ผ่านรายการ Edge of the Unknown with Jimmy Chin เริ่มวันจันทร์ที่ 5 กันยายนนี้ 21.00 น. ทางช่อง National Geographic (ทรูวิชั่นส์หมายเลข 167, 558)
การเผชิญหน้ากับความกลัวที่แอบซ่อนอยู่ในซอกหลืบของจิตใจ ราวกับปีศาจร้ายที่ตามหลอกหลอนให้คุณต้องคอยหวาดผวานั้น เป็นเรื่องยากที่จะรับมือสำหรับพวกเราแทบทุกคน คนจำนวนไม่น้อยจึงพยายามหนีห่างจากสิ่งที่ทำให้ตัวเองรู้สึกกลัวมากที่สุด
แต่สำหรับนักกีฬาเอ็กซ์ตรีมแถวหน้าของวงการจำนวน 10 ชีวิตนี้ ที่เราจะได้ทำความรู้จักกับพวกเขามากขึ้น ผ่านรายการ Edge of the Unknown with Jimmy Chin เริ่มวันจันทร์ที่ 5 กันยายนนี้ 21.00 น. ทางช่อง National Geographic (ทรูวิชั่นส์หมายเลข 167, 558) พวกเขากลับเลือกที่จะเผชิญหน้ากับความกลัวอย่างมีสติและอาจหาญ แม้รู้ทั้งรู้ว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นคือการเดินบนเส้นแบ่งแห่งความเป็นและความตายก็ตามที พวกเขาเดินรอดพ้นจากหลุมพรางแห่งความกลัว ความวิตกกังวลเหล่านั้นมาได้อย่างไร มาค้นหาคำตอบไปพร้อมกัน
1. Travis Rice หนุ่มนักสโนว์บอร์ดฟรีสไตล์
ปี 2016 ทราวิส ไรส์ นักสโนว์บอร์ดระดับตำนาน ผู้ซึ่งมีประสบการณ์จากการแข่งขันมามากกว่า 30 แกรนด์สแลม เกือบเอาชีวิตของเขาไปทิ้งใต้กองหิมะจากเหตุการณ์หิมะถล่มที่เทือกเขาในเมืองวัลเดซ อลาสก้า ในขณะที่กำลังเก็บภาพเพื่อถ่ายทำรายการโทรทัศน์
เขาเล่าว่าไม่มีสัญญาณบ่งชี้ใดๆ ถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นก่อนที่หิมะจะถล่ม เหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก มวลหิมะขาวโพลนก็ถาโถมลงบนตัวของเขาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว โชคดีที่เพื่อนของเขาซึ่งเป็นตากล้องอยู่ค่อนข้างไกลจากจุดเกิดเหตุ เขาจึงได้รับความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที
เสียงเพรียกจากความตายในครั้งนั้นตามหลอกหลอนทราวิสอยู่พักใหญ่ ก่อนที่เขาจะตัดสินใจนำเอาความกลัวที่กัดกร่อนจิตใจมาเป็นบทเรียน และเผยแพร่เป็นวิทยาทานแก่นักสโนว์บอร์ดคนอื่นๆ ได้ฝึกสังเกตและระมัดระวังตัว
“คุณต้องหัดเป็นเพื่อนกับความกลัวให้ได้ ฟังสิ่งที่เขาอยากจะเตือน แต่อย่าปล่อยให้มาครอบงำจิตใจ” ทราวิสกล่าว
2. Sarah McNair Landry นักสกีหิมะสาวจอมแกร่ง
