ซีซั่นใหม่ของอาร์เซน่อล กับเป้าหมายที่ใหญ่มากกว่าเดิม

อาจจะมีแค่บางทีมที่ยังไม่มีความเคลื่อนไหวในส่วนของตลาดขาเข้าเลย อาทิ แมนฯ ยูไนเต็ด และ เชลซี ที่เดินแต่ละดีลได้ช้าจนทำให้แฟนๆ รอจนเบื่อ บางคนถึงกลับปลงแล้วว่าถ้าเชื่องช้าแบบนี้ฤดูกาลใหม่จะไปคาดหวังอะไรได้

แต่สำหรับทีมอย่าง แมนฯ ซิตี้, ลิเวอร์พูล, ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และ อาร์เซน่อล กลับไม่เป็นอย่างนั้น เพราะ 4 ทีมที่ว่ามาต่างเสริมทัพได้น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นทั้งในเรื่องปริมาณหรือคุณภาพ

สำหรับแชมป์เก่าอย่าง แมนฯ ซิตี้ เราได้เห็นไปแล้วว่าพวกเขาได้ตัว เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ มาแล้วเรียบร้อย และกำลังจะได้ คาลวิน ฟิลลิปส์ กองกลางทีมชาติอังกฤษมาจาก ลีดส์ ยูไนเต็ด อีกในเร็วๆ นี้ หลังจากมีรายงานว่าพวกเขาปิดดีลกับทาง ลีดส์ ได้แล้วด้วยราคาเพียง 45 ล้านปอนด์เท่านั้น

ขณะที่ ลิเวอร์พูล มี ดาร์วิน นูนเญซ เป็นตัวชูโรงในตลาดรอบนี้ เป็นการเสริมแนวรุกที่ต้องยอมทุ่มเงินสูงถึง 100 ล้านยูโรแบบรวมโบนัสแล้ว แต่ก็เชื่อว่าทีมงานหงส์แดงคงคิดมาดีแล้วสำหรับดีลนี้ ไม่อย่างนั้นคงไม่กล้าทุ่มงบประมาณมากถึงขนาดนี้ และดูเหมือนว่าพวกเขาอาจจะปิดตลาดของตัวเองไปแล้วเรียบร้อย เพราะเมื่อดูขุมกำลังที่มีอยู่เดิม ในสายตาของ เจอร์เก้น คล็อปป์ อาจจะคิดว่าเพียงพอแล้วสำหรับการสู้ศึกในฤดูกาลหน้า

ส่วน สเปอร์ส ของ อันโตนิโอ คอนเต้ ถือว่าเสริมทีมได้น่าสนใจ แถมยังได้มาแล้วหลายคน ไม่ว่าจะเป็น อีวาน เปริซิช ที่ได้มาแบบฟรีๆ จาก อินเตอร์ มิลาน, เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ นายทวารมือสองที่ดึงมาแบบฟรีๆ จาก เซาธ์แฮมป์ตัน และ อีฟส์ บิสซูม่า กองกลางทีมชาติมาลีที่จ่ายเพียง 25 ล้านปอนด์เอามาจาก ไบรท์ตัน

เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีรายงานว่าพวกเขากำลังจะได้ ริชาร์ลิซอน มาจาก เอฟเวอร์ตัน ด้วยค่าตัวราว 50 ล้านปอนด์ แถมยังแอบเหล่ แอนโธนี่ กอร์ดอน กองกลางดาวรุ่งของทอฟฟี่สีน้ำเงินอีกราย ที่คาดว่าค่าตัวไม่น่าเกิน 30 ล้านปอนด์ นอกจากนี้ยังต้องการเซนเตอร์ฮาล์ฟเพิ่มอีกราย เพื่อเข้ามาอุดจุดบอดให้แข็งแกร่งมากขึ้น ซึ่งถ้าได้มาทั้งหมดนี้ ทีมไก่เดือยทองภายใต้การทำงานของ คอนเต้ อาจจะมีลุ้นอะไรบางอย่างในฤดูกาลหน้าได้เลย

