อนาคตที่ไม่แน่นอนของมาเน่ และตัวแทนที่เป็นไปได้

การแพ้ให้กับทีมอย่าง เรอัล มาดริด นั้นไม่ใช่เรื่องน่าเสียใจอะไรแต่อย่างใด อาจจะรู้สึกเสียดาย แต่กับฟอร์มและความเขี้ยวที่มาดริดแสดงออกมาให้เห็น โดยเฉพาะในครึ่งหลัง เชื่อว่าทุกคนที่ได้ดูเกมคงน่าจะมีคำตอบในใจอยู่แล้ว

ดังนั้น สำหรับในฤดูกาลที่ผ่านมาการได้แชมป์มา 2 จาก 4 รายการที่มีลุ้น คงไม่ใช่ฤดูกาลที่น่าผิดหวังหรือล้มเหลวอย่างแน่นอน สำหรับ เดอะ ค็อป ทุกหมู่เหล่า

ในทางกลับกัน ตลอดเส้นทางที่ผ่านมา เชื่อว่าแฟนบอล ลิเวอร์พูล นี่แหละ น่าจะมีความสุขที่สุดในโลกแล้วที่ได้เห็นทีมโปรดของตัวเองเล่นในมาตรฐานที่สูงขนาดนี้ และยังมีลุ้นไปจนถึงวันสุดท้ายของฤดูกาล ซึ่งก็ต้องบอกว่าสุดท้ายจริงๆ ไม่น่าจะมีทีมไหนมีลุ้นแต่ละแชมป์ได้นานขนาดนี้อีกแล้ว

อย่างที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ พูดเอาไว้หลังแพ้ เรอัล มาดริด ว่า เขาภูมิใจกับทีมนี้ และในปีหน้าพวกเขาก็จะกลับมาอีกครั้ง "นัดชิงชนะเลิศเล่นที่ไหนนะ? อิสตันบุล ใช่มั้ย? งั้นก็จองโรงแรมเอาไว้ได้เลย"

อย่างไรก็ตาม ฤดูกาลอันแสนยาวนานได้จบลงแล้ว จากนี้ไปคือปัจจุบันและอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้น

เมื่องานเฉลิมฉลองจบลง เรื่องของตลาดซื้อขายช่วงซัมเมอร์ก็จะตามมา และแน่นอนว่าดูท่าทาง ลิเวอร์พูล น่าจะต้องมีการปรับเปลี่ยนทีมอยู่บ้างพอสมควร โดยเฉพาะในส่วนของแนวรุก

ซาดิโอ มาเน่ ให้สัมภาษณ์เอาไว้ก่อนเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศว่า เขาจะเปิดเผยถึงอนาคตของเขาหลังจากที่เกมกับ เรอัล มาดริด จบลงแล้ว

แต่จนถึงตอนนี้เจ้าตัวยังไม่ได้ออกมาพูดอะไร แต่บรรดาสื่อต่างๆ ที่เป็นสื่อชั้นนำ อาทิ ฟาบริซิโอ โรมาโน่ ถึงกับออกมายืนยันเลยว่า มาเน่ จะย้ายออกจาก ลิเวอร์พูล อย่างแน่นอนหลังจบฤดูกาล แต่จุดหมายปลายทางนั้นยังไม่แน่ชัด เพียงแต่ บาเยิร์น มิวนิค ดูจะเป็นไปได้มากที่สุด

สำหรับในส่วนของกองหน้า ที่จะออกจากทีมอย่างแน่นอนแล้วก็มี ดิว็อค โอริกี้ ที่น่าจะไปที่ เอซี มิลาน ส่วนสามประสาน SMF ทั้ง มาเน่, โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ อยู่ในสถานการณ์เดียวกันคือเหลือสัญญาแค่เพียงปีเดียว และยังไม่มีใครจรดปากกาต่อสัญญาใหม่