ซาราห์ แม็คแนร์ แลนดรี สาวแกร่งแห่งเกาะแบฟฟิน เกาะขนาดใหญ่ในเขตอาร์กติก ประเทศแคนาดา เติบโตมากับเอริค พี่ชาย และฝูงสุนัขลากเลื่อนตามลำพังตั้งแต่เพิ่งเริ่มจำความได้ เลือดของนักผจญภัยถูกถ่ายทอดมาสู่พวกเขาจากพ่อและแม่ที่เป็นนักสำรวจ พวกเขาสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นนักสำรวจทีมแรกที่เดินทางรอบเกาะแบฟฟิน ระยะทางกว่า 4,000 กิโลเมตรได้สำเร็จด้วยสุนัขลากเลื่อน โดยใช้ระยะเวลาเกือบ 4 เดือน และความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของพ่อกับแม่ ได้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ ผลักดันให้เธอเริ่มออกผจญภัยเมื่อโตขึ้น
อายุได้ 18 ปี ซาราห์ก็สามารถพิชิตขั้วโลกใต้ได้โดยสกี หลังจากนั้นปีถัดมาเธอก็พิชิตขั้วโลกเหนือได้สำเร็จ หลังจากนั้นชีวิตของซาราห์ก็ไม่เคยมีคำว่า ‘อยู่เฉยๆ’ อีกเลย ในปี 2011 เธอและพี่ชายก็ได้กลายเป็นที่รู้จักของนักผจญภัยทั่วโลก หลังจากสามารถพิชิตเส้นทางตะวันตกเฉียงเหนือ (Northwest Passage) โดยว่าวสกี (Kite-Ski) ระยะทางกว่า 2,000 ไมล์ท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเหน็บได้สำเร็จ
แม้บทสรุปเรื่องราวจะเต็มไปด้วยความรู้สึกน่ายินดี แต่ซาราห์ก็ยังต้องการสะท้อนให้ทุกคนได้รับรู้ถึงการต่อสู้กับความเครียด ความกดดัน และความกลัวที่ครอบงำจิตใจตลอดการเดินทางในครั้งนั้น เธอแนะนำว่า “สำหรับฉันหากเป้าหมายนั้นมันคุ้มค่า ถึงเสี่ยงแค่ไหนฉันก็จะพยายามทำให้สำเร็จค่ะ สิ่งสำคัญคือความกลัว และความรู้สึกเสี่ยง ไม่ได้แปลว่าสิ่งที่คุณสัมผัสนั้นอันตรายเสมอไป มันอาจเป็นสิ่งที่ท้าทาย แต่เมื่อผ่านมันได้คุณจะพบกับรางวัลอันยิ่งใหญ่”
3. Ben Stookesberry ปรมาจารย์แห่งวงการคายัค
เบน สตูกร์เบอร์รี่ ถูกขนานนามว่าเป็นปรมาจารย์แห่งวงการคายัค จากการที่เขาออกพายสำรวจตามแม่น้ำลำธารสายต่างๆ ทั่วโลกมาตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี เบนสร้างสถิติใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า ด้วยการเป็นนักสำรวจคนแรกที่พิชิตแม่น้ำที่มีความเชี่ยวกรากระดับ 5 และ 6 มามากกว่า 130 ครั้ง ในทั้งสิ้น 36 ประเทศ นอกจากนี้เบนยังมีรายการโทรทัศน์ของตัวเองที่มีแฟนคลับติดตามอย่างเหนียวแน่นอีกด้วย
ถึงแม้จะถูกยกย่องให้เป็นตำนาน แต่เขาก็ยังคงเป็นมนุษย์ที่มีเลือดเนื้อจิตใจเหมือนเราๆ และก็ใช่ว่าเขาจะรับมือกับเรื่องราวขนหัวลุกในวินาทีเฉียดตายได้เสมอไปทุกครั้ง เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2553 ทำให้เขาต้องพบกับฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนไปตลอดกาล เขาและคริส คอร์บูลิค เพื่อนนักคายัครอดตายมาได้อย่างฉิวเฉียด ในขณะที่พวกเขาเริ่มต้นพายคายัคสำรวจแม่น้ำลูกูกา ประเทศคองโก ร่วมกันกับเฮนดรี โคเอ็ทซี ไกด์ท้องถิ่นเพื่อนสนิทของเขา แม่น้ำในเช้าวันนั้นขุ่นมัว เขียวคลั่ก เนื่องจากตะกอนที่เกิดขึ้นหลังจากฝนที่ตกหนัก
