กางโปรแกรมพรีเมียร์ลีก 22/23 "ไก่เดือยทองอาจสร้างเซอร์ไพรส์"

จากการได้ไปเล่นในถ้วยบิ๊กเอียร์ นั่นทำให้บอร์ดบริหารของ สเปอร์ส ดูจะสนับสนุน คอนเต้ มากขึ้น ด้วยการเสริมทัพอย่างฉับไว เริ่มต้นด้วยการดึงตัวฟรีแต่มีประสิทธิภาพเข้ามาสองราย นั่นคือ อีวาน เปริซิช ปีกทีมชาติโครเอเชียจาก อินเตอร์ มิลาน และ เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ นายทวารฝีมือดีจาก เซาธ์แฮมป์ตัน ที่จะเข้ามาเป็นมือสองให้กับทีม

เท่านั้นยังไม่พอ สเปอร์ส ยังได้ อีฟส์ บิสซูม่า กองกลางตัวรับทีมชาติมาลีของ ไบรท์ตัน เข้ามาเสริมทัพในราคาเพียง 25 ล้านปอนด์ โดยมีโบนัสเพิ่มขึ้นได้ถึง 30 ล้านปอนด์ในอนาคต ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ถูกมากเมื่อเทียบกับฝีเท้า นั่นทำให้แดนกลางในฤดูกาลหน้าของ สเปอร์ส จะแข็งแกร่งขึ้นมาก จากเดิมที่มี โรดริโก้ เบนตานกูร์ และ ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์ก ทำผลงานได้ดีอยู่แล้ว

นอกจากนี้ยังมีรายงานอีกว่าพวกเขาน่าจะยังต้องการเซนเตอร์แบ็กและกองหน้าเพิ่มอีกอย่างละหนึ่งราย โดยกองหน้านั้นมีข่าวกับ ริชาร์ลิซอน แนวรุกทีมชาติบราซิลของ เอฟเวอร์ตัน ในราคา 50 ล้านปอนด์ ซึ่งถ้าหากคว้าตัวมาร่วมผนึกกำลังกับ ซน ฮึง-มิน, แฮร์รี่ เคน และ เดยัน คูลูเซฟสกี้ ได้ล่ะก็ บอกได้เลยว่า สเปอร์ส ของ อันโตนิโอ คอนเต้ จะเป็นทีมที่น่าจับตามองสุดๆ ในฤดูกาลหน้าได้เลย

[พรีเมียร์ลีก 5 เกมแรกของทีมไก่เดือยทอง ถือว่าเป็นงานที่ไม่ยากแต่ก็ไม่ง่าย]

โปรแกรม 5 นัดแรกของ สเปอร์ส ถือว่าไม่ยากมากแต่ก็ไม่ง่ายเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ต้องเล่นเกม ลอนดอน ดาร์บี้ ถึงสองเกม และยังเป็นการออกไปเยือนทั้งคู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการไปเยือน สแตมฟอร์ด บริดจ์ ของ เชลซี ตั้งแต่เกมที่สอง และออกไปเยือน ลอนดอน สเตเดี้ยม ของ เวสต์แฮม ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม

การที่ต้องเจอกับ เชลซี และ เวสต์แฮม คือเกมที่ต้องระวังมากที่สุดของ สเปอร์ส ในช่วงออกสตาร์ท อย่างไรก็ตาม คู่แข่งที่เหลืออย่าง เซาธ์แฮมป์ตัน, วูล์ฟแฮมป์ตัน และ ฟอเรสต์ จัดว่าเป็นงานที่ค่อนข้างเบา และมีโอกาสสูงที่ สเปอร์ส จะเก็บชัยได้ทั้งหมด ดังนั้น เมื่อดูจากภาพรวมแล้ว ช่วงเริ่มต้น 5 นัดแรกถ้าหากว่า คอนเต้ วางแผนได้ดี มีโอกาสสูงที่ทีมไก่เดือยทองจะเก็บคะแนนได้มาก และบินสูงบนตารางคะแนนได้ตั้งแต่เดือนแรกของซีซั่น อาจจะสามารถคาดหวังได้ในระดับ 12 แต้มหรือมากกว่านั้นได้เลย

[โปรแกรมพรีเมียร์ลีก 2022-23 ทั้ง 38 นัดของ สเปอร์ส]

สิงหาคม

- เซาธ์แฮมป์ตัน (เหย้า)

- เชลซี (เยือน)

- วูล์ฟแฮมป์ตัน (เหย้า)

- น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (เยือน)

- เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (เยือน)

กันยายน

- ฟูแล่ม (เหย้า)

- แมนฯ ซิตี้ (เยือน)

- เลสเตอร์ ซิตี้ (เหย้า)

ตุลาคม

- อาร์เซน่อล (เยือน)

- ไบรท์ตัน (เยือน)

- เอฟเวอร์ตัน (เหย้า)

- แมนฯ ยูไนเต็ด (เยือน)

- นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (เหย้า)

- บอร์นมัธ (เยือน)

พฤศจิกายน

- ลิเวอร์พูล (เหย้า)

- ลีดส์ ยูไนเต็ด (เหย้า)

