อาบูดาบี กรังด์ปรีซ์ สนามแห่งความทรงจำ

จำได้ไหม เกิดอะไรขึ้นที่ อาบู ดาบี กรังด์ปรีซ์ 2021 ยาส มารีน่า เซอร์กิต สนามตัดสินแชมป์ซีซั่นที่แล้วระหว่าง ลูอิส แฮมิลตัน ที่เตรียมตัวสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ แชมป์โลกสมัยที่ 8 และ แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน กับการเป็นแชมป์โลกครั้งแรก และแชมป์ที่ เร้ดบูลล์ เรซิ่ง หวังว่าจะเกิดขึ้นมาตลอด 8 ปี 

ระหว่างที่ เมอร์ซิเดส และ แฮมิลตัน กำลังได้เปรียบในฐานะผู้นำ คริสเตียน ฮอร์เนอร์ บอกกับ เดวิด ครอฟท์ นักวิเคราะห์ของสกายจากข้างพิตเลนว่า เขาคงต้องภาวนาให้เกิดปาฏิหาริย์ใน 10 รอบสุดท้าย และจากนั้น นิโคลัส ลาติฟี พารถของ วิลเลี่ยมส์หวดข้างกำแพงระหว่างไล่ตาม มิค ชูมัคเกอร์ในรอบที่ 50 จาก 58 รอบ 

ธงเหลือง และเซฟตี้คาร์ออกมาวิ่งเพื่อเก็บซากและจัดการกับพื้นแทร็คที่อยู่ๆ ก็โกลาหล แฮมิลตัน ที่พยายามรักษาตำแหน่งมาตลอดยังไม่เข้าพิตกับยางฮาร์ดที่วิ่งมานับสิบๆ รอบ เวอร์สเตปเปน เปลี่ยนยางซอฟต์ชุดใหม่ และเมื่อไฟเขียว นักขับที่ตามหลังห่างไกลเข้ามาจี้ติด ท้ายที่สุด เสียงกรีดร้องมาจากนักขับดัตช์ และฝั่งผู้ท้าชิง 

ปี 2022 การแข่งขันกลับมาที่อาบูดาบี แม้ไม่ตื่นเต้นสูสี แต่ก็ยังมีสิ่งที่ต้องติดตาม

อันดับ 2 ของ เปเรซ และ เลอแกลร์ 

หลังจากจบ เซา เปาโล กรังด์ปรีซ์ เซอร์จิโอ เปเรซ และ ชาร์ลส์ เลอแกลร์ มีคะแนนเท่ากันที่ 290 ซึ่งคะแนนไม่กี่แต้มหาก เปเรซ จบข้างหน้า เวอร์สเตปเปนในเรซที่บราซิลอาจไม่ได้ช่วยอะไรมาก หากเกิดเหตุพลิกปันในสนามสุดท้าย แต่มันเป็นเรื่องของความรู้สึกเล็กๆ น้อยที่ เปเรซ พูดไว้ว่า ที่ได้แชมป์โลกมา แม็กซ์ ควรขอบคุณเขาบ้าง และมันควรออกมาเป็นรูปธรรมด้วยการยอมให้แซง 

ที่สำคัญ การจบฤดูกาลด้วยแชมป์โลกประเภททีม และประเภทเดี่ยวที่มี เวอร์สเตปเปน 1-2 เปเรซ เป็นเรื่องศักดิ์ศรีของวงตระกูล เร้ดบูลล์ เรซิ่ง ในกรณีนี้คือการทำเพื่อทีม แฟนๆ คงพอมองภาพกว้างๆ ได้เช่นนั้น 

เวอร์สเตปเปน ยืนยันว่า หากเรซสุดท้าย มีอะไรที่พอทำได้ก็จะทำ แต่ความเป็นจริงไม่ทราบได้จนกว่าการแข่งขันจะเริ่มต้น ขณะที่ เลอแกลร์ และ คาร์ลอส ไซนซ์ นั้นดูจะเป็นเรื่องเข้าใจได้มากกว่า กับอันดับ 3 และ 4 ที่อินเตอร์ลากอส ไซนซ์ อยู่ข้างหน้า อันดับ 3 หมายถึง โพเดียม แม้เหลือบมองคะแนนสะสม โอกาสติดท็อป 4 ของเขาเป็นไปได้ยากมาก แต่ใครจะยอมเสียพื้นที่สุดท้ายที่จะขึ้นไปยืนชูถ้วยรางวัล 

