
ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024-25 เอฟเวอร์ตัน จะเปิดรัง กูดิสัน พาร์ค รับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล โดยเกมนี้ เอฟเวอร์ตัน กลับมาอยู่ในฟอร์มที่ดีอีกครั้งหลังได้ เดวิด มอยส์ กลับมาเป็นกุนซือ ถ้านับเฉพาะเกมลีกพวกเขาชนะมา 3 เกมติดต่อกันแล้ว ขณะที่ ลิเวอร์พูล เสียความมั่นใจไปพอควรจากการตกรอบ เอฟเอ คัพ แม้ว่าจะใช้ผู้เล่นสำรองยกชุดก็ตาม แต่เกมนี้พวกเขาต้องสานต่อผลงานในลีกที่ดีเอาไว้ให้ได้ เพื่อรักษาความห่างในตารางคะแนนไว้ที่ 9 คะแนน
พรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024-25
เอฟเวอร์ตัน พบ ลิเวอร์พูล
สนาม : กูดิสัน พาร์ค
เวลา : 02.30 น. พฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 (แข่งคืนวันพุธ)
ถ่ายทอดสดทาง : True Premier Football 1, 2 (ช่อง 600, 602)
เอฟเวอร์ตัน
เอฟเวอร์ตัน นับตั้งแต่ได้ เดวิด มอยส์ กลับมาเป็นนายใหญ่อีกครั้ง ผลงานก็ยอดเยี่ยมเลยทันที แม้ว่าจะเริ่มต้นเกมแรกด้วยการพ่ายคาบ้านต่อ แอสตัน วิลล่า 0-1 ในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อช่วงกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่หลังจากนั้นพวกเขาชนะในลีก 3 นัดรวด ไล่ตั้งแต่เปิดบ้านชนะ สเปอร์ส 3-2, บุกเฉือน ไบรท์ตัน 1-0 และต่อด้วยเปิดรังถล่ม เลสเตอร์ ขาดลอย 4-0 ในเกมพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุดเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จนทำให้ เอฟเวอร์ตัน เก็บเพิ่มเป็น 26 คะแนนจาก 23 เกม ขยับขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 16 ของตาราง และมีแต้มทิ้งห่างอันดับ 18 อย่าง เลสเตอร์ มากถึง 9 แต้ม แถมยังแข่งน้อยกว่าทีมอื่นๆ 1 นัด น่าเสียดายที่ในเกม เอฟเอ คัพ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เอฟเวอร์ตัน ผลงานสะดุดอีกครั้ง เมื่อแพ้คาบ้านต่อ บอร์นมัธ ไป 0-2 ต้องตกรอบไป
ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น เอฟเวอร์ตัน ยังมีปัญหานักเตะบาดเจ็บค่อนข้างมาก โดยเกมนี้จะไม่สามารถใช้งานผู้เล่นอย่าง โอเรล ม็องกาล่า, อาร์มันโด้ โบรย่า, โดมินิก คัลเวิร์ต-ลูวิน, ดไวท์ แม็กนีล, ยูสเซฟ เชอร์มิติ, เชมัส โคลแมน และ เนธาน แพ็ตเตอร์สัน ที่ยังไม่หายเจ็บทั้งหมด แต่ส่วนที่เหลือไม่มีปัญหา ทำให้เกมนี้พวกเขาจะมาในระบบ 4-2-3-1 เกมรุกจะใช้ เบโต้ ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมีตัวสนับสนุนอย่าง แจ็ค แฮร์ริสัน, อับดุลลาย ดูกูเร่ และ อิลิมาน เอ็นเดียเย่ คอยปั้นเกม ส่วนแดนกลางจะมี เจมส์ การ์เนอร์ คุมเกมร่วมกับ อีดริสซ่า กาน่า เกย์
ลิเวอร์พูล
ทีมหงส์แดงภายใต้การนำทีมของ อาร์เน่อ สลอต ทำผลงานได้ดีมาตลอด แต่ในระยะหลังเริ่มจะมีเกมที่สะดุดมากขึ้น เมื่อเทียบกับในช่วงครึ่งแรกของฤดูกาล โดยพวกเขาแพ้ไป 3 จาก 10 เกมหลังสุดในทุกรายการ เสมอ 1 และชนะได้ 6 เกม แต่กระนั้นเกมที่แพ้เป็นเกมฟุตบอลถ้วยทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเกมที่บุกพ่าย สเปอร์ส 1-0 ใน คาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศเกมแรก, บุกพ่าย พีเอสวี 3-2 ในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ ลีก เฟส นัดสุดท้าย และในเกมล่าสุดอย่าง เอฟเอ คัพ รอบ 4 ที่บุกพ่าย พลีมัธ ทีมบ๊วยของ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ไปอย่างพลิกความคาดหมาย 1-0
