ลิเวอร์พูลไม่กดดัน มีลุ้นบุกได้แต้มจากเรือใบ

พรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024-25
แมนฯ ซิตี้ พบ ลิเวอร์พูล
สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม
เวลา : 23.30 น. อาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567
ถ่ายทอดสดทาง : True Premier Football 1, 2 (ช่อง 600, 602), True 4K (ช่อง 400)

แมนฯ ซิตี้
ทีมเรือใบสีฟ้าฟอร์มการเล่นสวิงไม่น้อยในช่วงที่ผ่านมา หลังมีสถิติชนะ 4 แพ้ 4 จาก 8 นัดหลังสุดในทุกรายการ ผลงานในเกมล่าสุดคือการบุกไปพ่าย เรอัล มาดริด 3-1 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ น็อคเอาท์ เฟส เพลย์ออฟ นัดที่สอง เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ แมนฯ ซิตี้ แพ้ไปด้วยสกอร์รวม 6-3 ตกรอบถ้วยบิ๊กเอียร์ไปเป็นที่เรียบร้อย แต่ถ้าดูผลงานในพรีเมียร์ลีกยังถือว่าค่อนข้างดี หลังแพ้แค่เกมเดียวจาก 8 เกมหลังสุด ที่เหลือเป็นการเสมอ 2 และชนะได้ 5 เกม ผลงานในเกมล่าสุดคือการเปิดบ้านถล่ม นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ไปขาดลอย 4-0 ในเกมลีกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้ตอนนี้ แมนฯ ซิตี้ มีอยู่ 44 แต้มจาก 25 เกม รั้งอยู่อันดับที่ 4 ของตาราง

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น แมนฯ ซิตี้ มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บพอควร โดยเกมนี้จะยังไม่มีผู้เล่นอย่าง โรดรี้ เและ มานูเอล อาคานจี ที่ยังไม่หายเจ็บ ส่วนในรายของ ออสการ์ บ็อบบ์ และ จอห์น สโตนส์ ยังมีอาการเจ็บเล็กน้อย ไม่น่าจะลงเล่นได้ในเกมนี้ แต่ส่วนที่เหลือนั้นไม่มีปัญหา ทำให้เกมนี้ แมนฯ ซิตี้ จะมาในระบบการเล่น 4-2-3-1 กองหน้าตัวเป้าจะใช้ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ โดยมีตัวสนับสนุนเกมรุกอย่าง แบร์นาร์โด้ ซิลวา, ฟิล โฟเด้น, และ โอมาร์ มาร์มูช ส่วนแดนกลางจะมี นิโก้ กอนซาเลซ คุมเกมร่วมกับ มาเตโอ โควาซิช

ลิเวอร์พูล
ทีมหงส์แดงภายใต้การนำทีมของ อาร์เน่อ สลอต อาจจะมีหลุดแพ้บ้างในช่วงที่ผ่านมา อย่างเช่นในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบลีก เฟส นัดสุดท้าย ที่บุกพ่าย พีเอสวี 3-2 หรือในเกม เอฟเอ คัพ รอบ 4 ที่พลิกล็อกโดน พลีมัธ เฉือน 1-0 แต่สำหรับในพรีเมียร์ลีกนั้นพวกเขายังไว้ใจได้ หลังไม่แพ้ใครในลีกมา 22 เกมติดต่อกันแล้ว และยังชนะไปถึง 15 เกม ผลงานในเกมล่าสุดคือการบุกไปเสมอกับ แอสตัน วิลล่า 2-2 ในเกมลีกนัดกลางสัปดาห์ แต่จากการที่ อาร์เซน่อล พลาดท่าแพ้คาบ้านต่อ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 0-1 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา นั่นก็ทำให้การได้แค่แต้มเดียวจาก วิลล่า พาร์ค กลายเป็นเรื่องที่ไม่เสียหาย ทำให้ตอนนี้ ลิเวอร์พูล มีอยู่ 61 แต้มจาก 26 นัด นำหน้าอันดับ 2 อย่าง อาร์เซน่อล อยู่ถึง 8 คะแนน

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น ลิเวอร์พูล จะยังไม่มี โจ โกเมซ, คอเนอร์ แบรดลี่ย์ และ โคดี้ คักโป ที่ยังไม่หายเจ็บ แต่ส่วนที่เหลือนั้นไม่มีปัญหา ฟิตสมบูรณ์ทั้งหมด ทำให้เกมนี้ ลิเวอร์พูล จะมาในระบบการเล่น 4-2-3-1 ตามเดิม แนวรุกจะใช้ ดีโอโก้ โชต้า ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมี โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โดมินิก โซโบซไล และ หลุยส์ ดิอาซ คอยปั้นเกมอยู่ด้านหลัง ขณะที่มิดฟิลด์คู่กลางจะมี ไรอัน กราเฟ่นแบร์ค คุมเกมร่วมกับ อเล็กซิส แม็ก อัลลิสเตอร์

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนฯ ซิตี้ (4-2-3-1) : เอแดร์ซอน : อับดูโคดีร์ คูซานอฟ, รูเบน ดิอาส, เนธาน อาเก้, ยอชโก้ กวาร์ดิโอล : นิโก้ กอนซาเลซ, มาเตโอ โควาซิช : แบร์นาร์โด้ ซิลวา, ฟิล โฟเด้น, โอมาร์ มาร์มูช : เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์

ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : อลิสซง เบคเกอร์ : เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน : ไรอัน กราเฟ่นแบร์ค, อเล็กซิส แม็ก อัลลิสเตอร์ : โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โดมินิก โซโบซไล, หลุยส์ ดิอาซ : ดีโอโก้ โชต้า

ความน่าจะเป็น : แมนฯ ซิตี้ มีฤดูกาลที่น่าผิดหวังเมื่อเทียบกับหลายปีที่ผ่านมา แต่ระดับการเล่นของพวกเขายังคงสูงอยู่และประมาทไม่ได้ นอกจากนี้เกมในบ้านของพวกเขายังคงแข็งแกร่งเหมือนเดิม แม้ว่าจะมีหลุดแพ้ไปบ้างแต่ว่าน้อยมากๆ ขณะที่ ลิเวอร์พูล ไม่กดดันมากนักในเกมนี้ เนื่องจาก อาร์เซน่อล ดันพลาดท่าแพ้ ทำให้ ลิเวอร์พูล ยังเล่นเพื่อผลเสมอได้ ไม่เสียหาย อย่างไรก็ตาม ถ้าบุกชนะ แมนฯ ซิตี้ เกมนี้ได้ ก็จะทิ้งห่างอันดับ 2 เพิ่มเป็น 11 คะแนน ซึ่งจะเป็นเรื่องที่ดีมากสำหรับพวกเขา แต่อย่างไรก็ตาม โอกาสจะบุกมาชนะ แมนฯ ซิตี้ ไม่ง่ายนัก เชื่อว่าจะเป็นเกมที่สู้กันสนุก และวัดกันที่ความคมในแดนหน้า แต่จากการที่เป็นบอลที่ทันกัน น่าจะทำให้เกมนี้จบลงด้วยการเสมอกันไป

สกอร์ที่คาด : แมนฯ ซิตี้ เสมอ ลิเวอร์พูล 2-2