ทั้งสามพายคายัคของตัวเองออกจากฝั่งเหมือนทุกครั้ง ก่อนที่ใครจะไหวตัวทันจระเข้แม่น้ำยักษ์ตัวเขื่อง ยาวเกือบ 5 เมตรที่แอบซุ่มลอยตามหลังพวกเขาโผล่พรวดขึ้นมากระชากเฮนดรี เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายคาเรือคายัคตกลงไปในแม่น้ำ ด้วยอารามช็อกปนตกใจเบนและคริสพากันจ้ำฝีพายขึ้นฝั่งแบบไม่คิดชีวิต พวกเขาร้องเรียกขอความช่วยเหลือจากคนท้องถิ่นที่อยู่ใกล้เคียง แต่ทุกอย่างก็สายเกินไปเสียแล้ว
เหตุการณ์ในครั้งนั้นสร้างรอยแผลลึกอันเจ็บปวดให้กับสองหนุ่มอย่างมาก ถึงแม้เหตุการณ์จะผ่านไปแล้วถึง 12 ปี แต่ภาพเหตุการณ์ยังคงติดตา และฝังใจของพวกเขาตลอดไปไม่มีวันลืมเลือน
4. Gerd Serrasolses สุดยอดนักคายัคแบบฟรีสไตล์
จากเด็กบ้านนอกที่วันๆ เอาแต่ปั่นจักรยานเล่นกับพี่ชายและเพื่อนๆ เกิร์ด เซอร์ราโซลเซส ได้บังเอิญเห็นคนพายคายัคเล่นในแม่น้ำเล็กๆ ที่ไม่ไกลนักจากบ้าน เขาสนอกสนใจและรีบไปหาวิดีโอมาเปิดดูซ้ำแล้วซ้ำเล่า กระทั่งตัดสินใจหาทางฝึกซ้อมดู หลังจากนั้นเป็นต้นมาเด็กหนุ่มวัย 13 ขวบก็หลงรักและทุ่มเทให้กับการล่องแก่งแบบฟรีสไตล์ด้วยคายัคจนหมดหัวใจ ต่อมาเขาและพี่ชายได้ร่วมทีมแข่งคายัคของสเปนสมใจ หลังจากนั้น เกิร์ดได้เริ่มออกเดินทางเสาะหาสถานที่ล่องแก่งที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก เขาสั่งสมประสบการณ์จนสามารถคว้าชัยชนะการแข่งขันเวิล์ดแชมเปี้ยนชิพหลายรายการ จนเป็นที่รู้จักในกลุ่มนักกีฬาเอ็กซ์ตรีมทั่วโลก
ถึงแม้จะสั่งสมประสบการณ์มาหลายปีดีดัก พกความมั่นใจในการพายแต่ละครั้งมาเต็มเปี่ยม แต่ความผิดพลาดก็ยังเกิดขึ้นได้ ประตูแห่งความตายเปิดรอเขาอยู่ใต้มวลน้ำตกไนแองการาอันเชี่ยวกราก
เหตุการณ์เกิดขึ้นระหว่างถ่ายทำรายการ Chasing Niagara ในเขตป่าลึกทางตอนใต้ของประเทศเม็กซิโก ซึ่งวันนั้นเป็นเทปสุดท้าย เกิร์ดจะต้องพายคายัคตามเพื่อนลงมาจากชั้นน้ำตกความสูงกว่า 90 ฟุต เขาพายมุ่งสู่ปลายน้ำตกอย่างมั่นอกมั่นใจ แต่หลังจากร่วงลงสู่ผืนน้ำเบื้องล่างเพียงไม่นาน ไม้พายเกิดลื่นหลุดกระเด็นไปจากมือ เขาสูญเสียการควบคุม ตกลงมากระแทกกับมวลน้ำมหึมาและชะง่อนหินที่อยู่รอบด้าน เกิร์ดจมน้ำไปนานกว่า 3 นาที กว่าที่เพื่อนร่วมทีมของเขาจะช่วยกันลากเขาขึ้นมาปั๊มหัวใจจนฟื้นขึ้นมาอย่างทุลักทุเล
หลังจากรอดชีวิตมา เกิร์ดได้ใช้ความผิดพลาดของเขาเป็นบทเรียนในการแนะนำนักกีฬาคนอื่นๆ รวมถึงยังได้ร่วมมือกับพี่ชายเปิดโรงเรียนสอนพายคายัค เพื่อถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ต่างๆ ยังผู้ที่สนใจอีกด้วย
5. Justine Dupont สาวนักเซิร์ฟคลื่นยักษ์ใจนักเลง