อย่างไรก็ดี การเป็นอันดับ 2 เป็นตำแหน่งที่สูงที่สุดเท่าที่ทั้งสองจะสามารถทำได้ในอาชีพสำหรับฤดูกาลนี้ ทั้งคู่เคยจบด้วยอันดับที่ดีที่สุดคืออันดับ 4 

เฟอร์รารี่ หรือ เมอร์ซิเดส

เป็นที่รู้กันสำหรับผู้ชมที่ติดตามมาตลอดตั้งแต่เริ่ม ฟอร์มูล่า วัน 2022 สนามแรก เฟอร์รารี่ เคยเป็นจ่าฝูงในประเภททีมแต่ค่อยๆ สาละวันเตี้ยลง โดนปิดช่องว่างกลายเป็นความผิดหวัง ตอนนี้ต้องต่อสู้แย่งชิงอันดับ 2 กับ เมอร์ซิเดส ในประเภททีม ซึ่งก็อีกเช่นกัน “ม้าลำพอง” เคยนำหน้าถึง 66 คะแนน แต่ตอนนี้ช่องว่างเหลือเพียง 19 คะแนน 

เมอร์ซิเดส เริ่มต้นไม่ดีกับอาการกระดอน (Porpoising) ซึ่งคาดว่ามาจากโรงงานผลิตเครื่องยนตร์ เพราะรถค่ายอื่นที่ซื้อเครื่อง เมอร์ซิเดส ได้รับผลกระทบคล้ายกันทั้งหมด ถึงอย่างนั้น พวกเขาก็พยายามทำผลงานให้ดีขึ้น และเป็นเรื่องเข้าใจได้ว่า บางสนามก็มีสภาพต่างๆ กัน บางแห่งส่งผลดีกับรถของพวกเขา จนในที่สุด จอร์จ รัสเซลล์ คว้าแชมป์แรกที่บราซิล สวนทางกับ เฟอร์รารี่ ที่ผิดอย่างน่าปวดหัว นับรวมกลยุทธที่โดนล้อได้อีกถึง 20 ปีข้างหน้า

อำลา ริคคาร์โด้ ลาติฟี ชูมัคเกอร์ และ เว็ทเทล 

ฤดูกาล 2023 แฟนๆ จะได้พบนักขับรุกกี้หน้าใหม่ใสปิ๊ง ทุกคนตื่นเต้นรอคอย แต่สำหรับคนที่เสียที่นั่งตรงนี้ก็เป็นทั้งเรื่องเศร้า สะเทือนใจ และอาจเป็นความทรงจำอันสวยงามดุจเทพนิยาย 

สำหรับ 3 นักขับ แดเนี่ยล ริคคาร์โด้ เขาโดนซื้อที่นั่งโดย แม็คลาเรน ฉีกสัญญา เพื่อให้สิทธิ์กับ ออสการ์ ปิอัสตรี ขณะที่ นิโคลัส ลาติฟี หมดสัญญาและ วิลเลี่ยมส์ ผลักดัน โลแกน ซาเจนท์ จาก ฟอร์มูล่า ทู ขึ้นมา เช่นเดียวกับที่ มิค ชูมัคเกอร์ และ ฮาส เอฟวันทีม ไม่ตกลงต่อสัญญาใหม่ แต่ ฮาส มาแปลกด้วยการดึง นิโก้ ฮูลเคนเบิร์ก คัมแบ็ค สืบเนื่องจากผลงานที่ไม่ตรงตามเป้าหมาย 

แต่สำหรับแชมป์โลก 4 สมัยซ้อน เซบาสเตียน เว็ทเทล เขาจะจากไปพร้อมกับช่วงเวลา 16 ปีที่ยอดเยี่ยม เขาคือหนึ่งในนักขับที่เป็นที่รักของแฟนๆ ด้วยคาแร็คเตอร์สุภาพบุรุษ รักษ์โลก มีวินัยอันยอดเยี่ยมอย่างที่ชายหนุ่มจากเยอรมนีควรเป็น และนี่จะเป็นการบอกลาที่แท้จริง จากไปโดยไม่ต้องมีใครเชิญ แต่เขารู้ตัวดีว่าถึงเวลาของเขาแล้ว 

เว็ทเทล มีบทสรุปให้กับตัวเองทั้งที่ฤดูกาลยังไม่จบ แต่สำหรับคนอื่นๆ และเรื่องอื่นๆ บทสรุปของมันจะมาถึงเมื่อผ่าน 58 รอบที่ ยาส มารีน่า เซอร์กิต