ทรัมป์เล่นใหญ่ ลั่น “ยุคทองของอเมริกามาถึงแล้ว!”

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ขึ้นกล่าวปราศรัยต่อสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่การกลับเข้ารับตำแหน่งครั้งที่สอง ท่ามกลางการจับตามองของผู้คนทั่วโลก และความแตกแยกระหว่าง 2 พรรคการเมืองที่รุนแรงขึ้นทุกขณะ

การกล่าวปราศรัยของทรัมป์ในครั้งนี้ นับเป็นการปราศรัยที่ยาวที่สุดในประวัติศาสตร์การปราศรัยประจำปีต่อรัฐสภา โดยใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง 40 นาที และมีการใช้รูปแบบถ้อยคำคล้ายคลึงกับตอนที่เขาใช้หาเสียง รวมถึงการวิพากษ์วิจารณ์ผลงานของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน อย่างเผ็ดร้อน

ประเด็นสำคัญในการปราศรัยที่ผู้นำทั่วโลกต่างเฝ้าจับตา หลังจากการสั่งระงับความช่วยเหลือทางทหารทั้งหมดต่อยูเครน หลังการเข้าพบของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ที่ทำเนียบขาวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งทรัมป์ยืนยันว่าเขากำลังพยายามอย่างยิ่งที่จะสร้างสันติภาพระหว่างยูเครนและรัสเซียให้สำเร็จ ทั้งยังวิพากษ์วิจารณ์การใช้งบประมาณอันมหาศาลไปกับสงครามนี้

ด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ทรัมป์ยังยืนยันว่าเขาเตรียมรีดภาษีจากประเทศต่างๆ เริ่มต้นในวันที่ 2 เมษายน หลังจากประกาศมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดา ในอัตรา 25% และเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้นเป็น 20% โดยอ้างว่าสหรัฐฯ เสียดุลภาษีกับประเทศเหล่านี้มาหลายปีแล้ว

นอกจากนี้เขายังคุยอวดความสำเร็จที่ผ่านมา ว่าตัวเองได้นำเสรีภาพทางการพูดกลับคืนมาสู่ประชาชนอีกครั้ง แถมยังยุติความไม่เป็นกลางของโครงการด้านความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการไม่แบ่งแยก หรือ DEI (Diversity, Equity and Inclusion) ในรัฐบาล พร้อมทั้งเสริมว่าประเทศของเราจะไม่ฝักใฝ่การตื่นรู้ (Woke) อีกต่อไป โดยยกตัวอย่างคำสั่งของเขาที่ระบุว่าเพศที่ได้รับรองอย่างเป็นทางการจะต้องมีเพียงสองเพศเท่านั้น

การเดินหน้าพาสหรัฐอเมริกากลับมายิ่งใหญ่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อผู้นำทางการเมืองทั่วโลกอย่างไร ติดตามการสรุปและวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญ ได้ทางช่องข่าว CNN (778)