ธันวาคม

- เบรนท์ฟอร์ด (เยือน)

- แอสตัน วิลล่า (เหย้า)

มกราคม

- คริสตัล พาเลซ (เยือน)

- อาร์เซน่อล (เหย้า)

- ฟูแล่ม (เยือน)

กุมภาพันธ์

- แมนฯ ซิตี้ (เหย้า)

- เลสเตอร์ ซิตี้ (เยือน)

- เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (เหย้า)

- เชลซี (เหย้า)

มีนาคม

- วูล์ฟแฮมป์ตัน (เยือน)

- น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (เหย้า)

- เซาธ์แฮมป์ตัน (เยือน)

เมษายน

- เอฟเวอร์ตัน (เยือน)

- ไบรท์ตัน (เหย้า)

- บอร์นมัธ (เหย้า)

- นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (เยือน)

- แมนฯ ยูไนเต็ด (เหย้า)

- ลิเวอร์พูล (เยือน)

พฤษภาคม

- คริสตัล พาเลซ (เหย้า)

- แอสตัน วิลล่า (เยือน)

- เบรนท์ฟอร์ด (เหย้า)

- ลีดส์ ยูไนเต็ด (เยือน)

[วิเคราะห์ความยากของโปรแกรม]

ถ้ามองภาพรวมของโปรแกรมทั้ง 38 เกมแล้ว ถือว่า สเปอร์ส เจอกับโปรแกรมที่ค่อนข้างดีเลยทีเดียว เพราะพวกเขาแทบจะไม่มีช่วงที่ต้องเจอเกมหนักติดๆ กันเลย แม้ว่าจะต้องเจอกับ เชลซี และ เวสต์แฮม ตั้งแต่เดือนแรก แต่ก็ไม่ได้เจอติดๆ กัน และมีเกมที่ง่ายกว่าเข้ามาคั่น นั่นทำให้การจัดการทีมของ คอนเต้ ก็จะง่ายตามไปด้วย

โดยในช่วง 4 เดือนแรกพวกเขาต้องเจอกับคู่แข่งระดับบิ๊ก 6 ครบทุกทีมก็จริง แต่ก็มีคู่แข่งที่เบากว่าเข้ามาสลับ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดีที่มีเกมยากและเกมง่ายเฉลี่ยๆ กันไป ดีกว่าที่ต้องมากองรวมกันในเดือนเดียว และต้องลงเล่นในแบบที่โรเตชั่นทีมไม่ได้

ช่วงที่ดูแล้วน่าจะยากที่สุดในฤดูกาลนี้ของ สเปอร์ส จะมีอยู่สองช่วง ช่วงแรกคือเดือนกุมภาพันธ์ ที่ต้องเจอกับ แมนฯ ซิตี้, เลสเตอร์, เวสต์แฮม และ เชลซี ข้อดีคือเป็นเหย้าถึง 3 ใน 4 เกม แต่ข้อเสียคือเป็นเกมที่ค่อนข้างตึงมือ แถมในช่วงเวลาดังกล่าวน่าจะมีเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายเข้ามาคั่นด้วย ถ้าหากว่า สเปอร์ส ยังไม่ตกรอบแบ่งกลุ่มไปเสียก่อน ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่โรเตชั่นทีมได้ยากที่สุด

ขณะที่ช่วงปลายเดือนเมษายนจะเป็นอีกช่วงที่ต้องระวัง เพราะพวกเขาต้องเจอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด และต่อด้วย ลิเวอร์พูล แต่ข้อดีคือช่วงเดือนมีนาคมและช่วงแรกของเดือนเมษายนจะมีแต่คู่แข่งที่ชื่อชั้นเป็นรองกว่า และจะเป็นช่วงที่ สเปอร์ส สามารถตะลุยเก็บแต้มได้อย่างเต็มที่ ซึ่งถ้าหากทำได้ดี การเจอกับปีศาจแดงและหงส์แดง ขอแค่ประคองให้มีแต้มกลับออกมาได้ก็เพียงพอแล้ว

ส่วนในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นเดือนสุดท้ายของฤดูกาล สเปอร์ส เจอกับงานที่ค่อนข้างเบา และมีโอกาสเก็บชัยชนะได้ต่อเนื่อง ซึ่งถ้าเป็นไปตามที่คาดการณ์ สเปอร์ส ของ คอนเต้ นี่แหละ น่าจะเป็นทีมจอมเซอร์ไพรส์ของฤดูกาล และมีโอกาสที่จะพุ่งชนความสำเร็จไม่น้อย

จากโปรแกรมที่เป็นใจแบบนี้ ทำให้ สเปอร์ส สามารถคาดหวังโควต้าท็อป 4 ได้อย่างสบายๆ แต่ถ้าหากว่าการเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์ทำได้ดี บวกกับรักษาฟอร์มการเล่นได้สม่ำเสมอ ด้วยฝีมือการนำทัพของ คอนเต้ บางที สเปอร์ส อาจจะคาดหวังถึงการขึ้นไปท้าชิงแชมป์พรีเมียร์ลีกกับ แมนฯ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล ได้เลย