ในรายของ ซาลาห์ เจ้าตัวพูดว่าจะอยู่กับทีมหงส์แดงต่อในปีหน้าแน่ๆ ซึ่งมันก็แหงอยู่แล้ว เพราะเขายังเหลือสัญญาอีก 1 ปี การออกมาบอกแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าจะต่อสัญญาใหม่ อาจจะอยู่ต่ออีกปีเพื่อย้ายทีมแบบไม่มีค่าตัวก็เป็นได้ และก็มีแนวโน้มว่าอาจจะเป็นแบบนั้นค่อนข้างสูง

เพราะถ้า ลิเวอร์พูล สามารถบรรลุข้อตกลงกับ ซาลาห์ ได้ การต่อสัญญาใหม่คงเกิดขึ้นไปนานแล้ว ที่ต้องยืดเยื้อมาจนถึงตอนนี้ก็น่าจะเป็นเพราะตกลงเงื่อนไขกันไม่ได้ทั้งสองฝ่าย

ขณะที่ในรายของ ฟิร์มิโน่ ก็ยังไม่แน่ชัดว่าจะเอาอย่างไรต่อไป แต่เชื่อว่าถ้า ลิเวอร์พูล เสนอสัญญาใหม่ให้ โอกาสที่กองหน้าทีมชาติบราซิลรายนี้จะต่อสัญญาน่าจะมีสูง เพราะดูจากบุคลิกของ ฟิร์มิโน่ แล้ว ไม่ได้เป็นคนที่ชอบทำตัวเด่นดัง หรือมีปัญหากับทีม เว้นเสียแต่ว่าโอกาสในการลงสนามของเขาจะน้อยลงมาก อันนั้นคงเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ส่วนในเคสของ มาเน่ ถ้าเป็นไปตามที่ออกมาก่อนหน้านี้จริง เท่ากับว่า ลิเวอร์พูล จะเสียกองหน้าออกไปแน่ๆ ถึง 2 รายพร้อมกัน ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้น ก็มีความเป็นไปได้ที่ ลิเวอร์พูล ต้องขยับตัวในตลาดช่วงหน้าร้อนนี้อีกครั้ง แม้ว่าเพิ่งจะได้ของดีอย่าง หลุยส์ ดิอาซ มาหมาดๆ ก็ตาม แต่ขุมกำลังในเกมรุกอาจจะไม่เพียงพอ

อาจจะยังมี ทาคุมิ มินามิโนะ อยู่อีกราย แต่สถานะของแนวรุกทีมชาติญี่ปุ่นดูจะเป็นเพียงแค่กำลังเสริมของทีมเท่านั้น ไม่ใช่ตัวจริงที่จะได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง ดีไม่ดี "ทาคิ" อาจจะขอย้ายด้วยอีกราย เพราะก่อนหน้านี้ก็มีข่าวลือว่า ลีดส์ ยูไนเต็ด ที่มี เจสซี่ มาร์ช อดีตนายเก่าของ มินามิโนะ สมัยที่อยู่ ซัลซ์บวร์ก ร่ำๆ อยากได้ลูกน้องเก่ารายนี้กลับไปร่วมงานด้วยกันอีกครั้ง

ดังนั้นมีความเป็นไปได้สูงเลยว่า ลิเวอร์พูล อาจจะต้องซื้อกองหน้าเพิ่มในช่วงซัมเมอร์...

ย้อนกลับมาที่เรื่องของ มาเน่ หลายคนอาจจะประหลาดใจว่าทำไม มาเน่ ถึงอยากจะย้ายออกจากถิ่นแอนฟิลด์ คนที่มีปัญหาน่าจะเป็น ซาลาห์ มากกว่าไม่ใช่หรือ ถ้าจะมีใครสักคนที่น่าจะต่อสัญญาได้ไม่ยาก สำหรับแฟน ลิเวอร์พูล แล้ว มาเน่ น่าจะเป็นนักเตะคนนั้น

สาเหตุหลักๆ แน่นอนว่ายังไม่มีใครรู้จนกว่าเจ้าตัวจะออกมาพูด เหมือนอย่างในรายของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่เหลือสัญญากับ บาเยิร์น มิวนิค อีกปีเดียวเช่นกัน และเพิ่งจะออกมาเผยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า เขาต้องการย้ายออกจากทีมเสือใต้ในซัมเมอร์นี้ เพราะคิดว่ายุคสมัยของเขากับทีมนี้ได้จบลงแล้ว และเขามองไม่เห็นว่าตัวเองจะยังเล่นที่นี่อีกต่อไป การย้ายทีมคือทางออกที่ดีที่สุด และเขาก็หวังว่า บาเยิร์น จะไม่ขัดขวาง

