เรือใบสีฟ้ายังแข็งแกร่งกว่า น่าบุกทุบฟอเรสต์แซงขึ้นอันดับ 3

พรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024-25
น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ พบ แมนฯ ซิตี้
สนาม : ซิตี้ กราวด์
เวลา : 19.30 น. เสาร์ที่ 8 มีนาคม 2568
ถ่ายทอดสดทาง : True Premier Football 1, 2 (ช่อง 600, 602)

ฟอเรสต์
ทีมเจ้าป่าถือว่ามีผลงานที่ยอดเยี่ยมอย่างน่าเหลือเชื่อ หลังทำแต้มขึ้นมาอยู่ในกลุ่มบนของตารางได้ในฤดูกาลนี้ โดยพวกเขาเคยมีช่วงที่ไม่แพ้ใครในพรีเมียร์ลีกยาวนานถึง 8 เกมติดต่อกัน และชนะไปได้ถึง 7 นัด อย่างไรก็ตาม ผลงานในช่วงหลังๆ เริ่มแผ่วลงไป พวกเขาแพ้ไปถึง 3 เกมจาก 5 นัดหลังสุดในลีก และชนะได้เพียงแค่เกมเดียวเท่านั้น และล่าสุดก็ไม่ชนะในลีกมา 3 นัดติดต่อกันแล้ว แต่กระนั้นผลงานในลีกนัดล่าสุดเมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้วก็ถือว่าทำได้ดี เมื่อเปิดบ้านเสมอกับ อาร์เซน่อล ไป 0-0 ทำให้ตอนนี้พวกเขามีอยู่ 48 แต้มจาก 27 นัด ยังรั้งอยู่อันดับที่ 3 ของตาราง ส่วนฟอร์มการลงสนามนัดล่าสุดคือเกม เอฟเอ คัพ รอบ 5 เมื่อวันจันทร์ที่แล้ว เมื่อ ฟอเรสต์ เอาชนะ จุดโทษ อิปสวิช ไปได้ 5-4 หลังเสมอกันใน 120 นาที 1-1 ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น ฟอเรสต์ แทบไม่มีปัญหานักเตะบาดเจ็บเลย โดยเกมนี้จะไม่มีแค่ คาร์ลอส มิเกล เพียงรายเดียวเท่านั้นที่ยังไม่หายเจ็บ ส่วนที่เหลือนั้นไม่มีปัญหา ฟิตสมบูรณ์ทั้งหมด ทำให้เกมนี้ ฟอเรสต์ น่าจะยังยึดผู้เล่นชุดเดิมๆ เป็นหลัก ในระบบการเล่น 4-2-3-1 แนวรุกจะใช้ คริส วู้ด ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้าต่อไป โดยมี แอนโธนี่ อีแลงก้า, มอร์แกน กิ๊บส์-ไวท์ และ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย คอยสนับสนุนเกมรุก

แมนฯ ซิตี้
ทีมเรือใบสีฟ้าฟอร์มการเล่นกลับมามีความไม่แน่นอนอีกครั้ง หลังมีสถิติชนะ 6 แพ้ 5 จากการลงเล่น 11 นัดหลังสุดในทุกรายการ ถือว่าเป็นอะไรที่ไม่เคยเกิดขึ้นสำหรับทีมอย่าง แมนฯ ซิตี้ ในยุคที่มี เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เป็นกุนซือ แต่อย่างไรก็ตาม ล่าสุดพวกเขากลับมาชนะ 2 เกมติดต่อกันแล้ว เริ่มจากบุกไปเอาชนะ สเปอร์ส ได้ 1-0 ในเกมพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุดเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่แล้ว ให้ตอนนี้ แมนฯ ซิตี้ มีอยู่ 47 แต้มจาก 27 เกม ขยับขึ้นมารั้งอยู่อันดับที่ 4 ของตารางได้อีกครั้ง ขณะที่เกม เอฟเอ คัพ รอบที่ 5 เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน ก็เปิดบ้านไล่ทุบ พลีมัธ ไปได้ไม่ยาก 3-1 ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศได้สำเร็จ ตอนนี้เป้าหมายของพวกเขาคือการจบในกลุ่มท็อป 4 ของลีกให้ได้ รวมถึงเดินหน้าคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ มาครอง ก็น่าจะพอลบความผิดหวังที่เกิดขึ้นในฤดูกาลนี้ได้บ้าง

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น แมนฯ ซิตี้ มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บพอควร โดยเกมนี้จะยังไม่มีผู้เล่นอย่าง โรดรี้, ออสการ์ บ็อบบ์, มานูเอล อาคานจี, จอห์น สโตนส์ และ เนธาน อาเก้ ที่ยังมีปัญหาบาดเจ็บ แต่ส่วนที่เหลือนั้นไม่มีปัญหา ทำให้เกมนี้ แมนฯ ซิตี้ จะมาในระบบการเล่น 4-2-3-1 กองหน้าตัวเป้าจะใช้ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ โดยมีตัวสนับสนุนเกมรุกอย่าง เฌเรมี่ โดกู, เควิน เดอ บรอยน์ และ โอมาร์ มาร์มูช ส่วนแดนกลางจะมี นิโก้ กอนซาเลซ คุมเกมร่วมกับ มาเตโอ โควาซิช

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฟอเรสต์ (4-2-3-1) : แม็ตซ์ เซลส์ : โอล่า ไอน่า, นิโกล่า มิเลนโควิช, มูริลโล่, เนโก้ วิลเลี่ยมส์ : นิโกลาส โดมิงเกซ, เอลเลียต แอนเดอร์สัน : แอนโธนี่ อีแลงก้า, มอร์แกน กิ๊บส์-ไวท์, คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย : คริส วู้ด

แมนฯ ซิตี้ (4-2-3-1) : เอแดร์ซอน : มาเตอุส นูเนส, อับดูโคดีร์ คูซานอฟ, รูเบน ดิอาส, ยอชโก้ กวาร์ดิโอล : นิโก้ กอนซาเลซ, มาเตโอ โควาซิช : เฌเรมี่ โดกู, เควิน เดอ บรอยน์, โอมาร์ มาร์มูช : เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์

ความน่าจะเป็น : ฟอเรสต์ เป็นรองกว่าก็จริงในแง่ของคุณภาพ แต่พวกเขาได้เปรียบจากการเล่นในบ้าน นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งมาแล้วในเกมที่เสมอกับ อาร์เซน่อล ได้ในนัดก่อน แต่อย่างไรก็ตาม แมนฯ ซิตี้ มีคุณภาพเกมรุกที่สมบูรณ์กว่าทีมปืนใหญ่ที่กำลังมีปัญหากองหน้าบาดเจ็บ จึงน่าจะเป็นอะไรที่ต่างออกไป รวมถึงถ้าชนะในเกมนี้ได้ ก็จะแซงขึ้นไปอยู่อันดับ 3 ทันที ทำให้รูปเกมน่าจะเป็น แมนฯ ซิตี้ ที่ครองเกมบุกได้มากกว่าแน่นอน ขณะที่ ฟอเรสต์ จะรอจังหวะโต้กลับ เกมนี้น่าจะวัดกันที่ความคมเป็นหลัก ซึ่งเชื่อว่าถ้า แมนฯ ซิตี้ ไม่ใช้โอกาสเปลืองกันเอง ยังน่าจะมีลุ้นบุกชนะได้มากกว่า

สกอร์ที่คาด : ฟอเรสต์ แพ้ แมนฯ ซิตี้ 1-2