เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัด "ซูเปอร์ ซันเดย์" ลิเวอร์พูล จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ แมนฯ ซิตี้ โดยเกมนี้ ทีมหงส์แดงมีปัญหาผู้เล่นสำคัญเจ็บหลายราย แม้ว่าฟอร์มล่าสุดจะเรียกความมั่นใจกลับมาได้จากการถล่ม เรนเจอร์ส ไป 7-1 ก็ตาม ขณะที่ แมนฯ ซิตี้ ยังคงอยู่ในฟอร์มที่สุดยอด อีกทั้งสภาพทีมค่อนข้างสมบูรณ์ โดยพวกเขามีการโรเตชั่นนักเตะรอไว้แล้วในเกมล่าสุดที่ทำได้แค่เสมอกับ โคเปนเฮเก้น 0-0
พรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ลิเวอร์พูล พบ แมนฯ ซิตี้
สนาม : แอนฟิลด์
เวลา : 22:30 น. วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม 2565 (True Premier Football 1, 2)
ลิเวอร์พูล
ทีมหงส์แดงอาจจะดูเหมือนฟอร์มไม่ค่อยดี แต่ถ้าดูภาพรวมแล้วไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด โดยฟอร์ม 5 เกมหลังสุดในทุกรายการพวกเขาชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 1 โดยผลงานในเกมล่าสุดถือว่าเป็นการเรียกความมั่นใจได้เป็นอย่างดี หลังบุกถล่ม เรนเจอร์ส ในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาได้อย่างขาดลอย 7-1 โดยที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดาวยิงตัวเก่งทำแฮตทริกได้อีกด้วย ทั้งๆ ที่เป็นแค่ตัวสำรอง เพียงแต่ว่าที่มันดูแย่ในระยะหลังนั้นเป็นฟอร์มในพรีเมียร์ลีกอย่างเดียวมากกว่า เพราะ ลิเวอร์พูล ไม่ชนะใครในลีกมา 3 เกมติดต่อกันแล้ว โดยผลงานในเกมล่าสุดเมื่อสัปดาห์ก่อนคือการบุกไปแพ้ต่อ อาร์เซน่อล 2-3 ทำให้เกมนี้พวกเขาจะพลาดต่อ แมนฯ ซิตี้ ไม่ได้อย่างเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นแล้วโอกาสจะคัมแบ็กกลับมามีลุ้นแชมป์อีกครั้งจะเป็นอะไรที่ยากมาก
ในส่วนของสภาพทีม ลิเวอร์พูล มีปัญหานักเตะบาดเจ็บหลายรายเหมือนเดิม โดยเกมนี้จะยังไม่มี นาบี เกอิต้า, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, อาร์ตูร์ เมโล่, หลุยส์ ดิอาซ, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เคอร์ติส โจนส์ และ โฌแอล มาติป ที่บาดเจ็บทั้งหมด ซึ่งมีหลายคนที่เป็นตัวหลัก และน่าจะมีผลกระทบต่อฟอร์มการเล่นในภาพรวมแน่
แมนฯ ซิตี้
ทีมเรือใบสีฟ้าของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยังคงอยู่ในฟอร์มที่สุดยอดเหมือนเดิม แม้ว่าในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดล่าสุดจะทำได้แค่บุกไปเสมอกับ เอฟซี โคเปนเฮเก้น 0-0 แต่สาเหตุหลักเป็นเพราะมีการโรเตชั่นนักเตะแถมยังโดนใบแดงไปตั้งแต่ต้นเกม แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเพราะเป็นเกมที่แทบไม่มีความหมายแล้ว ขณะที่ก่อนหน้านั้นพวกเขาชนะต่อเนื่องมา 6 เกมติดต่อกันในทุกรายการ โดยผลงานในเกมลีกนัดล่าสุดเมื่อสัปดาห์ก่อน คือการเปิดบ้านถล่ม เซาธ์แฮมป์ตัน 4-0 ทำแต้มไล่จี้จ่าฝูงอย่าง อาร์เซน่อล แบบหายใจรดต้นคอ
ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น แมนฯ ซิตี้ จะไม่มี จอห์น สโตนส์, คาลวิน ฟิลลิปส์ และ ไคล์ วอล์คเกอร์ ที่ยังบาดเจ็บทั้งหมดตามเดิม แต่ไม่ส่งผลกระทบอะไรมากอยู่แล้ว เพราะบรรดาตัวหลักอื่นๆ ยังอยู่กันครบ โดยเกมนี้ เป๊ป จะกลับมาใช้ผู้เล่นชุดใหญ่ลงเล่นแบบเต็มพิกัด โดยเกมรุกมี เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ เป็นตัวความหวังสูงสุดเหมือนเดิม หลังซัดไปแล้ว 15 ประตูจากการลงสนามในพรีเมียร์ลีกไปเพียงแค่ 9 เกม นำเป็นดาวซัลโวโดยทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง แฮร์รี่ เคน ของ สเปอร์ส ถึง 6 ประตู
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล (4-4-2) : อลิสซง เบคเกอร์ : โจ โกเมซ, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, คอสตาส ซิมิคาส : โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ฟาบินโญ่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ :ดาร์วิน นูนเญซ, โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่
แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส : มานูเอล อาคานจี, รูเบน ดิอาส, เอมเมอริก ลาปอร์กต์, ชูเอา กันเซโล่ : เควิน เดอ บรอยน์, โรดรี้, อิลคาย กุนโดอาน : แบร์นาร์โด้ ซิลวา, เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์, ฟิล โฟเด้น
ความน่าจะเป็น : ลิเวอร์พูล ได้เปรียบเนื่องจากได้เล่นในบ้าน ถ้าเป็นฟอร์มเมื่อปีก่อน หรือสภาพทีมสมบูรณ์มากกว่านี้ คงจะสามารถต่อกรกับ แมนฯ ซิตี้ ได้สนุก แต่พอดูจากสถานการณ์ในปัจจุบัน ถือว่าเป็นเรื่องที่ยากอยู่เหมือนกัน เพราะทีมหงส์แดงขาดตัวสำคัญไปหลายคน ตรงข้ามกับ แมนฯ ซิตี้ ที่ฟอร์มกำลังฮอต แถมสภาพทีมก็สมบูรณ์พร้อม อาจมีปัญหาที่แบ็กขวาอยู่บ้างแต่โดยรวมก็ยังไม่ถึงกับน่าห่วงนัก ดังนั้นเกมนี้อาจจะดูสูสีกัน แต่ ซิตี้ อาจจะครองเกมได้มากกว่า และจะอาศัยคุณภาพบวกกับสภาพทีมที่ดีกว่าเบียดเอาชนะไปได้
สกอร์ที่คาด : ลิเวอร์พูล แพ้ แมนฯ ซิตี้ 1-2
ภาพจาก Getty Images
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :
Website : www.truevisions.co.th
Facebook : Truevisions
Twitter : @TrueVisions
Line : @Truevisions
Youtube official : Truevisionsofficial
Instagram : Truevisionsofficial