ศึกเมอร์ซี่ย์ไซด์ดาร์บี้ เอฟเวอร์ตันสู้เต็มที่หวังมีแต้มกับลิเวอร์พูล

พรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เอฟเวอร์ตัน พบ ลิเวอร์พูล
สนาม : กูดิสัน พาร์ค
เวลา : 18:30 น. วันเสาร์ที่ 3 กันยายน 2565 (True Premier Football 1, 2)

เอฟเวอร์ตัน
ทีมทอฟฟี่สีน้ำเงินของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด อยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สู้ดีเท่าไหร่นักในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ หลังจากที่ยังไม่ชนะใครเลยตลอด 5 เกมที่ผ่านมา โดยเปิดหัวมา 5 เกมทำได้แค่เสมอ 3 และแพ้ 2 อย่างไรก็ตาม 3 เกมหลังสุดพวกเขาไม่แพ้ใคร และถ้านับรวมทุกรายการคือไม่แพ้ใครมา 4 เกมติดต่อกันแล้ว โดยเกมล่าสุดบุกไปเสมอกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด มาได้ 1-1 โดยที่เป็นฝ่ายขึ้นนำได้ก่อนด้วย ขณะที่การเสริมทัพในช่วงท้ายตลาดซัมเมอร์พวกเขายังได้สองกองกลางคุณภาพเข้ามาเพิ่มอย่าง เจมส์ การ์เนอร์ ดาวรุ่งจาก แมนฯ ยูไนเต็ด และ อีดริสซ่า กาน่า เกย์ ที่ย้ายกลับมาร่วมทีมอีกครั้งหลังจากที่ไปเล่นอยู่กับ เปแอสเช 3 ปี รวมถึง นีล โมเปย์ กองหน้าฝรั่งเศสที่มาจาก ไบรท์ตัน น่าจะช่วยยกระดับการเล่นของทีมได้มากขึ้นพอสมควร

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุด เอฟเวอร์ตัน ยังมีปัญหานักเตะบาดเจ็บหลายรายเหมือนเดิม โดยจะหมดสิทธิ์ใช้งาน โดมินิก คัลเวิร์ต-ลูวิน, แอนดรอส ทาวน์เซนด์, เยร์รี่ มิน่า, อับดุลลาย ดูกูเร่, เมสัน โฮลเกต และ เบน ก็อดฟรีย์ ที่ยังบาดเจ็บทั้งหมด แต่จากการเสริมทัพที่ดึงนักเตะใหม่เข้ามาหลายราย ก็ช่วยให้ แลมพาร์ด มีผู้เล่นที่จะใช้งานได้อย่างเพียงพออยู่

ลิเวอร์พูล
หลังจากฟอร์มร่วง ไม่ชนะใครเลยใน 3 เกมแรกของพรีเมียร์ลีก แถมยังแพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปด้วยนั้น ล่าสุด ลิเวอร์พูล ก็กลับมาคืนฟอร์มได้อีกครั้ง หลังชนะมา 2 เกมติดต่อกัน ด้วยการถล่ม บอร์นมัธ 9-0 ต่อด้วยเฉือนชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 2-1 อย่างไรก็ตาม ในเกมล่าสุดอาจจะไม่ใช่ฟอร์มที่น่าประทับใจสักเท่าไหร่ เพราะโดนทีมสาลิกาดงออกนำไปก่อน กลายเป็นเกมที่ 8 จาก 9 เกมหลังสุดที่ ลิเวอร์พูล ต้องตกเป็นฝ่ายตามหลังคู่แข่งไปก่อนซึ่งถือว่าไม่ใช่เรื่องดีเอาเสียเลย และอันที่จริงเกมดังกล่าวน่าจะจบลงด้วยการเสมอไปแล้ว แต่ว่า ลิเวอร์พูล มีโชคช่วยที่มาได้ประตูชัยในช่วงทดเจ็บนาทีที่ 8 จาก ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ ทำให้รอดตาย เก็บ 3 แต้มมาได้อย่างหวุดหวิด

ในส่วนของสภาพทีม ลิเวอร์พูล มีปัญหานักเตะบาดเจ็บค่อนข้างมากเหมือนเดิม โดยเกมนี้จะไม่มี ติอาโก้ อัลกันตาร่า, ดีโอโก้ โชต้า, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, ควีวิน เคลเลเฮอร์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, นาบี เกอิต้า, คาลวิน แรมซี่ย์ และรายล่าสุดอย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน อย่างไรก็ตาม ข่าวดีก็คือได้ ดาร์วิน นูนเญซ กองหน้าตัวใหม่พ้นโทษแบนกลับมาเป็นที่เรียบร้อย หลังโดนแบนยาว 3 เกม รวมถึงจะมี อาร์ตูร์ เมโล่ กองกลางตัวใหม่ที่ยืมมาจาก ยูเวนตุส อยู่ในทีมเกมนี้ด้วยเช่นกัน แต่น่าจะเป็นสำรองไปก่อน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เอฟเวอร์ตัน (4-5-1) : จอร์แดน พิคฟอร์ด : วิทาลี่ มีโคเลนโก้, เจมส์ ทาร์คอฟสกี้, คอเนอร์ เคาดี้, เนธาน แพ็ตเตอร์สัน : ดไวท์ แม็คนีล, อีดริสซ่า กาน่า เกย์, อามาดู โอนาน่า, อเล็กซ์ อิโวบี้, แอนโธนี่ กอร์ดอน : นีล โมเปย์

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซง เบคเกอร์ : เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจ โกเมซ, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน : ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์, ฟาบินโญ่, เจมส์ มิลเนอร์ : โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่, หลุยส์ ดิอาซ

ความน่าจะเป็น : เอฟเวอร์ตัน ได้เล่นในบ้านก็จริง แต่ในระยะหลังการเจอกับ ลิเวอร์พูล เป็นงานยากสำหรับพวกเขา โดยการพบกัน 26 ครั้งหลังสุดรวมทุกรายการ ลิเวอร์พูล ไม่แพ้ เอฟเวอร์ตัน ถึง 25 เกม อย่างไรก็ตาม ดูจากโมเมนตัมในช่วงที่ผ่านมา เอฟเวอร์ตัน ถือว่ากำลังมาได้ดี และจากการเสริมทัพล่าสุดทำให้ แลมพาร์ด มีทีมที่สมดุลย์มากขึ้น ในขณะที่ทีมหงส์แดงยังดูมีปัญหา แม้ว่าจะมีการยืม อาร์ตูร์ เมโล่ เข้ามา ก็น่าจะยังสร้างอิมแพคในเกมนี้ทันทีไม่ได้ ดังนั้นรูปเกมที่ออกมาน่าจะมีความสูสีมากกว่าที่คิดไว้ และถ้า เอฟเวอร์ตัน เล่นกันอย่างมีวินัย ก็มีลุ้นที่จะแบ่งแต้มกับ ลิเวอร์พูล ได้เช่นกัน เพียงแต่ในภาพรวมทีมหงส์แดงยังมีภาษีดีกว่าที่จะชนะในเกมนี้

สกอร์ที่คาด : เอฟเวอร์ตัน แพ้ ลิเวอร์พูล 0-1