
ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024-25 ไบรท์ตัน จะเปิดรัง เอเม็กซ์ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ เชลซี โดยเกมนี้ ไบรท์ตัน กลับมาอยู่ในฟอร์มที่ดีอีกครั้ง แม้ว่าจะแพ้ 2 จาก 6 เกมหลังสุด แต่อีก 4 เกมที่เหลือพวกเขาชนะได้ทั้งหมด แถมเกมล่าสุดยังเป็นการชนะ เชลซี ในเอฟเอ คัพ อีกด้วย ขณะที่ เชลซี ฟอร์มขึ้นๆ ลงๆ ไม่มีความสม่ำเสมอ แต่ผลงานในลีกยังถือว่าโอเค เพราะยังอยู่ในพื้นที่ท็อป 4 และเกมนี้พวกเขาก็ต้องการเอาคืน ไบรท์ตัน หลังเขี่ยพวกเขาตกรอบเอฟเอ คัพ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
พรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024-25
ไบรท์ตัน พบ เชลซี
สนาม : เอเม็กซ์ สเตเดี้ยม
เวลา : 03.00 น. เสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 (แข่งคืนวันศุกร์)
ถ่ายทอดสดทาง : True Premier Football 1, 2 (ช่อง 600, 602)
ไบรท์ตัน
ไบรท์ตัน ของกุนซือ ฟาเบียน เฮือร์เซเลอร์ มีช่วงที่ผลงานสะดุดยาวๆ อยู่ช่วงหนึ่ง ตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนปีก่อนมาจนถึงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งในช่วงระหว่างนั้น ไบรท์ตัน ไม่ชนะใครถึง 8 เกมติดต่อกัน และเป็นเกมพรีเมียร์ลีกทั้งหมด แม้จะแพ้แค่ 2 แต่ก็เสมอไปถึง 6 เกม แต่หลังจากนั้นเป็นต้นมาพวกเขามีผลงานที่ดีขึ้น โดย 6 เกมหลังสุดในทุกรายการ พวกเขาแพ้ 2 และชนะไป 4 เกม แม้ว่าในพรีเมียร์ลีก 2 นัดหลังสุดจะแพ้รวด จนทำให้ ไบรท์ตัน มีเพียง 34 แต้มจาก 24 เกม รั้งอยู่อันดับที่ 10 ของตารางแต่ผลงานในเกมล่าสุดจริงๆ คือ เอฟเอ คัพ รอบ 4 ที่ ไบรท์ตัน เปิดบ้านเฉือนชนะ เชลซี ไปได้ 2-1 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยม และที่สำคัญคือพวกเขาจะได้เจอกับ เชลซี ต่อเนื่องทันที ในเกมพรีเมียร์ลีกวันศุกร์นี้
ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น ไบรท์ตัน ยังคงมีปัญหาตัวเจ็บค่อนข้างมาก โดยเกมนี้พวกเขาจะไม่มีผู้เล่นอย่าง เจมส์ มิลเนอร์, แฟร์ดี้ คาดิโอกลู, อีกอร์ ฮูลิโล, เจมัน สตีล, ซอลลี่ มาร์ช, มัตส์ วีฟเฟอร์, ลูอิส ดังค์ และ เปร์วิส เอสตูปิญัน ที่ยังบาดเจ็บทั้งหมด แต่ส่วนที่เหลือไม่มีปัญหา ทำให้เกมนี้ ไบรท์ตัน จะมาในระบบ 4-2-3-1 แนวรุกจะใช้ แดนนี่ เวลเบ็ค ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมีตัวสนับสนุนอย่าง ยานคูบา มินเทห์, จอร์จินโญ่ รุตแตร์, และ คาโอรุ มิโตมะ ขณะที่แดนกลางจะมี คาร์ลอส บาเลบา คุมเกมร่วมกับ แจ็ค ฮินเชลวู้ด
เชลซี