ในส่วนของ มาเน่ แต่ถ้าให้เดา น่าจะเป็นเพราะเรื่องสัญญาใหม่และความท้าทายเป็นหลัก เพราะถ้าหากเราลองหาข้อมูลดูจะพบว่า มาเน่ รับค่าเหนื่อยจาก ลิเวอร์พูล ในสัญญาปัจจุบันเพียงสัปดาห์ละ 100,000 ปอนด์ อยู่ในอันดับที่ 11 ของทีม

การที่มีค่าเหนื่อยน้อยกว่า เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ หรือ ซาลาห์ อาจจะพอเข้าใจได้ (สองคนนี้ได้ 220,000 และ 200,000 ปอนด์ตามลำดับ) แต่น่าเหลือเชื่อที่ มาเน่ ยังได้ค่าเหนื่อยน้อยกว่านักเตะอย่าง อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน และ นาบี เกอิต้า ที่ได้เท่ากันคนละ 120,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์เสียอีก

และถ้าหากนับเฉพาะใน 3 ประสาน SMF มาเน่ คือคนที่ได้ค่าเหนื่อยน้อยที่สุด เพราะ ฟิร์มิโน่ ยังได้ถึง 180,000 ปอนด์ และถ้าเทียบกับ ซาลาห์ เขาได้น้อยกว่าถึง 1 เท่าเต็มๆ

ไม่รู้เหมือนกันว่า ลิเวอร์พูล จะเสนอค่าเหนื่อยในสัญญาใหม่ของ มาเน่ ที่เพิ่งจะอายุครบ 30 ปีไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาสักเท่าไหร่ แต่เชื่อว่าคงจะไม่กระโดดไปจากเดิมนัก ทั้งๆ ที่ถ้ามองที่ฝีเท้าและความสามารถ นักเตะอย่าง มาเน่ สามารถเรียกค่าเหนื่อยในระดับเกิน 250,000 ปอนด์กับทีมอื่นๆ ได้อย่างสบาย และที่สำคัญ ถ้าเขาอยากจะได้สัญญาที่มีมูลค่าสูงๆ นี่น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายของเขาแล้วที่จะเรียกได้ เมื่อเรามองจากอายุ

ขณะที่ในส่วนของความท้าทาย มาเน่ ย้ายมาเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล ตั้งแต่ปี 2016 ถือเป็นคนแรกๆ ที่อยู่ในโปรเจ็คท์ทวงความยิ่งใหญ่ให้กับ ลิเวอร์พูล ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เลยก็ว่าได้ และตลอด 6 ปีที่ผ่านมา มาเน่ ก็ช่วยให้ทีมได้มาหมดแล้วทุกแชมป์ ไม่ว่าจะเป็น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ในปี 2019, พรีเมียร์ลีก ในปี 2020, และ ลีก คัพ กับ เอฟเอ คัพ ในปีนี้

ดังนั้นถ้าเขาอยากจะมองหาความท้าทายใหม่ๆ และถ้าทีมที่เข้ามาเป็นทีมที่มีศักยภาพอย่าง บาเยิร์น มิวนิค มันก็เป็นไปได้เหมือนกัน ซึ่งถ้าไม่มีอะไรที่พลิกโผ เราคงได้เห็นเจ้าตัวออกมาพูดถึงเรื่องนี้ในอีกไม่ช้า

ทีนี้หากว่า มาเน่ ตัดสินใจย้ายออกไปจริงๆ ลิเวอร์พูล จะไปหาใครมาทดแทน ซึ่งถ้าดูจากตัวเลือกที่มีอยู่ในตลาดตอนนี้ ไม่ได้มีมากนัก