จัสทีน ดูปองท์ เด็กสาววัย 11 ขวบที่กลัวคลื่นยักษ์เป็นชีวิตจิตใจ ตัดสินใจแอบเอาเซิร์ฟบอร์ดของพ่อไปลองฝึกหัดด้วยตัวเองที่ชายหาด หลังจากลองผิดลองถูกมาได้พักใหญ่สาวน้อยเริ่มหลงใหลในความมหัศจรรย์ของเกลียวคลื่น และผืนมหาสมุทรที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา กีฬาเซิร์ฟได้หลอมรวมเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเธอนับตั้งแต่นั้น
จัสทีนประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว ชื่อของเธอถูกบันทึกลงในหน้าประวัติศาสตร์ในฐานะของผู้หญิงคนแรกที่พิชิตคลื่นยักษ์ความสูง 15 เมตร ที่ Belharra ได้สำเร็จ หลังจากนั้นเธอก็เดินหน้ากวาดเหรียญรางวัลแทบทุกการแข่งขันจนได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในเหล่าเซียนแห่งการเซิร์ฟของโลก
แม้จะโลดแล่นบนคลื่นยักษ์มาแล้วนักต่อนัก แต่เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด ก็เกิดขึ้นในระหว่างการแข่งขัน Big Wave Tour ปี 2018 ที่จัดขึ้นที่ Pe’ahi Jaws เกาะเมาวี ฮาวาย เมื่อเธอพลาดถูกคลื่นยักษ์โหมกระหน่ำซัดเธอม้วนลงไปอยู่ใต้น้ำ เหตุการณ์นั้นนอกจากสร้างการบาดเจ็บทางร่างกายหลายตำแหน่งแล้ว ยังทิ้งรอยแผลแห่งความผิดหวังไว้ให้เธอได้ดูต่างหน้าอีกด้วย
จัสทีนใช้เวลาในการค่อยๆ เยียวยาสภาพร่างกายและจิตใจ สาวแกร่งคนนี้รวบรวมกำลังใจกลับมาเผชิญหน้ากับความกลัวใหม่อีกครั้ง และในรายการแข่งขันเดิมเมื่อปีที่ผ่านมาเธอก็เอาชนะมันได้อย่างสมศักดิ์ศรี
6. Jimmy Chin นักปีนเขา ช่างภาพ และผู้อำนวยการสร้างสารคดี
จิมมี่ ชิน หนุ่มอเมริกันเชื้อสายเอเชียคนนี้หลงรักการปีนเขาตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือ แต่ด้วยความที่ฐานะทางบ้านค่อนข้างยากจน พ่อกับแม่ของเขาจึงตั้งความหวังให้เขาเรียนจบออกมา เพื่อหางานที่มั่นคงเลี้ยงชีพ แต่จิมมี่กลับหันหลังให้กับทุกอย่าง เขาเลือกเส้นทางเดินให้กับตัวเองโดยการถ่ายรูปขายเลี้ยงชีพไปวันๆ เขาออกเดินทางตระเวนถ่ายรูปสถานที่ปีนเขาไปทั่วโลก
กระทั่งเขาได้มีโอกาสร่วมงานกับ The North Face และ National Geographic ในปี 2003 ในฐานะผู้กำกับภาพสารคดีชุด Deadly Fashion ที่ต้องตามถ่ายทำเอ็ด วีสเตอร์ นักปีนเขาชื่อดังที่เอเวอร์เรสต์ นับจากวินาทีนั้นจิมมี่ก็ได้ค้นพบว่านี่แหละคืออาชีพที่เขาใฝ่ฝันถึงมานานแสนนาน
