 นัดติด แม้เกมนี้ได้เล่นในบ้านรวมถึงเพิ่งชนะในเกมเอฟเอ คัพ มาหมาดๆ แต่ก็ไม่น่าจะเหนือว่าผู้มาเยือนอย่าง บอร์นมัธ มากนัก เนื่องจากทีมเยือนฟอร์มกำลังเข้าฝักสุดๆ จริงๆ ทำให้เกมนี้น่าจะออกมาแบบสูสี เชลซี อาจจจะครองเกมได้มากกว่า แต่ก็ไม่น่าจะเจาะแนวรับ บอร์นมัธ ได้ง่ายนัก และถ้าหากว่าเกมรับยังเล่นพลาดง่ายๆ ก็มีโอกาสโดนเล่นงานได้เลย
สกอร์ที่คาด : เชลซี เสมอ บอร์นมัธ 1-1
ภาพจาก Getty Images
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :
Website : www.truevisions.co.th
Facebook : Truevisions
Twitter : @TrueVisions
Line : @Truevisions
Youtube official : Truevisionsofficial
Instagram : Truevisionsofficial