เชลซีในบ้านยังเหนือกว่า น่าทุบเลสเตอร์ที่ฟอร์มบู่ได้ไม่ยาก

พรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024-25
เชลซี พบ เลสเตอร์ ซิตี้
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
เวลา : 21.00 น. อาทิตย์ที่ 9 มีนาคม 2568
ถ่ายทอดสดทาง : True Premier Football 3 (ช่อง 603)

เชลซี
เชลซี ภายใต้การนำของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ถือว่าฟอร์มย่ำแย่อย่างมากในช่วงหลัง หลังแพ้ไปถึง 4 เกมจากการลงเล่น 7 เกมหลังสุด แต่อีก 3 เกมที่เหลือพวกเขาก็ยังเก็บชัยชนะได้ ผลงานในเกมล่าสุดคือคือการบุกไปเอาชนะ เอฟซี โคเปนเฮเก้น 2-1 ในศึก ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดแรก เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่เกมพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุดคือการเปิดบ้านถล่ม เซาธ์แฮมป์ตัน ขาดลอย 4-0 เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่แล้ว นั่นทำให้ตอนนี้พวกเขามีอยู่ 46 แต้มจาก 27 นัด รั้งอยู่อันดับที่ 5 ของตาราง แต่ยังมีโอกาสลุ้นท็อป 4 อยู่ เนื่องจากตามหลังอันดับ 4 อย่าง แมนฯ ซิตี้ แค่แต้มเดียวเท่านั้น

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น เชลซี ยังมีปัญหานักเตะบาดเจ็บพอสมควร โดยเกมนี้จะหมดสิทธิ์ใช้งานนักเตะอย่าง โรเมโอ ลาเวีย, นิโกล่าส์ แจ็คสัน, มาร์ก กิว และ โนนี่ มาดูเอเก้ ขณะที่ในรายของ มีไคโล่ มูดริค นั้นติดโทษแบน ทำให้เกมนี้ เชลซี จะมาในระบบ 4-2-3-1 ตามเดิม แนวรุกจะใช้ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมีตัวสนับสนุนอย่าง เจดอน ซานโช่, โคล พาลเมอร์ และ เปโดร เนโต้ คอยปั้นเกม ขณะที่แดนกลางจะใช้ มอยเซส ไกเซโด้ คุมเกมร่วมกับ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ

เลสเตอร์ ซิตี้
ทีมจิ้งจอกสยามของ รุด ฟาน นิสเตลรอย ผลงานยังคงย่ำแย่ต่อเนื่อง และอาการน่าเป็นห่วงสุดๆ เพราะพวกเขาชนะได้แค่ 2 เกม จากการลงเล่น 15 เกมหลังสุดในทุกรายการ และแพ้ไปถึง 12 เกม ล่าสุดแพ้มา 5 เกมติดต่อกันแล้ว โดยเป็นการแพ้ในพรีเมียร์ลีก 4 เกมติด ผลงานในเกมล่าสุดคือการบุกไปพ่าย เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-0 ในเกมลีกเมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้ตอนนี้ เลสเตอร์ มีอยู่เพียง 17 คะแนนจากการลงเล่น 27 นัด รั้งอยู่อันดับที่ 19 ของตาราง ต้องดิ้นรนหนีการตกชั้นอย่างหนัก โดยมีแต้มตามหลังอันดับที่ 17 อย่าง วูล์ฟแฮมป์ตัน อยู่ 5 คะแนน

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น เลสเตอร์ มีปัญหานักเตะบาดเจ็บไม่มากนัก โดยเกมนี้พวกเขาจะไม่มีแค่ ริคาร์โด้ เปเรยร่า และ อับดุล ฟาตาวู เท่านั้นที่ยังไม่หายเจ็บ แต่ส่วนที่เหลือนั้นไม่มีปัญหา ทำให้ เลสเตอร์ จะมาในระบบการเล่น 4-2-3-1 แนวรุกจะใช้ เจมี่ วาร์ดี้ ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมี ฟากุนโด้ บัวนานอตเต้, บิลาล เอล คานนูส และ สเตฟี่ มาวิดิดี้ คอยสนับสนุน ขณะที่แดนกลางจะมี วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ คุมเกมร่วมกับ บูบาคารี่ ซูมาเร่

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เชลซี (4-2-3-1) : ฟิลิป ยอร์เกนเซ่น : มาโล กุสโต้, โทซิน อดาราบิโอโย่, ลีวาย โคลวิลล์, มาร์ก กูกูเรย่า : มอยเซส ไกเซโด้, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ : เจดอน ซานโช่, โคล พาลเมอร์, เปโดร เนโต้ : คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู

เลสเตอร์ ซิตี้ (4-2-3-1) : แม็ดส์ เฮอร์แมนเซ่น : เจมส์ จัสติน, เวาท์ ฟาส, ยานนิก เวสเตอร์การ์ด, วิคเตอร์ คริสเตียนเซ่น : วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้, บูบาคารี่ ซูมาเร่ : ฟากุนโด้ บัวนานอตเต้, บิลาล เอล คานนูส, สเตฟี่ มาวิดิดี้ : เจมี่ วาร์ดี้

ความน่าจะเป็น : แม้ว่า เชลซี อาจจะยังมีฟอร์มที่ไม่สม่ำเสมอมากนัก แต่การได้เล่นในบ้านรวมถึงคุณภาพที่พวกเขามี ก็ยังเหนือกว่าผู้มาเยือนอย่าง เลสเตอร์ อยู่มากพอสมควร เนื่องจากทีมจิ้งจอกสยามแพ้มา 5 เกมติดต่อกันแล้ว และยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นแต่อย่างใด ทำให้เกมนี้คาดว่าจะยังเป็น เชลซี ที่ครองเกมบุกมากกว่า ก่อนจะอาศัยความได้เปรียบเรื่องเสียงเชียร์และแนวรุกที่เด็ดขาดกว่า บดเอาชนะไปได้อย่างไม่ยากนัก

สกอร์ที่คาด : เชลซี ชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 3-0