ชื่อเสียงของจิมมี่โด่งดังแบบก้าวกระโดด เมื่อผลงานสารคดี Meru ที่ถ่ายทำความพยายามของเขาในการเอาชนะยอดเขาเมรู ในประเทศอินเดีย (สารคดีที่ทำให้เขาได้รู้จักและตกหลุมรักกับเอลิซาเบธ ไช วาซาร์เฮลยี ภรรยาคู่ชีวิตของเขา) ได้รับรางวัล US Audience Documentary Awards ก่อนที่จะดังเป็นพลุแตกกับเรื่อง Free Solo ที่ทำให้เขาได้รางวัลออสการ์ และรางวัลอื่นๆ มาครองอย่างมากมาย นอกเหนือจากภูเขาแล้วจิมมี่และภรรยายังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังสารคดีช่วยชีวิต 13 หมูป่า The Rescue และสารคดีเรื่อง Return to Space ที่เผยให้เห็นเบื้องหลังการทำงานของอีลอน มัสก์ และทีมวิศวกร SpaceX ในการส่งนักบินอวกาศของนาซ่ากลับไปยังสถานีอวกาศนานาชาติอีกด้วย
เมื่อมีเวลาว่างจิมมี่จะหาโอกาสไปปีนเขาอยู่เสมอๆ และในวันที่ 1 เมษายน ปี 2554 หลังจากจบการถ่ายทำ Free Solo อันยาวนานแล้ว จิมมี่กับเพื่อนก็ออกไปปีนเทือกเขาเทตัน ในรัฐไวโอมิง ไม่ไกลนักจากบ้านของเขา โดยที่ไม่มีแม้แต่ลางบอกเหตุใดๆ ว่าชีวิตของเขาใกล้ความตายเข้าไปทุกขณะ
ระหว่างที่เขาแล่นสกีตามหลังเจเรมี โจนส์ เพื่อนสนิท เขาก็เริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติ เมื่อเขาหันหลังไปมองก็พบว่ารอยแยกบนพื้นหิมะกำลังเริ่มขยายตัวขึ้น มวลหิมะเริ่มถล่มลงมา ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเกินที่เขาจะตั้งตัวทัน เขาถูกหิมะกองมหึมาถาโถมเข้าใส่ มันกลืนกินเขาและทุกสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าราบเป็นหน้ากลอง
จิมมี่รอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์หลังเหตุการณ์สงบลง เขานำเอาประสบการณ์อันเลวร้ายในครั้งนี้มาบอกเล่าให้ทุกคนได้รับรู้ เพื่อเตือนให้ทุกคนใช้สติในการดำรงชีวิต เพิ่มความระมัดระวัง และหมั่นตรวจสอบความปลอดภัยให้มากยิ่งขึ้น
7. Conrad Anker นักปีนเขาระดับตำนาน
ถึงแม้ทุกวันนี้ คอนราด แอนเกอร์ ในวัย 59 ปี จะแขวนถุงมือและรองเท้าปีนเขาคู่ใจไปเรียบร้อยแล้ว แต่ประสบการณ์การปีนเขาที่ผ่านมากว่า 30 ปีของเขา ยังคงเป็นทั้งบทเรียนอันเลอค่าและแรงบันดาลใจให้กับนักปีนเขารุ่นต่อมาอยู่เสมอ
คอนราด เติบโตมาในครอบครัวที่อบอุ่นในแคลิฟอร์เนีย เขารักและชื่นชอบการทำกิจกรรมนอกบ้านมาตั้งแต่เล็กๆ และเขาก็โชคดีที่ทุกคนในครอบครัวให้การสนับสนุน คอนราดเริ่มออกเดินทางผจญภัยไปทั่วโลก จนชื่อของเขาเป็นที่รู้จักในกลุ่มของนักสำรวจ กระทั่งในปี พ.ศ. 2530 เขาก็ได้เริ่มต้นอาชีพนักปีนเขา ด้วยการพิชิตยอดเขาคิแชทนา ที่อลาสก้าได้สำเร็จ ต่อมาในปี พ.ศ. 2535 คอนราดก็ได้รับแต่งตั้งเป็นกัปตันทีมนักกีฬา The North Face ซึ่งมีหน้าที่ในการนำทีมสำรวจพื้นที่ไปยังสถานที่ใหม่ๆ ทั่วโลก
