เบรนท์ฟอร์ดในบ้านสุดบู่ มีโอกาสโดนเชลซีบุกเล่นงานถึงถิ่น

พรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024-25
เบรนท์ฟอร์ด พบ เชลซี
สนาม : จีเทค คอมมูนิตี้ สเตเดี้ยม
เวลา : 20.00 น. อาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2567
ถ่ายทอดสดทาง : True Premier Football 3 (ช่อง 603)

เบรนท์ฟอร์ด
เบรนท์ฟอร์ด ผลงานออกแนวไปทางขึ้นๆ ลงๆ ในช่วงที่ผ่านมา หลังมีสถิติชนะ 4 เสมอ 2 แพ้ 4 จากการลงเล่น 10 นัดหลังสุดในลีก นอกจากนี้พวกเขายังชนะได้แค่เกมเดียวจาก 4 เกมหลังสุด และแพ้ไปถึง 2 เกม ผลงานในเกมล่าสุดคือการบุกไปพ่าย นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 2-1 ในเกมลีกเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้ เบรนท์ฟอร์ด มีอยู่ 41 แต้มจาก 30 เกม รั้งอยู่อันดับที่ 12 ของตาราง ถือว่าไม่ได้มีลุ้นอะไรแล้วทั้งการหนีตกชั้นหรือการทำอันดับไปเล่นฟุตบอลยุโรปในฤดูกาลหน้า เพราะโอกาสที่จะไล่ทันกลุ่มที่อยู่อันดับแถว 6-8 น่าจะเป็นเรื่องยากแล้ว จากการถูกทิ้งห่างไปกว่า 10 แต้ม

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น เบรนท์ฟอร์ด มีปัญหานักเตะบาดเจ็บค่อนข้างมาก โดยเกมนี้พวกเขาจะไม่มีผู้เล่นอย่าง อารอน ฮิคกี้, จอช ดาซิลวา, อีกอร์ ติอาโก้, กุสตาโว่ นูเนส, ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่, ริโก้ เฮนรี่ และ มาติอัส เยนเซ่น เนื่องจากบาดเจ็บทั้งหมด แต่ที่เหลือนั้นไม่มีปัญหา ทำให้เกมนี้ เบรนท์ฟอร์ด จะมาในระบบการเล่น 4-2-3-1 แนวรุกจะใช้ โยอันน์ วิสซ่า ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมีตัวสนับสนุนอย่าง ไบรอัน เอ็มเบวโม่, มิเคล ดามส์การ์ด และ เควิน ชาเด้ ส่วนแดนกลางจะมี คริสเตียน นอร์การ์ด คุมเกมร่วมกับ วิทาลี่ ยาเนลท์

เชลซี
เชลซี ภายใต้การนำของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ผลงานกลับมาดีขึ้นมากในช่วงหลัง หลังแพ้แค่เกมเดียวจากการลงเล่น 6 เกมหลังสุดในทุกรายการ ที่เหลืออีก 5 เกมชนะได้ทั้งหมด ผลงานในเกมล่าสุดคือการเปิดบ้านเฉือนชนะ สเปอร์ส ไป 1-0 ในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือเป็นการชนะในเกมลีก 3 จาก 4 นัดหลังสุด ทำให้ตอนนี้ เชลซี เก็บเพิ่มเป็น 52 คะแนนจาก 30 เกม รั้งอยู่อันดับที่ 4 ของตาราง แต่กระนั้นก็ยังประมาทไม่ได้ เพราะโดน แมนฯ ซิตี้, แอสตัน วิลล่า และ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ไล่จี้มาแบบติดๆ ทำให้ เชลซี ต้องชนะต่อไปเรื่อยๆ หากหวังที่จะจบฤดูกาลในพื้นที่ท็อป 4

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น เชลซี แทบไม่มีปัญหานักเตะบาดเจ็บเลย โดยเกมนี้พวกเขาจะไม่มีแค่ โรเมโอ ลาเวีย รายเดียวเท่านั้นที่ยังไม่ฟิต รวมถึง มีไคโล่ มูดริค ที่ยังติดโทษแบนยาวเหมือนเดิม แต่ส่วนที่้เหลือนั้นไม่มีปัญหา ฟิตพร้อมลงสนามทั้งหมด ทำให้เกมนี้ เชลซี จะมาในระบบ 4-2-3-1 ตามเดิม แนวรุกจะใช้ นิโกล่าส์ แจ็คสัน ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมีตัวสนับสนุนอย่าง โนนี่ มาดูเอเก้, โคล พาลเมอร์ และ เปโดร เนโต้ คอยปั้นเกม ขณะที่แดนกลางจะใช้ มอยเซส ไกเซโด้ คุมเกมร่วมกับ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เบรนท์ฟอร์ด (4-2-3-1) : มาร์ค เฟล็คเค่น : เซปป์ ฟาน เดน เบิร์ก, เนธาน คอลลินส์, อีธาน ปินน็อค, คีน ลูอิส-พ็อตเตอร์ : คริสเตียน นอร์การ์ด, วิทาลี่ ยาเนลท์ : ไบรอัน เอ็มเบวโม่, มิเคล ดามส์การ์ด, เควิน ชาเด้ : โยอันน์ วิสซ่า

เชลซี (4-2-3-1) : โรเบิร์ต ซานเชซ : รีซ เจมส์, เทรโวห์ ชาโลบาห์, ลีวาย โคลวิลล์, มาร์ก กูกูเรย่า : มอยเซส ไกเซโด้, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ : โนนี่ มาดูเอเก้, โคล พาลเมอร์, เปโดร เนโต้ : นิโกล่าส์ แจ็คสัน

ความน่าจะเป็น : เบรนท์ฟอร์ด เล่นในบ้านก็จริง แต่ผลงานช่วงหลังตกต่ำไปมาก พวกเขาไม่ชนะใครในบ้านมา 8 เกมติดต่อกันแล้ว แถมยังแพ้ไปถึง 6 นัด แต่กระนั้น เชลซี ก็มีผลงานในการออกไปเยือนแย่มากเช่นกัน หลังชนะได้เพียงเกมเดียวจาก 9 นัดหลังสุดในทุกรายการ แถมยังแพ้ไปถึง 6 เกมอีกด้วย ทำให้เกมนี้น่าจะสูสีกันมากกว่าที่คิด อย่างไรก็ตาม จากการที่ เชลซี ได้ตัวหลักๆ กลับมาเกือบครบแล้ว น่าจะมีรูปเกมที่เหนือกว่า อยู่ที่ว่าจะใช้โอกาสเปลืองหรือไม่ โอกาสออกเสมอกันมีสูง แต่มุมชนะยังเชื่อว่าเป็น เชลซี ที่มีลุ้นมากกว่า

สกอร์ที่คาด : เบรนท์ฟอร์ด แพ้ เชลซี 1-2