แม็กซ์ ทุบสถิติ 14 เรซ แชมป์มากที่สุดต่อซีซั่น

แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน คว้าแชมป์ เม็กซิกัน กรังด์ปรีซ์ ตรงกับช่วงเช้าวันที่ 31 ต.ค. ที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทย พร้อมกับสถิติใหม่เป็นแชมป์มากที่สุด 14 เรซต่อฤดูกาล แซงหน้าสถิติของ มิชาเอล ชูมัคเกอร์ (13 เรซ, 2004) และ เซบาสเตียน เว็ทเทล (13 เรซ, 2013) ตามด้วย ลูอิส แฮมิลตัน ในอันดับ 2 และอันดับ 3 เป็นของ เซอร์จิโอ เปเรซ นักขับขวัญใจเจ้าถิ่น

เริ่มรอบแรก เวอร์สเตปเปน ออกตัวได้อย่างยอดเยี่ยม และไม่เสียตำแหน่ง แต่ จอร์จ รัสเซลล์ โดนเบียดร่วงเป็นอันดับ 4 โดย เซอร์จิโอ เปเรซ แทรกช่องว่างขึ้นมาเป็นอันดับ 3 และ แฮมิลตัน ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 2 แต่ช่องว่างเวลาจากที่ห่างเพียงวินาทีเดียวค่อยๆ เพิ่มเป็น 2.2 วินาทีเมื่อผ่านไป 20 รอบ 

ผ่านเกือบครึ่งทาง 33 รอบจากทั้งหมด 71 รอบ รัสเซลล์ ขึ้นมาเป็นผู้นำ แต่ยังไม่ได้เข้าพิต ส่วนกลุ่มผู้นำที่ตามมาทั้ง เวอร์สเตปเปน แฮมิลตัน และ เปเรซ เข้าพิตไปแล้ว จากนั้นอีก 2 รอบถัดมาก็ถึงเวลาเปลี่ยนยาง ทำให้ เวอร์สเตปเปน กลับขึ้นมานำ 

รอบที่ 51 แดเนี่ยล ริคคาร์โด้ พยายามแซง ยูกิ ทซึโนดะ แต่ช่วงเข้าโค้งล้อหน้าซ้ายเสยล้อหลัง และสีข้างรถจนเป็นรู ทำให้ ทซึโนดะ ที่พยายามประคองรถเข้าพิตไปเปลี่ยนอะไหล่ออกจากการแข่งขันจากการตัดสินใจของทีมงาน จากนั้นผู้อำนวยการแข่งขันจึงลงโทษนักขับออสเตรเลีย 10 วินาที 

หลายรอบต่อมา รถของ เมอร์ซิเดส ใช้กลยุทธเริ่มต้นด้วยยางมีเดียมและพยายามขับต่อเนื่องให้นานที่สุด จากนั้นใช้ยางฮาร์ด ที่สามารถทนทานกับสภาพสนามได้โดยอาจไม่ต้องเข้าพิตครั้งที่สอง แต่มีปัญหาเรื่องการเกาะถนน ดังนั้นบางช่วงของสนามจึงทำความเร็วไม่ได้เต็มที่ และเหลือไม่ถึง 10 รอบ อันดับกลับมาเหมือนกับช่วงออกสตาร์ท นำโดย เวอร์สเตปเปน 

รอบที่ 65 เฟร์นานโด อลอนโซ่ พักจอดรถข้างทางแต่ไม่ขวางสนาม เนื่องจากเครื่องยนตร์มีปัญหา ทำให้มีธงเหลือง ทุกคันต้องลดความเร็วลง แต่เพียงไม่นานเมื่อเข็นรถเก็บการแข่งขันก็กลับมาเป็นปกติภายในไม่ถึง 2 รอบ โดย 2 นักขับ เมอร์ซิเดส ที่ต้องการขอทีมงานเข้าพิตไม่เป็นผล เพราะจะทำให้เสียเวลา โดยเมื่อเหลือ 2 รอบท้าย รัสเซลล์ ขอเข้าพิตเปลี่ยนเป็นยางซอฟต์เพื่อหวังจะทำ Fastest Lap และทำได้สำเร็จ ได้เพิ่ม 1 คะแนน

อเล็กซ์ อัลบอน นักขับไทยทีม วิลเลี่ยมส์ ออกสตาร์ทด้วยอันดับ 17 จบในอันดับ 12 ไม่มีคะแนนในสนามนี้