การผจญภัยของคอนราดไม่ได้ราบรื่นไปเสียทุกครั้ง เขาพบเจออุบัติเหตุและได้รับบาดเจ็บอยู่บ่อยครั้ง แต่ที่เฉียดตายมากที่สุดคงหนีไม่พ้นความทรมานจากกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ในขณะที่เขากับเดวิด ลามา นักปีนเขารุ่นน้องผู้ล่วงลับกำลังไต่ระดับเพื่อพิชิตยอดเขาลูนัก รี ประเทศเนปาล ที่มีความสูงกว่า 6,900 เมตร ด้วยความรู้ที่ศึกษามาบวกกับสติสัมปชัญญะที่เขาได้ฝึกฝนมานับสิบปี คอนราดนอนเพ่งดูความเจ็บปวดของร่างกายที่เกิดขึ้น เขาตามดูความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในแต่ละลมหายใจอย่างระมัดระวัง ในระหว่างที่รอเดวิดเรียกหน่วยกู้ภัยมาพาเขาไปทำการรักษา
8. Angel Collinson อดีตสาวนักสกีภูเขามือทอง
“การเผชิญหน้ากับความกลัวที่ดีที่สุดคือนั่งคุยกับมัน” นี่เป็นคติประจำใจของสาวเก่งหัวใจแกร่ง แอนเจิล โคลินสัน อดีตนักสกีภูเขามือทอง และเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้รับรางวัล Best Line จาก Powder Magazine ในปี พ.ศ. 2558 แอนเจิลเติบโตมาในครอบครัวของผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยในการเล่นสกี จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เธอและพี่ชายต่างคุ้นเคยกับภูเขาสูงและการเล่นสกีมาตั้งแต่จำความได้
แม้ว่าเธอจะเชี่ยวชาญในการเล่นสกีเพียงใด แต่ธรรมชาติก็เป็นสิ่งที่เธอควบคุมไม่ได้อยู่ดี ตอนอายุ 25 ปี ระหว่างการสกีลงมาจากยอดเขาเนียโคลา ในอลาสกา สกีของแอนเจิลเกิดเสียการควบคุม เธอหกล้มคะมำและกลิ้งร่วงลงมาจากภูเขาสูงกว่า 300 เมตร สาวสวยตั้งสติและพยายามเก็บศรีษะของเธอให้ไม่โดนกระแทกมากเท่าที่จะเป็นไปได้ เหตุการณ์ในครั้งนั้นแม้ว่าเธอจะปลอดภัย แต่เธอก็นับเป็นบทเรียนราคาแพงที่สอนไม่ให้เธอประมาทในครั้งต่อๆ ไป
ปัจจุบันแอนเจิลได้หันหลังให้กับวงการสกีอย่างสมบูรณ์แบบ เธอหันไปใช้ชีวิตในการออกล่องเรือท่องโลกกว้างข้ามมหาสมุทรกับแฟนหนุ่มอย่างมีความสุข
9. Will Gadd นักปีนเขาน้ำแข็ง และนักพาราไกลเดอร์
วิล แก็ดด์ นักปีนเขาน้ำแข็งชาวแคนาดา ผู้ได้รับการยกย่องจากองค์การสหประชาชาติว่าเป็น “ตำนานแห่งขุนเขา (The Mountain Hero)” จากประสบการณ์ในการปีนเขาที่ยาวนานกว่า 40 ปี วิลเติบโตมาในครอบครัวของนักผจญภัย เขาเรียนรู้การแคมป์ปิ้ง และการใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติตั้งแต่ยังเล็ก เขาเริ่มพายคายัคเป็นตั้งแต่อายุ 14 ปี และเริ่มฝึกพาราไกลดิ้งเมื่ออายุได้ 25 ปี สร้างสถิติและคว้าชัยชนะในการแข่งขันรายการต่างๆ มานับไม่ถ้วน ทั้งยังเป็นโค้ชและครูฝึกสอนนักกีฬามืออาชีพทั่วโลก รวมถึงการช่วยเหลือทีมนักธรณีวิทยาของไทยในการออกตรวจวัดค่าคาร์บอนไดออกไซด์ภายในถ้ำต่างๆ ทั่วประเทศอีกด้วย