บางคนอาจจะบอกว่า งั้นก็ไปเอา เลวานดอฟสกี้ มาเลยสิ แต่ในความเป็นจริงดูเหมือนว่าจุดหมายปลายทางของ "เลวี่" น่าจะเป็น บาร์เซโลน่า ตามข่าวที่ออกมาตลอดในช่วงก่อนหน้านี้มากกว่า นอกจากนี้ ด้วยอายุที่ล่วงเลยไปถึง 33 ปี แม้ว่า เลวานดอฟสกี้ จะมีฝีเท้าระดับโลก แต่ดูจากอุปนิสัยในการซื้อแข้งใหม่ของหงส์แดงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ถ้าเป็นนักเตะที่เป็นแกนหลัก พวกเขาไม่ค่อยนิยมนักเตะอายุมากสักเท่าไหร่

คนถัดมาที่แฟนหงส์หลายคนเชียร์ให้อยากซื้อเหลือเกินคือ ซน ฮึง-มิน ของ สเปอร์ส แต่ในความเป็นจริงแล้วน่าจะยังยากอยู่ดี เพราะ "ซอนนี่" เห็นหน้าใสๆ แบบนี้ จะอายุครบ 30 ปีในเดือนกรกฎาคมนี้แล้ว และเขายังเป็นกำลังสำคัญของ อันโตนิโอ คอนเต้ ในการสู้ศึกในฤดูกาลหน้าแน่นอน และที่สำคัญที่สุดเลยก็คือ ที่ผ่านมาไม่เคยมีข่าวว่า ลิเวอร์พูล จะอยากได้เจ้าตัวไปเล่นด้วยแบบจริงจัง

ขึ้นชื่อว่าเป็นนักเตะเอเชียและอายุใกล้ 30 ปี ต่อให้เก่งแค่ไหนก็ยากที่จะเห็นบรรดาทีมยักษ์ใหญ่ยอมลงทุนคว้าตัวไปเล่นด้วย ดังนั้นเคสของตี๋ซนน่าจะต้องพับเก็บไปอีกราย

เหลือเพียงรายสุดท้ายที่ดูแล้วทุกอย่างน่าจะตรงสเป็กตามแบบที่ ลิเวอร์พูล ชื่นชอบ นั่นก็คือ ดาร์วิน นูนเญซ กองหน้าทีมชาติอุรุกวัยของ เบนฟิก้า ที่เคยเจอกันมาแล้วใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ปีที่ผ่านมา และกองหน้ารายนี้ก็ถือว่ามีฟอร์มการเล่นที่ค่อนข้างน่าประทับใจมากเลยทีเดียว หลังซัดไปถึง 34 ประตูจาก 41 รวมทุกรายการในปีที่ผ่านมา

ด้วยอายุเพียง 22 ปี และเป็นกองหน้าตัวปิดบัญชีโดยธรรมชาติ กับส่วนสูงระดับ 187 ซม. น่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดแล้วหากว่า ลิเวอร์พูล จะลงทุนกับกองหน้าสักคนในช่วงซัมเมอร์นี้ เพียงแต่ช่วงที่ผ่านมา ยังไม่มีข่าวใกล้เคียงว่าหงส์แดงจะไล่ล่าตัว นูนเญซ เข้ามาเสริมเกมรุก

อย่างไรก็ตาม ลองจินตนาการดูว่าถ้าปีหน้า ลิเวอร์พูล มี ดิอาซ เล่นทางซ้าย หน้าเป้าเป็น นูนเญซ และทางขวาเป็น ซาลาห์ โดยมีตัวโรเตชั่นเป็น ดีโอโก้ โชต้า และ ฟิร์มิโน่ น่าจะทำให้เหล่า เดอะ ค็อป ตื่นเต้นกันไม่น้อยแน่ๆ

แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้จะเกิดขึ้นได้หรือไม่ คงต้องให้ มาเน่ ออกมาเปิดเผยก่อนว่าตกลงแล้วเขาจะย้ายออกจากทีมจริงๆ รึเปล่า...

ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ แฟนหงส์ก็เตรียมตัวดูการลงตลาดของทีมรักตัวเองได้เลย เพราะเชื่อว่ายังไงคงต้องมีกองหน้ารายใหม่เข้ามาแทนที่การจากไปของ มาเน่ อย่างแน่นอน