เรือใบสีฟ้าเล่นในบ้าน แต่ไม่ง่ายที่จะชนะเชลซีที่เริ่มคืนฟอร์ม

พรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024-25
แมนฯ ซิตี้ พบ เชลซี
สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม
เวลา : 00.30 น. อาทิตย์ที่ 26 มกราคม 2568 (แข่งคืนวันเสาร์)
ถ่ายทอดสดทาง : True Premier Football 1, 2 (ช่อง 600, 602), True 4K (ช่อง 400)

แมนฯ ซิตี้
หลังจากที่กลับมาคืนฟอร์มไม่แพ้ใคร 6 นัดติด ตั้งแต่เข้าสู่ช่วง บ็อกซิ่ง เดย์ ที่ผ่านมา โดยเป็นการชนะไปถึง 4 เกมนั้น ล่าสุด แมนฯ ซิตี้ กลับมาแพ้อีกครั้ง และถือว่าค่อนข้างเสียหาย หลังบุกไปพ่าย ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง 4-2 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ ลีก เฟส นัดรองสุดท้าย เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งนั่นทำให้ แมนฯ ซิตี้ ร่วงลงไปอยู่อันดับที่ 25 มีแค่ 8 คะแนนจาก 7 นัด เสี่ยงต่อการตกรอบแรก แชมเปี้ยนส์ ลีก อย่างไม่น่าเชื่อ อย่างไรก็ตาม หากดูผลงานในลีกถือว่า ซิตี้ ยังอยู่ในฟอร์มที่ดี พวกเขาไม่แพ้ในลีกมา 5 นัดติดต่อกันแล้ว และชนะไป 3 เกม ผลงานในเกมล่าสุดคือการบุกไปถล่ม อิปสวิช ทาวน์ ขาดลอย 6-0 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้ตอนนี้พวกเขามีเพิ่มเป็น 38 คะแนนจากการลงเล่น 22 นัด รั้งอยู่อันดับ 5 ของตาราง โดยมีแต้มตามหลังอันดับ 4 อย่าง เชลซี เพียงแค่ 2 คะแนนเท่านั้น

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น แมนฯ ซิตี้ มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บพอสมควร โดยเกมนี้จะไม่มีผู้เล่นอย่าง ออสการ์ บ็อบบ์, โรดรี้, เนธาน อาเก้, เฌเรมี่ โดกู และ รูเบน ดิอาส ที่ยังไม่หายเจ็บ แต่นอกนั้นไม่มีปัญหา ทำให้เกมนี้ แมนฯ ซิตี้ จะมาในระบบการเล่น 4-1-4-1 กองหน้าตัวเป้าจะใช้ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ โดยมีตัวสนับสนุนเกมรุกอย่าง ฟิล โฟเด้น, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, เควิน เดอ บรอยน์ และ ซาวินโญ่ ส่วนแดนกลางจะมี มาเตโอ โควาซิช เป็นตัวตัดเกม

เชลซี
เชลซี ภายใต้การนำของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า หลังฟอร์มหลุดไปในช่วงก่อนหน้านี้ เมื่อไม่ชนะในพรีเมียร์ลีก 5 เกมติดต่อกัน และเป็นการแพ้ไปถึง 2 เกม แต่ล่าสุดหากดูฟอร์มแบบรวมทุกรายการ พวกเขาไม่แพ้ใครมา 4 เกมติดต่อกันแล้ว และเป็นการชนะไปถึง 2 นัด ผลงานในเกมล่าสุดคือการเปิดบ้านเอาชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน ไปได้ 3-1 ในเกมลีกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ถือเป็นการกลับมาชนะในลีกได้เป็นครั้งแรกในรอบ 6 เกมหลังสุด นั่นทำให้ เชลซี เก็บเพิ่มเป็น 40 แต้มจาก 22 นัด ขยับขึ้นมารั้งอันดับที่ 4 ของตารางได้อีกครั้ง โดยมีแต้มนำหน้าอันดับ 5 อย่าง แมนฯ ซิตี้ อยู่ 2 คะแนน อย่างไรก็ตาม โอกาสลุ้นแชมป์ลีกน่าจะยากแล้ว เพราะโดน ลิเวอร์พูล ทิ้งห่างอยู่ 10 แต้มเต็ม แถมยังแข่งมากกว่า 1 เกม

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น เชลซี ยังมีปัญหานักเตะบาดเจ็บพอสมควร โดยเกมนี้จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เบอนัวต์ บาเดียชิล, เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, โรเมโอ ลาเวีย, ลีวาย โคลวิลล์ และ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ที่ยังไม่หายเจ็บ ขณะที่ในรายของ มีไคโล่ มูดริค นั้นติดโทษแบน แต่ที่ส่วนเหลือนั้นไม่มีปัญหา ทำให้เกมนี้ เชลซี จะมาในระบบ 4-2-3-1 ตามเดิม แนวรุกจะใช้ นิโกล่าส์ แจ็คสัน ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมีตัวสนับสนุนอย่าง โนนี่ มาดูเอเก้, โคล พาลเมอร์ และ เจดอน ซานโช่ คอยไล่ล่าประตู ขณะที่แดนกลางจะใช้ เคียร์แนน ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์ คุมเกมร่วมกับ มอยเซส ไกเซโด้

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนฯ ซิตี้ (4-2-3-1) : เอแดร์ซอน : มาเตอุส นูเนส, มานูเอล อาคานจี, ยอชโก้ กวาร์ดิโอล, ริโก้ ลูอิส : มาเตโอ โควาซิช : ฟิล โฟเด้น, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, เควิน เดอ บรอยน์, ซาวินโญ่ : เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์

เชลซี (4-2-3-1) : โรเบิร์ต ซานเชซ : รีซ เจมส์, โทซิน อดาราบิโอโย่, เทรโวห์ ชาโลบาห์, มาร์ก กูกูเรย่า : เคียร์แนน ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์, มอยเซส ไกเซโด้ : โนนี่ มาดูเอเก้, โคล พาลเมอร์, เจดอน ซานโช่ : นิโกล่าส์ แจ็คสัน

ความน่าจะเป็น : เป็นเกมที่น่าจะสูสีกันอย่างมาก แมนฯ ซิตี้ ฟอร์มกลับมาดีขึ้นมากก็จริงในช่วงที่ผ่านมา แต่การแพ้ เปแอสเช ในเกมล่าสุดก็น่าจะมีผลต่อจิตใจไม่น้อย แถมแนวรับก็ยังดูมีปัญหา ขณะที่ เชลซี ยังดูมีความสมดุลมากกว่า ประกอบกับช่วงหลังก็เล่นได้ดีขึ้นมาก น่าจะทำให้เกมนี้สู้กันอย่างสนุก เพราะเป็นเกมที่แย่งพื้นที่ท็อป 4 กันโดยตรง แมนฯ ซิตี้ น่าจะครองบอลได้มากกว่า แต่ เชลซี ก็น่าจะสร้างโอกาสได้ไม่น้อยเหมือนกัน ดูแล้วน่าจะตัดสินกันที่แนวรุกว่าใครจะใช้โอกาสได้ดีกว่ากัน ผลน่าจะออกได้ทั้งสามหน้า แต่มุมเสมอแบบมีสกอร์มีความเป็นไปได้มากที่สุด

สกอร์ที่คาด : แมนฯ ซิตี้ เสมอ เชลซี 1-1