แต่ถ้านับเฉพาะในเกมพรีเมียร์ลีก พวกเขาไม่แพ้ใครมา 19 นัดติดต่อกันแล้ว และยังชนะมาตลอดใน 3 นัดหลังสุดด้วย และชนะไปถึง 14 เกม ผลงานในเกมล่าสุดคือการบุกชนะ บอร์นมัธ 2-0 เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้พวกเขายังนำเป็นจ่าฝูงของลีกต่อไป มีอยู่ 56 แต้มจาก 23 นัด ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง อาร์เซน่อล ไปแล้ว 6 คะแนน และยังแข่งน้อยกว่า 1 นัด ถือว่าได้เปรียบมากๆ
ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น ลิเวอร์พูล จะไม่มีแค่ โจ โกเมซ เท่านั้นที่ยังไม่หายเจ็บ แต่ส่วนที่เหลือนั้นไม่มีปัญหา ฟิตสมบูรณ์ทั้งหมด ทำให้เกมนี้ ลิเวอร์พูล จะมาในระบบการเล่น 4-2-3-1 ตามเดิม แนวรุกจะใช้ หลุยส์ ดิอาซ ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมี โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โดมินิก โซโบซไล และ โคดี้ คักโป คอยปั้นเกมอยู่ด้านหลัง ขณะที่มิดฟิลด์คู่กลางจะมี ไรอัน กราเฟ่นแบร์ค คุมเกมร่วมกับ อเล็กซิส แม็ก อัลลิสเตอร์
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เอฟเวอร์ตัน (4-2-3-1) : จอร์แดน พิคฟอร์ด : เจค โอไบรอัน, เจมส์ ทาร์คอฟสกี้, จาร์ราด แบรนธ์เวท, วิทาลี่ มีโคเลนโก้ : เจมส์ การ์เนอร์, อีดริสซ่า กาน่า เกย์ : แจ็ค แฮร์ริสัน, อับดุลลาย ดูกูเร่, อิลิมาน เอ็นเดียเย่ : เบโต้
ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : อลิสซง เบคเกอร์ : เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน : ไรอัน กราเฟ่นแบร์ค, อเล็กซิส แม็ก อัลลิสเตอร์ : โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โดมินิก โซโบซไล, โคดี้ คักโป : หลุยส์ ดิอาซ
ความน่าจะเป็น : ขึ้นชื่อว่าเป็นศึกเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ ไม่เคยเป็นเกมที่ง่ายอยู่แล้วสำหรับ ลิเวอร์พูล เพราะ เอฟเวอร์ตัน สู้เต็มที่เสมอแม้ว่าจะเป็นรอง แถมเกมนี้ยังเป็น เมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ ครั้งสุดใน กูดิสัน พาร์ค อีกด้วย เพราะตั้งแต่ฤดูกาลหน้า เอฟเวอร์ตัน จะย้ายไปใช้สนามแห่งใหม่แล้ว ทำให้จะเป็นเกมที่เจ้าถิ่นทุ่มเต็มที่อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบฟอร์มการเล่นแล้วก็ต้องยอมรับว่าทีมหงส์แดงยังเป็นทีมที่เหนือกว่า พวกเขาต้องการ 3 คะแนนในเกมนี้มากเพราะเป็นเกมตกค้าง ถ้าชนะได้จะนำ อาร์เซน่อล 9 แต้มแบบที่แข่ง 24 เกมเท่ากัน จะได้เปรียบอย่างมากในอีก 14 เกมที่เหลือของฤดูกาลนี้ ทำให้เกมนี้จะเป็นเกมที่สู้กันแบบลืมตายทั้งสองทีม โอกาสออกเสมอมีสูงเมื่อดูจากสถิติที่ผ่านมา แต่เชื่อว่าถ้ามีผู้ชนะยังน่าจะเป็น ลิเวอร์พูล มากกว่า
สกอร์ที่คาด : เอฟเวอร์ตัน แพ้ ลิเวอร์พูล 1-2
ภาพจาก Getty Images
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :
Website : www.truevisions.co.th
Facebook : Truevisions
Twitter : @TrueVisions
Line : @Truevisions
Youtube official : Truevisionsofficial
Instagram : Truevisionsofficial