กางโปรแกรมพรีเมียร์ลีก 22/23 "จุดตัดสินหงส์แดงอยู่ที่เดือนเมษายน"

กางโปรแกรมพรีเมียร์ลีก 22/23 "จุดตัดสินหงส์แดงอยู่ที่เดือนเมษายน"
ลิเวอร์พูล ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังคงเป็นทีมที่มีลุ้นคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมากที่สุดรองจาก แมนฯ ซิตี้ หลังจากที่ขับเคี่ยวแย่งแชมป์กันมาตลอดในช่วงหลายปีหลัง แม้ว่าจะเป็นทีมเรือใบสีฟ้าของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่ประสบความสำเร็จมากกว่าก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้นกว่าที่พวกเขาจะคว้าแชมป์ก็ไม่เคยเป็นเรื่องง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าปีนั้นเป็นปีที่ ลิเวอร์พูล เล่นได้ดี อย่างในฤดูกาลที่ผ่านมาก็เฉือนกันไปแค่แต้มเดียวเท่านั้น และต้องลุ้นกันจนถึงวันสุดท้ายของซีซั่น

ความน่าสนใจของ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะมาถึงคือความเปลี่ยนแปลงในเรื่องของแนวรุก หลังจากที่ ซาดิโอ มาเน่ หนึ่งในกองหน้าตัวหลักตลอด 6 ปีที่ผ่านมาขออำลาทีมไปเล่นให้กับ บาเยิร์น มิวนิค นั่นทำให้หงส์แดงต้องยอมทุบคลัง จ่ายเป็นราคาสูงถึง 85 ล้านปอนด์รวมโบนัส เพื่อคว้าตัว ดาร์วิน นูนเญซ กองหน้าทีมชาติอุรุกวัยวัย 22 ปีมาจาก เบนฟิก้า ซึ่งถือว่าเป็นนักเตะที่ราคาแพงที่สุดเท่าที่ ลิเวอร์พูล เคยจ่ายมาเลยทีเดียว



แม้ว่า นูนเญซ จะมีสถิติและฟอร์มการเล่นที่เลิศหรูกับ เบนฟิก้า แต่การย้ายมาด้วยค่าตัวที่เป็นสถิติสโมสรแบบนี้ รวมถึงเรื่องของการปรับตัว ก็ยังไม่แน่เหมือนกันว่าเจ้าตัวจะเริ่มต้นโชว์ฟอร์มได้ดีทันทีเลยหรือไม่ ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไป แต่อย่างน้อย ลิเวอร์พูล ก็รีบดำเนินการหาตัวแทนของ มาเน่ เข้ามาได้ทันที ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเหลียวมองไปยัง แมนฯ ซิตี้ ทีมคู่ปรับสำคัญที่มีการเสริมทัพที่ดีมาก ถ้าหากว่า ลิเวอร์พูล ยังหวังที่จะมีลุ้นแชมป์ ก็ต้องมีขุมกำลังที่ดีพอเช่นกัน


[พรีเมียร์ลีก 5 เกมแรกของทีมหงส์แดง ต้องเจอเกมแดงเดือดตั้งแต่นัดที่ 3]



โปรแกรม 5 นัดแรกของ ลิเวอร์พูล นั้น ถือว่าพวกเขาไม่ต้องเจอกับเกมที่ยากมากเท่าไหร่ ที่น่าสนใจคือต้องไปเยือน แมนฯ ยูไนเต็ด ตั้งแต่เกมที่ 3 ของฤดูกาล แต่ถ้ามองถึงความพร้อมและเรื่องของฟอร์มการเล่น ก็ต้องยอมรับว่าการปะทะกันระหว่างสองทีมนี้ในช่วงเวลานี้ อาจจะไม่ได้เห็นความสูสีมากเท่าไหร่ อย่างในฤดูกาลที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล ก็สามารถเอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ทั้งไปและกลับ แถมยังยิงได้ 9 ลูกและไม่เสียประตูเลยแม้แต่ลูกเดียว


อย่างไรก็ตาม จากการที่ทีมปีศาจแดงมีความเปลี่ยนแปลงในส่วนของกุนซือที่กลายมาเป็น เอริค เทน ฮาก รวมถึงการเสริมทัพของพวกเขาที่เชื่อว่าน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงทีมอยู่บ้าง และ แมนฯ ยูไนเต็ด มักจะทำได้ดีในช่วงเริ่มต้นฤดูกาล นั่นทำให้บางทีเกมนี้อาจจะไม่ง่ายสำหรับ ลิเวอร์พูล เท่าไหร่นัก 


แต่สำหรับเกมอื่นๆ ที่เหลือ ไม่ว่าจะเป็นการเจอกับทีมอย่าง ฟูแล่ม, คริสตัล พาเลซ, บอร์นมัธ และ นิวคาสเซิ่ล ทั้งหมดนี้ไม่น่าจะเป็นอุปสรรคสำหรับหงส์แดงสักเท่าไหร่ โดยในจำนวนนี้มีทีมที่เพิ่งเลื่อนชั้นกลับขึ้นมาถึงสองทีม นั่นทำให้ถ้า ลิเวอร์พูล เน้นดีๆ ในช่วง 5 เกมแรก พวกเขามีสิทธิ์ไม่น้อยที่จะเก็บแต้มได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ และถ้ายังมีฟอร์มในระดับเดียวกับเมื่้อฤดูกาลที่ผ่านมา หากว่าจะเห็น ลิเวอร์พูล ชนะได้ทั้ง 5 ในช่วงออกสตาร์ท ก็ไม่น่าแปลกใจเช่นกัน


