เยอรมนีไม่ประมาทญี่ปุ่น เตรียมส่งผู้เล่นชุดใหญ่คว้า 3 แต้มให้ได้

พรีวิวฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มอี
เยอรมนี พบ ญี่ปุ่น
สนาม : คาลิฟา อินเตอร์เนชั่นแนล สเตเดี้ยม
เวลา : 20:00 น. วันพุธที่ 23 พฤศจิกายน 2565
ถ่ายทอดสดทาง : True Sport 2 (ช่อง 667)

เยอรมนี
ทีมอินทรีเหล็ก เป็นอีกหนึ่งทีมเต็งในฟุตบอลโลกครั้งนี้อย่างไม่ต้องสงสัย หลังจากที่ทำผลงานในรอบคัดเลือกโซนยุโรปได้อย่างสุดยอด เมื่อเก็บไปถึง 27 แต้มจากการลงสนาม 10 เกม ด้วยผลงานชนะ 9 แพ้ 1 ยิงได้ 36 เสียเพียง 4 ประตู คว้าแชมป์กลุ่มและได้ตั๋วไปเล่นที่ กาตาร์ แบบสบายๆ ขณะที่ผลงานหลังจากนั้นอย่างในรายการ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เห็นได้ชีดว่า ฮันซี่ ฟลิค กุนซือของเยอรมนีต้องการใช้เป็นเวทีในการลองทีมเสียเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ผลงานอาจจะดูดร็อปลงไป โดยลงเล่นไป 6 นัด เก็บไปเพียง 7 แต้ม จากผลงานชนะ 1 เสมอ 4 แพ้ 1 จบอันดับที่ 3 ของลีกเอ กลุ่ม 3 แต่ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะว่ากลุ่มนี่มีทีมแข็งอย่าง อิตาลี และ อังกฤษ รวมอยู่ด้วย

ในส่วนของสภาพทีม ทีมอินทรีเหล็ก ไม่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บเลยแม้แต่รายเดียว และพร้อมเต็มที่ในการประเดิมเกมแรกกับทีมชาติญี่ปุ่น โดยน่าจะส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามทุกตำแหน่ง ในระบบการเล่น 4-2-3-1 นำโดยผู้เล่นอย่าง โธมัส มุลเลอร์, จามาล มูเซียล่า และ แซร์จ กนาบรี้

ญี่ปุ่น
"ซามูไรบลูส์" มีผลงานในฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือกโซนเอเชียต่ำกว่ามาตรฐานเล็กน้อย เมื่อในรอบ 12 ทีมสุดท้ายพวกเขาจบเพียงรองแชมป์กลุ่ม ด้วยการแพ้ต่อ ซาอุดิอาระเบีย ไปเพียง 1 แต้ม จากการเก็บไป 22 คะแนนจาก 10 เกม แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังดีพอที่จะคว้าตั๋วไปเล่นรอบสุดท้ายที่ กาตาร์ ปล่อยให้ ออสเตรเลีย จบอันดับ 3 และต้องไปลุ้นต่อในรอบเพลย์ออฟต่อไปแทน ขณะที่ผลงานหลังจากที่โควต้าไปฟุตบอลโลกได้แล้ว ก็ถือว่ากลางๆ โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเกมอุ่นเครื่อง และรายการชิงแชมป์เอเชียตะวันออก ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ใช้ผู้เล่นชุดหลักลงสนาม แต่เป็นพวกดาวรุ่งเสียมากกว่า ขณะที่ก่อนจะมาที่ กาตาร์ พวกเขาอุ่นเครื่องนัดสุดท้าย ก่อนจะโดนเผาเครื่องเนื่องจากแพ้ต่อ แคนาดา ไป 1-2

ในส่วนของสภาพทีมนั้น ญี่ปุ่น มีปัญหาผู้เล่นที่บาดเจ็บอยู่เล็กน้อยหนึ่งราย นั่นคือ ทาคุมะ อาซาโนะ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใดเพราะที่เหลือฟิตสมบูรณ์พร้อมลงสนามทั้งหมด โดยจะส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามเต็มพิกัดในระบบการเล่น 4-2-3-1 โดยผู้เล่นในแนวรุกมีทั้ง ทาคุมิ มินามิโนะ, จุนยะ อิโตะ, ไดจิ คามาดะ และ ทาเคฟุสะ คุโบะ

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เยอรมนี (4-2-3-1) : มานูเอล นอยเออร์ : ธีโล่ เคห์เรอร์, นิคลาส ซือเลอร์, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, ดาวิด รวม : โยชัว คิมมิช, ลีออน โกเร็ตซ์ก้า : แซร์จ กนาบรี้, จามาล มูเซียล่า, ลีรอย ซาเน่ : โรมัส มุลเลอร์

ญี่ปุ่น (4-2-3-1) : ชูอิจิ กอนดะ : ฮิโรกิ ซากาอิ, ทาเคฮิโร่ โทมิยาสึ, มายะ โยชิดะ, ยูโตะ นากาโตโมะ : ฮิเดมาสะ โมริตะ, กาคุ ชิบาซากิ : จุนยะ อิโตะ, ไดจิ คามาดะ, ทาเคฟุสะ คุโบะ : ทาคุมิ มินามิโนะ

ความน่าจะเป็น : แม้ว่า ญี่ปุ่น จะเป็นทีมแกร่งจากเอเชีย แต่การที่ต้องเจอกับ เยอรมนี ก็ถือว่าเป็นงานยากมากๆ สำหรับพวกเขา แต่จุดเด่นของทีมชาติญี่ปุ่นชึดนี้คือนักเตะส่วนใหญ่ล้วนเป็นนักเตะที่ค้าแข้งอยู่ในยุโรป โดยที่มีผู้เล่นที่ถูกเรียกมาจาก เจลีก แค่ 5-6 คนเท่านั้น ดังนั้นด้วยประสบการณ์ของนักเตะที่มี ก็น่าจะช่วยทำให้ยกระดับการเล่นให้ขึ้นมาต่อกรกับทีมอินทรีเหล็กได้อย่างสนุก อย่างไรก็ตาม โดยภาพรวมแล้ว เยอรมนี ยังเป็นทีมที่เหนือกว่าพอสมควร และถ้าหากว่าไม่ใช้โอกาสเปลืองกันไปเอง ก็น่าจะเป็นฝ่ายเอาชนะ ญี่ปุ่น ไปได้ แต่สกอร์อาจจะไม่ขาดมากนัก

สกอร์ที่คาด : เยอรมนี ชนะ ญี่ปุ่น 2-1