วิลเล่าให้ฟังว่าครั้งหนึ่งเขาก็เคยพลาดเกือบเอาตัวไม่รอดเหมือนกัน เหตุการณ์เกิดขึ้นระหว่างการปีนหน้าผาน้ำตกเฮลแม็คเคน ความสูง 200 เมตร ซึ่งเป็นน้ำตกที่มีความลาดชัน เต็มไปด้วยชะง่อนหินที่ลื่นเนื่องจากถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งและละอองน้ำจากน้ำตก แม้ว่าเขาจะสำรวจเส้นทางการปีนมาอย่างถี่ถ้วนกว่า 6 ปีแล้ว แต่อุบัติเหตุก็ยังเกิดขึ้นจนได้
โชคยังดีที่เหตุการณ์ในครั้งนั้นไม่มีใครต้องเลือดตกยางออก นอกจากทำให้เขาและทีมงานใจหายใจคว่ำ แต่ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นก็นับว่าเป็นบทเรียนครั้งสำคัญของวิล ที่เขาจะต้องเพิ่มความระมัดระวังในครั้งต่อๆ ไป
10. Alex Honnold นักปีนผามือเปล่าชื่อดังจาก Free Solo
อเล็กซ์ ออนโนลด์ นักปีนผามือเปล่าที่โด่งดังเป็นที่รู้จักจากสารคดีเจ้าของรางวัลออสการ์ Free Solo แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าเขาหัดปีนเขามาตั้งแต่อายุ 5 ขวบ และไม่เคยหยุดไต่ขึ้นที่สูงมาอีกเลยนับแต่บัดนั้น
จุดเปลี่ยนในชีวิตของเขาเริ่มต้นขึ้นหลังการหย่าร้างของพ่อแม่ เขาตัดสินใจออกจากบ้านและอาศัยอยู่กินบนรถตู้คันเก่าที่เป็นเพื่อนพาเขาตะเวนไปปีนเขาทั่วแคลิฟอร์เนีย ทักษะการปีนหน้าผามือเปล่าของอเล็กซ์สร้างความตื่นเต้นให้แก่นักปีนเขามืออาชีพหลายคนที่พบเห็น รวมถึงจิมมี่ ชิน ที่ทึ่งในตัวของอเล็กซ์ จนผุดโปรเจ็คท์ Free Solo ขึ้นมา และเขาก็สามารถพิชิตยอด El Capitan ที่อุทยานแห่งชาติ Yosemite ได้สำเร็จ
อเล็กซ์มันพูดอยู่เสมอว่าเขาไม่ได้มีเคล็ดลับอะไรที่แตกต่างจากนักปีนเขาคนอื่นๆ เขาเพียงแค่ยอมรับความเสี่ยง (ที่อาจจะเกิดอุบัติเหตุจนเสียชีวิต) ได้ และในทุกๆ การไต่หน้าผาเขาจะต้องวางแผนและเตรียมความพร้อมให้ดีที่สุด รวมถึงเดินหน้าแก้ไขสถานการณ์ไปทีละขั้นอย่างใจเย็น “ความกลัวที่เกิดขึ้นระหว่างทาง มันเปลี่ยนแปลงสถานการณ์อะไรไม่ได้หรอกครับ มันไม่ใช่ว่าคุณกำลังจะตกหรือไม่ตก แต่มันคือความคิดของคุณเองต่างหากที่ตะโกนใส่หน้าว่าคุณกำลังจะตก”
ร่วมรับชมบันทึกภาพการผจญภัยของพวกเขา และเรียนรู้การเผชิญหน้ากับความกลัวภายในจิตใจของตัวเองไปพร้อมกัน กับรายการ Edge of the Unknown with Jimmy Chin ทุกวันจันทร์ 21.00 น. เริ่ม 5 กันยายน ทาง National Geographic ช่อง 167, 558
National Geographic/Travis Rice, Inc./Redbull Media House/Ross McDonnell/Sarah McNair Landry/Benjamin Stookesberry/Gerd Serrasolses/Justine Dupont/Conrad Anker/Jimmy Chin Productions
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :
Website : www.truevisions.co.th
Facebook : Truevisions
Twitter : @TrueVisions
Line : @Truevisions
Youtube official : Truevisionsofficial
Instagram : Truevisionsofficial