[โปรแกรมพรีเมียร์ลีก 2022-23 ทั้ง 38 นัดของ ลิเวอร์พูล]


สิงหาคม

- ฟูแล่ม (เยือน)

- คริสตัล พาเลซ (เหย้า)

- แมนฯ ยูไนเต็ด (เยือน)

- บอร์นมัธ (เหย้า)

- นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (เหย้า)


กันยายน

- เอฟเวอร์ตัน (เยือน)

- วูล์ฟแฮมป์ตัน (เหย้า)

- เชลซี (เยือน)


ตุลาคม

- ไบรท์ตัน (เหย้า)

- อาร์เซน่อล (เยือน)

- แมนฯ ซิตี้ (เหย้า)

- เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (เหย้า)

- น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (เยือน)

- ลีดส์ ยูไนเต็ด (เหย้า)


พฤศจิกายน

- ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (เยือน)

- เซาธ์แฮมป์ตัน (เหย้า)


ธันวาคม

- แอสตัน วิลล่า (เยือน)

- เลสเตอร์ ซิตี้ (เหย้า)


มกราคม

- เบรนท์ฟอร์ด (เยือน)

- ไบรท์ตัน (เยือน)

- เชลซี (เหย้า)


กุมภาพันธ์

- วูล์ฟแฮมป์ตัน (เยือน)

- เอฟเวอร์ตัน (เหย้า)

- นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (เยือน)

- คริสตัล พาเลซ (เยือน)


มีนาคม

- แมนฯ ยูไนเต็ด (เหย้า)

- บอร์นมัธ (เยือน)

- ฟูแล่ม (เหย้า)


เมษายน

- แมนฯ ซิตี้ (เยือน)

- อาร์เซน่อล (เหย้า)

- ลีดส์ ยูไนเต็ด (เยือน)

- น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (เหย้า)

- เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (เยือน)

- ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (เหย้า)


พฤษภาคม

- เบรนท์ฟอร์ด (เหย้า)

- เลสเตอร์ ซิตี้ (เยือน)

- แอสตัน วิลล่า (เหย้า)

- เซาธ์แฮมป์ตัน (เยือน)


[วิเคราะห์ความยากของโปรแกรม]


ลิเวอร์พูล ถือว่าได้โปรแกรมไม่ยากเกินไปนัก ตลอดเส้นทางทั้ง 38 นัด ไม่ค่อยมีช่วงยากๆ สักเท่าไหร่ ในช่วงสองเดือนแรกอาจจะต้องเจอกับทีมในกลุ่มบิ๊ก 6 ถึงสองทีมอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด และ เชลซี แต่ก็มีเกมง่ายๆ มาคั่นอยู่มากพอสมควร ดังนั้นคงไม่น่ามีผลต่อการจัดการสักเท่าไหร่


ในช่วงเดือนตุลาคมอาจจะน่าเป็นห่วงอยู่บ้าง เพราะมีเกมที่ต้องเจอกับทีมอย่าง อาร์เซน่อล, แมนฯ ซิตี้ และ เวสต์แฮม 3 เกมติดต่อกัน แต่ก็เป็นการได้เล่นในบ้าน 2 จาก 3 เกม นอกจากนี้แมตช์ก็ไม่ได้กระชั้นชิดกันมากเท่าไหร่ด้วย ถ้าหากว่าวางแผนโรเตชั่นทีมให้ดีๆ ก็มีโอกาสที่จะประคองตัวผ่านไปได้ไม่ยากนัก


อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาที่น่าจะเป็นจุดสำคัญที่สุดต่อเส้นทางการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกของ ลิเวอร์พูล น่าจะอยู่ที่เดือนเมษายน เนื่องจากมีเกมที่ต้องไปเยือน แมนฯ ซิตี้ และกลับมาเล่นใน แอนฟิลด์ เจอกับ อาร์เซน่อล ก่อนที่จะมี ลีดส์ กับ ฟอเรสต์ มาคั่นกลาง และปิดท้ายเดือนด้วยการไปเยือน เวสต์แฮม และกลับมาเฝ้าบ้านเจอ สเปอร์ส


นอกจากจะต้องเล่นติดๆ กันแล้ว ยังมีเกมยากภายในเดือนเดียวกันถึง 4 เกม ซึ่งเชื่อว่าถ้าหาก ลิเวอร์พูล ผ่านพ้นเดือนนี้ไปโดยที่ไม่สามารถขึ้นสู่ตำแหน่งจ่าฝูงของตารางได้ บางทีอาจจะไล่ตามทีมอันดับ 1 ไม่ทัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากว่าทีมนั้นคือ แมนฯ ซิตี้


แต่ในทางกลับกัน ถ้าหากเข้าสู่เดือนพฤษภาคม และ ลิเวอร์พูล สามารถนำเป็นจ่าฝูง โอกาสที่พวกเขาจะประคองตัวเข้าป้ายด้วยตำแหน่งแชมเปี้ยนก็มีไม่น้อยเลย เพราะ 4 เกมสุดท้ายในเดือนนี้พวกเขาจะไม่มีเกมที่ต้องเจอกับทีมใหญ่แล้ว แถมเมื่อดูจากรายชื่อก็มีโอกาสสูงที่ ลิเวอร์พูล จะเก็บชัยได้ครบทุกนัด

ภาพจาก Getty Images

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :

Website : www.truevisions.co.th

Facebook : Truevisions

Twitter : @TrueVisions

Line : @Truevisions

Youtube official : Truevisionsofficial

Instagram : Truevisionsofficial