เชลซี ภายใต้การนำของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ฟอร์มขึ้นๆ ลงๆ ในช่วงที่ผ่านมา หลังชนะ 3 เสมอ 3 และแพ้ไป 4 จากการลงเล่น 10 เกมหลังสุดในทุกรายการ เห็นได้ชัดเจนเลยว่าไม่มีความสม่ำเสมอ ผลงานในเกมล่าสุดก็คือการบุกไปพ่ายต่อ ไบรท์ตัน ในเกมเอฟเอ คัพ รอบ 4 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่เกมพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุดนั้นพวกเขาเปิดบ้านเอาชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-1 เมื่อช่วงปลายเดือนมกราคม ทำให้ตอนนี้พวกเขามีอยู่ 43 แต้มจาก 24 นัด รั้งอยู่อันดับที่ 4 ของตาราง โดยมีแต้มมากกว่าอันดับ 5 อย่าง แมนฯ ซิตี้ อยู่ 2 แต้ม เกมนี้ได้เจอกับ ไบรท์ตัน อีกครั้งแบบต่อเนื่อง ถือว่าเป็นโอกาสดีที่ เชลซี จะได้ล้างตาจากการพ่ายใน เอฟเอ คัพ มาหมาดๆ
ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น เชลซี ยังมีปัญหานักเตะบาดเจ็บพอสมควร โดยเกมนี้จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เบอนัวต์ บาเดียชิล, เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, โรเมโอ ลาเวีย, นิโกล่าส์ แจ็คสัน และ มาร์ก กิว ที่บาดเจ็บทั้งหมด ขณะที่ในรายของ มีไคโล่ มูดริค นั้นติดโทษแบน แต่ที่ส่วนเหลือนั้นไม่มีปัญหา ทำให้เกมนี้ เชลซี จะมาในระบบ 4-2-3-1 ตามเดิม แนวรุกจะใช้ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมีตัวสนับสนุนอย่าง โนนี่ มาดูเอเก้, โคล พาลเมอร์ และ เปโดร เนโต้ คอยไล่ล่าประตู ขณะที่แดนกลางจะใช้ มอยเซส ไกเซโด้ คุมเกมร่วมกับ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไบรท์ตัน (4-2-3-1) : บาร์ท แฟร์บรุ๊กเก้น : โจเอล เฟลท์มัน, ยาน พอล ฟาน เฮคเค่, อดัม เว็บส์เตอร์, ทาริค แลมพ์ตี้ย์ : คาร์ลอส บาเลบา, แจ็ค ฮินเชลวู้ด : ยานคูบา มินเทห์, จอร์จินโญ่ รุตแตร์, คาโอรุ มิโตมะ : แดนนี่ เวลเบ็ค
เชลซี (4-2-3-1) : ฟิลิป ยอร์เกนเซ่น : รีซ เจมส์, เทรโวห์ ชาโลบาห์, ลีวาย โคลวิลล์, มาร์ก กูกูเรย่า : มอยเซส ไกเซโด้, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ : โนนี่ มาดูเอเก้, โคล พาลเมอร์, เปโดร เนโต้ : คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู
ความน่าจะเป็น : เป็นการเจอกันแบบต่อเนื่องเลยหลังจาก เอฟเอ คัพ ซึ่ง ไบรท์ตัน เป็นฝ่ายชนะ เชลซี มาได้ และในเกมนี้ดูแล้วสถานการณ์อาจจะยังไม่ต่างไปจากเกมที่แล้วสักเท่าไหร่ เนื่องจากขุมกำลังที่ทั้งสองทีมใช้ในเกมนี้น่าจะยังเป็นชุดเดิมๆ แถม เชลซี ยังไม่มี นิโกล่าส์ แจ็คสัน เนื่องจากบาดเจ็บด้วย ทำให้เกมนี้เชื่อว่าจะเป็นเกมที่สู้กันสูสีอีกเกม เชลซี อาจจะครองบอลได้มากกว่า แต่โอกาสที่จะเจาะเกมรับเจ้าถิ่นอาจจะไม่ง่ายนัก แถมเกมรุก ไบรท์ตัน ยังสวนคมๆ ได้ด้วย แต่อย่างไรก็ตาม เชลซี คงไม่ยอมแพ้เหมือนใน เอฟเอ คัพ อีก ทำให้เชื่อว่าเกมนี้น่าจะได้ผลเสมอกลับออกมาเป็นอย่างน้อย
สกอร์ที่คาด : ไบรท์ตัน เสมอ เชลซี 1-1
ภาพจาก Getty Images
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :
Website : www.truevisions.co.th
Facebook : Truevisions
Twitter : @TrueVisions
Line : @Truevisions
Youtube official : Truevisionsofficial
Instagram : Truevisionsofficial