ชล็อตรับหงส์เกือบพลาดท่า หลังเน้นเซฟแรงมากเกินไป

ลิเวอร์พูล มีคิวรับการมาเยือนของ เซาธ์แฮมป์ตัน ทีมบ๊วยของตารางของพรีเมียร์ลีก เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งดูแล้วน่าจะเป็นเกมที่ไม่ยากนักสำหรับพวกเขา ทำให้ ชล็อต มีการปรับทีมบางส่วน แต่โดยรวมแล้วบรรดาตัวจริงก็ยังได้ลงสนามกันเป็นส่วนใหญ่

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะครองบอลได้มากกว่า และสร้างโอกาสยิงได้เป็นระยะ แต่กลับไม่มีความแม่นยำเท่าที่ควร จนกระทั่งเข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก แฟนๆ หงส์แดงก็ช็อกกันทั้งสนาม เมื่อ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ พยายามบังบอลให้ อลิสซง เบคเกอร์ ออกมาเก็บบอล แต่กลายเป็นเหมือนสื่อสารไม่เข้าใจกัน และกลายเป็นช่องว่างให้ผู้เล่นทีมเยือนเข้ามาเบียดแย่งบอล ก่อนจะไปเข้าทาง วิลล์ สมอลโบน กองกลางทีมนักบุญได้โอกาสยิงเข้าไปง่ายๆ ทำให้จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ตามหลังอยู่ 0-1

แต่กระนั้นในครึ่งหลัง ชล็อต ที่ไม่ได้นั่งคุมทีมข้างสนามเนื่องจากติดโทษแบน ได้ส่งสัญญาณให้ทีมงานเปลี่ยนตัวผู้เล่นรวดเดียว 3 คนในช่วงพักครึ่ง โดยส่ง แอนดี้ โรเบิร์ตสัน, อเล็กซิส แม็ก อัลลิสเตอร์ และ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ลงมา ก่อนที่เกมของ ลิเวอร์พูล จะดีขึ้น และกดดันใส่ เซาธ์แฮมป์ตัน อย่างต่อเนื่อง และเพียงแค่นาทีที่ 51 เจ้าถิ่นก็ตีเสมอได้จากจังหวะชาร์จจ่อๆ ของ ดาร์วิน นูนเญซ ก่อนที่อีก 4 นาทีต่อมา นูนเญซ จะเรียกจุดโทษได้ และเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่สังหารไม่พลาด ช่วยให้หงส์แดงพลิกแซง 2-1 ทันที

หลังขึ้นนำ ลิเวอร์พูล ก็เล่นตามจังหวะของตัวเองไปเรื่อยๆ ก่อนจะมาได้ประตูตอกย้ำชัยชนะในนาทีที่ 88 เมื่อ ยูคินาริ สุงาวาระ แบ็กทีมชาติญี่ปุ่นของทีมเยือนไปทำแฮนด์บอลในเขตโทษ ทำให้ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษทันที และเป็น ซาลาห์ คนเดิมที่ยิงไม่พลาดอีกครั้ง ทำให้ ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายเอาชนะไปสบายๆ 3-1 เก็บเพิ่มเป็น 70 แต้มจาก 29 นัด ทิ้งห่าง อาร์เซน่อล เป็น 16 คะแนนแล้ว แม้ว่าจะแข่งมากกว่า 2 เกมก็ตาม

หลังจบเกม ชล็อต เผยว่าทีมของตนเล่นแบบเหยาะแหยะในครึ่งแรกจนต้องเป็นฝ่ายตามหลัง เนื่องจากไปคิดถึงเกมถัดไปที่จะรับการมาเยือนของ เปแอสเซ ในศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดที่สอง ในช่วงกลางสัปดาห์นี้มากเกินไป โดยกล่าวว่า "มันเป็นสัญญาณที่ดี ที่เราสามารถเอาชนะได้จากแนวทางการเล่นที่แตกต่างกัน ในครึ่งแรกมันเป็นฟอร์มที่ย่ำแย่ ไม่ใช่เพียงเพราะแนวทางเท่านั้น แต่มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับระดับพลังงานในเกมนี้"

"เรื่องดีเพียงอย่างเดียวใน 45 นาทีแรกก็คือบรรดานักเตะได้ถนอมแรงของตัวเองไว้สำหรับเกมกับ เปแอสเช ในวันอังคาร พวกเขาไม่วิ่งกันเลย ผมรู้ว่าพวกเขามีศักยภาพมากกว่านั้น แต่ในเกมนี้พวกเขากลับไม่มีพลังงานเหมือนอย่างที่เคยเป็น"

"เราต้องอดทนเพื่อรอประตู ผมไม่ได้ประหลาดใจนักที่เราเสียประตูไปก่อน เพราะมันเป็นครึ่งแรกที่เลวร้าย แต่เรากลับมาเอาชนะได้ในครึ่งหลัง ผมรู้ดีว่าเราไม่อาจที่จะเล่นได้แบบสุดพลังตลอด 38 นัด บางครั้งคุณต้องหาวิธีอื่นเพื่อคว้าชัยชนะ ผมหวังว่าเกมในครึ่งแรกจะเป็นสัญญาณเตือนให้เรารู้ตัว"

พร้อมกันนี้ ชล็อต ยังมองว่า แม้ว่า ลิเวอร์พูล อาจจะนำห่างถึง 16 แต้ม แต่ก็มีโอกาสที่ลดลงเหลือแค่ 7 คะแนนเช่นกัน เนื่องจาก ลิเวอร์พูล จะไม่ได้เล่นในเกมพรีเมียร์ลีกอีกแล้ว จนกว่าจะถึงเกมที่จะรับมือ เอฟเวอร์ตัน ในวันพุธที่ 2 เมษายน ขณะที่ อาร์เซน่อล จะได้เล่นเกมลีกในช่วงเวลาที่ ลิเวอร์พูล ไม่ได้ลงสนามถึง 3 เกม