แต่สำหรับทีมที่เสริมได้อย่างน่าสนใจ และได้น้ำได้เนื้อไม่แพ้อีก 3 ทีมที่กล่าวมา ต้องยกให้กับ อาร์เซน่อล ของ มิเกล อาร์เตต้า ที่ตอนนี้ได้มาแล้ว 3 ราย และกำลังจะมีอีก 3 รายตามมา เมื่อเราดูจากข่าวที่รายงานในช่วงหลายวันที่ผ่านมา

เริ่มจากตัวที่ได้เข้ามาแล้วนั้นประกอบไปด้วย มาร์กินญอส ปีกดาวรุ่งชาวบราซิล ที่ดึงมาจาก เซา เปาโล แบบที่ไม่เปิดเผยค่าตัว แต่บรรดาสื่อเชื่อว่าแค่ 3 ล้านปอนด์เท่านั้น ต่อด้วย ฟาบิโอ วิเอยร่า กองกลางโปรตุเกสที่ดึงมาจาก เอฟซี ปอร์โต้ ที่ราคา 34 ล้านปอนด์ และรายล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไปคือ แม็ตต์ เทิร์นเนอร์ นายทวารทีมชาติสหรัฐฯ ที่ดึงมาจาก นิว อิงแลนด์ เรฟโวลูชั่น ที่ราคาประมาณ 7 ล้านปอนด์

3 รายที่กล่าวมาอาจจะเป็นเพียงแค่น้ำจิ้ม เพราะอีก 3 รายต่อจากนี้ถ้าได้มาล่ะก็ บอกเลยว่าไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไม อาร์เซน่อล ถึงต้องมีเป้าหมายที่ใหญ่กว่าเดิมในฤดูกาล 2022-23

เริ่มกันที่รายแรกอย่าง กาเบรียล เชซุส กองหน้าทีมชาติบราซิลของ แมนฯ ซิตี้ ที่เป็นเป้าหมายของทีมปืนใหญ่มานาน ล่าสุดมีรายงานระบุชัดเจนว่า อาร์เซน่อล บรรลุข้อตกลงกับทีมเรือใบสีฟ้าในการคว้าตัวกองหน้ารายนี้ได้แล้ว ที่ราคา 45 ล้านปอนด์ รวมถึงตกลงเงื่อนไขส่วนตัวกับทางนักเตะได้แล้วเช่นกัน เหลือเพียงแค่การตรวจร่างกายและประกาศอย่างเป็นทางการเท่านั้น

พูดง่ายๆ ว่าได้มา 4 คนแล้วเรียบร้อย ก็ไม่ผิดสักเท่าไหร่...  

รายต่อมาว่ากันว่ามีโอกาสได้ตัวสูง นั่นคือ ราฟินญ่า ของ ลีดส์ ยูไนเต็ด ซึ่งต้องบอกว่าเซอร์ไพรส์ไม่น้อยที่เห็น อาร์เซน่อล ลงมาไล่ล่าตัวนี้ เพราะก่อนหน้านี้แทบไม่เคยมีข่าวมาก่อน และ ราฟินญ่า ดูจะถูกเชื่อมโยงกับทาง บาร์เซโลน่า มากกว่า ซึ่งตัวนักเตะเอาก็อยากจะไปเล่นในถิ่น คัมป์ นู ด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังมี เดโก้ อดีตดาวเตะบาร์ซ่าเป็นเอเยนต์ให้อีกด้วย ทุกอย่างเลยน่าจะดูราบรื่นมากกว่า

แต่จากการที่บาร์ซ่ามีปัญหาเรื่องการเงิน และ ลีดส์ ก็ตั้งราคาไว้ไม่น้อยกว่า 50 ล้านปอนด์ นั่นทำให้งานนี้บาร์ซ่าอาจต้องยอมถอย และเป็น อาร์เซน่อล ที่เข้ามาเจรจาแทน ซึ่งถึงแม้ว่าการยื่นข้อเสนอครั้งแรกของทีมปืนใหญ่จะถูกปฏิเสธไปแล้วเรียบร้อย เพราะยื่นไปแค่ราวๆ 30 ล้านปอนด์ แต่ตามรายงานข่าวระบุว่าน่าจะเป็นแค่การหยั่งเชิงเท่านั้น และ อาร์เซน่อล ก็เตรียมที่จะยื่นข้อเสนอเข้าไปเป็นครั้งที่สองแล้วภายในสัปดาห์นี้ และคาดว่าตัวเลขน่าจะเข้าใกล้จำนวนที่ ลีดส์ ต้องการมากขึ้น

อาจจะยังต้องใช้เวลาในการต่อรองค่าตัว แต่เชื่อว่าโอกาสที่ อาร์เซน่อล จะปิดดีลนี้ได้ก็มีค่อนข้างสูง และถ้าได้ตัว ราฟินญ่า มาร่วมทีมจริงๆ ขุมกำลังเชิงลึกของทีมปืนใหญ่ในส่วนของแนวรุก จะดูดีขึ้นมากเลยจริงๆ

ส่วนในรายสุดท้ายที่ตกเป็นข่าวแบบสดๆ ร้อนๆ เลยก็คือ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ปราการหลังทีมชาติอาร์เจนติน่าของ อาแจ็กซ์ ที่ก็เป็นเป้าหมายของ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยเช่นกัน แต่ดูเหมือนว่าทีมปืนใหญ่จะไปไวกว่า เมื่อมีรายงานจาก เดอ เทเลกราฟ สื่อดังของเนเธอร์แลนด์ระบุว่า อาร์เซน่อล ได้ยื่นข้อเสนอให้ อาแจ็กซ์ พิจารณาแล้วที่ราคา 40 ล้านยูโร หรือราวๆ 34.5 ล้านปอนด์ แต่ติดตรงที่ทีมดังลีกดัตช์อยากได้ที่ราคา 50 ล้านยูโร หรือราว 43 ล้านปอนด์

อย่างไรก็ตาม แม้จะถูกปฏิเสธมา แต่เชื่อว่า อาร์เซน่อล จะกลับไปคุยกับ อาแจ็กซ์ อีกครั้งแน่ และถ้าหากปิดดีลได้จริง ต้องยอมรับว่าปีนี้ "เดอะ กันเนอร์ส" ทุ่มเทมากๆ กับตลาดนักเตะรอบนี้ เพราะจะเป็นการเสริมทัพที่ตรงจุดเอามากๆ เมื่อเราดูจากผลงานของทีมเมื่อปีที่ผ่านมา

อาร์เซน่อล ภายใต้การทำงานของ อาร์เตต้า เมื่อฤดูกาลที่แล้ว เป้าหมายของพวกเขาคือการทำอันดับกลับไปเล่นในฟุตบอลยุโรปอีกครั้ง ซึ่งจริงๆ อันดับที่ 5 ที่ได้มาและได้สิทธิ์ไปเล่นใน ยูโรป้า ลีก ย่อมถือว่าทำได้ตามเป้าที่วางไว้แล้ว แต่ในอีกมุมหนึ่งก็น่าเสียดายไม่น้อย เพราะอันที่จริงพวกเขาน่าจะจบอันดับที่ 4 ได้เลยด้วยซ้ำ ถ้าหากว่าไม่ไปหลุดกันเองในช่วงท้ายฤดูกาล จนกระทั่งโดน สเปอร์ส แซงเข้าป้ายไปแทน

ทีมปืนใหญ่ในฤดูกาลที่ผ่านมาจัดว่ามีทรงการเล่นที่ดี จุดเด่นของพวกเขาคือทีมเวิร์คและระบบการเล่นที่ชัดเจน เล่นฟุตบอลเกมรุกและเทคนิคในการต่อบอลถือว่าทำได้ดี แต่ปัญหาที่มักจะเกิดขึ้นก็คือเรื่องขนาดของทีม เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ตัวจริงบาดเจ็บและขาดหายไป ทีมของ อาร์เตต้า มักจะมีปัญหาเรื่องฟอร์มการเล่นอยู่เสมอ

รวมถึงสไตล์การเล่นที่ดูฉูดฉาดก็จริง และเต็มไปด้วยนักเตะพลังหนุ่ม แต่ข้อเสียคือความเก๋าที่ลดลงตามไปด้วย และเมื่อไหร่ก็ตามที่เจอกับทีมที่เข้าบอลหนักๆ เตะแบบติดดาบ ลูกทีมของ อาร์เตต้า ก็มักจะไปไม่ค่อยเป็น จนมีผลกระทบต่อผลการแข่งขัน เกมที่ควรได้ 3 แต้มกลับทำได้แค่เสมอ หรือหนักหน่อยก็ถึงขั้นแพ้ไปเลย

ดังนั้นการได้ ฟาบิโอ วิเอยร่า เข้ามา คือการเข้ามาแก้ปัญหาในแดนกลาง และถ้าเป็นไปตามที่คิด การจับคู่กับ โธมัส ปาร์เตย์ อาจจะทำให้กลางของ อาร์เซน่อล มีความมั่นคงมากกว่าเดิม จากที่เคยใช้ กรานิต ชาค่า ที่ฟอร์มการเล่นไม่ค่อยคงเส้นคงวา ชอบก่อความผิดพลาดและชอบเสียใบแดงเป็นประจำจนทำให้ทีมต้องเสียเปรียบอย่างไม่จำเป็น

ส่วนในรายของ เชซุส และ ราฟินญ่า นั้นไม่ต้องพูดถึง สองคนนี้เป็นนักเตะที่มีคุณภาพสูงอยู่แล้ว และเป็นตัวทีมชาติบราซิลด้วยกันทั้งคู่ การมาชอง เชซุส จะทำให้แดนหน้าของ อาร์เซน่อล มีทางเลือกมากขึ้น ไม่ต้องฝากความหวังไว้ที่ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ เพียงคนเดียว ส่วน ราฟินญ่า จะทำให้ทีมมีออปชั่นทางริมเส้นมากกว่าเดิม โดยที่ไม่ต้องไปพึ่งพา บูคาโย่ ซาก้า มากเกินไป

เพราะถึงแม้ ซาก้า จะเป็นดาวรุ่งที่ฟอร์มดีสุดๆ แต่หลายครั้งที่ประสบการณ์และความเก๋าของเขายังไม่เพียงพอ ดังนั้นการได้ ราฟินญ่า ที่เรียกได้ว่าเป็นตัวแบกของ ลีดส์ ในการหนีตกชั้นเมื่อปีก่อนเข้ามาเสริมทัพ จึงเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมากๆ

ส่วน ลิซานโดร มาร์ติเนซ นี่คือหนึ่งในนักเตะที่เล่นได้ดีมากที่สุดคนหนึ่งของ อาแจ็กซ์ ในฤดูกาลที่ผ่านมา และถ้าเข้ามาช่วยเติมเต็มในเกมรับของ อาร์เซน่อล ก็จะทำให้พวกเขามีความแข็งแกร่งมากขึ้นอย่างแน่นอน นอกจากนี้ ลิซานโดร ยังมีความสารพัดประโยชน์ เมื่อสามารถขยับขึ้นไปยืนเป็นมิดฟิลด์ตัวรับหรือแบ็กซ้ายจำเป็นได้อีกด้วย

กับเป้าหมายที่ อาร์เซน่อล วางไว้ใหญ่กว่าเดิมในฤดูกาลที่กำลังจะมาถึง การเสริมทัพที่ดีจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะในฤดูกาลใหม่นี้เชื่อว่าพวกเขาคงมองไปถึงการลุ้นติดท็อป 4 เป็นหลัก และถ้าเป็นไปได้ในฟุตบอลถ้วยไม่ว่าจะเป็น ยูโรป้า ลีก รวมถึง ลีก คัพ และ เอฟเอ คัพ เชื่อว่า อาร์เตต้า คงอยากพาทีมมีแชมป์ติดไม้ติดมือด้วยแน่ๆ

และถ้าหากว่าแผนการเสริมทีมของพวกเขาทำได้อย่างที่วางเอาไว้ ตัวที่กำลังเป็นข่าวในเวลานี้สามารถดึงมาร่วมทีมได้ทั้งหมด ก็สามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่า อาร์เซน่อล พร้อมแล้วที่จะทำตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ และเชื่อว่าน่าจะเป็นฤดูกาลที่น่าตื่นเต้นสำหรับแฟนปืนใหญ่ทุกคนอย่างแน่นอน...