แชมป์โลกสองสมัยของ “เวอร์สเตปเปน” กับฤดูกาลที่จบลงชวนให้รู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่หากมองย้อนกลับไป สถิติและเส้นทางที่ผ่านมา คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่าเขาคู่ควร และ “เร้ดบูลล์ เรซิ่ง” ทำงานอย่างหนัก
การคว้าแชมป์เป็นเรื่องน่าตื่นเต้น เรื่องอื่นนอกจากนั้นรองลงมา แต่ไม่ใช่ว่าไม่น่าสนใจ แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน คงไม่พูดเรื่องนี้ด้วยตัวเอง แต่เป็นความจำเป็นที่สถิติต่างๆ ต้องบันทึกเอาไว้ เพื่อเป็นเกียรติประวัติ และเพื่อเล่าขานว่าครั้งหนึ่งเขายิ่งใหญ่แค่ไหน
แชมป์มากที่สุด - 15 สนาม
เวอร์สเตปเปน เป็นแชมป์ต่อซีซั่นมากที่สุด 15 สนาม แซงหน้าสถิติ 13 สนามของ มิชาเอล ชูมัคเกอร์ เมื่อปี 2004 และ เซบาสเตียน เว็ทเทล ในปี 2013 แน่นอนว่าคงมีคนพูดถึงจำนวนสนามมากมายในแต่ละซีซั่นที่แตกต่างจาก 18 ปีก่อน เพราะถ้านับเป็นเปอร์เซ็นต์ ชูมัคเกอร์ยังเหนือกว่าเล็กน้อย 72 เปอร์เซ็นต์ เวอร์สเตปเปน 68 เปอร์เซ็นต์
คะแนนสะสมประเภทนักขับมากที่สุด - 454 คะแนน
เช่นเดียวกันกับจำนวนคะแนน ที่ผู้คนค่อนขอดว่ามีหลายสนาม คะแนนมีให้เก็บมากขึ้น และเปรียบเทียบกับ ชูมัคเกอร์ในปี 2004 เขาเป็นแชมป์ 13 สนาม มี 148 คะแนน ซึ่งระบบคิดคะแนนเป็นคนละเรื่อง โดยระบบปัจจุบันเริ่มต้นใช้ในปี 2010 ดังนั้น เว็ทเทล จึงมีคะแนนมากถึง 397 คะแนน และเป็นสถิติใหม่ ณ ตอนนั้น
อย่างไรก็ตาม เวอร์สเตปเปน หรืออาจจะใครสักคนที่จะมาเป็นแชมป์คนใหม่ในฤดูกาลหน้าอาจทำลายสถิติลงได้กับ 23 สนาม มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา
แต้มตามหลังมากที่สุด แต่กลับมาคว้าแชมป์ - 46 คะแนน
ขณะที่ ชาร์ลส์ เลอแกลร์ คว้าแชมป์ 2 ใน 3 สนามแรก และกลายเป็นตัวเต็งที่จะคว้าแชมป์ เวอร์สเตปเปน หัวเสียกับการแข่งไม่จบ 2 ใน 3 สนาม กับการเริ่มต้นอย่างเชื่องช้า ที่ไม่รู้ได้ว่าเป็นเพราะรถคันใหม่หรือเพราะตัวเอง ถึงอย่างนั้นทีมงาน เร้ดบูลล์ เรซิ่ง ปรับแก้อย่างรวดเร็ว และเขาลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ผ่านไป 6 สนามที่ สแปนิช กรังด์ปรีซ์ เขาขยับตำแหน่งขึ้นมานำบนตารางคะแนน
ไม่ต้องถามว่าเกิดอะไรขึ้นจากนั้น คนที่คุ้นเคยกับการลุ้นแชมป์แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับความกังวลของนักขับที่ก้าวขึ้นมาลุ้นแชมป์ครั้งแรก
ได้ชัยชนะจากตำแหน่งกริดที่หลากลายที่สุด - 7 กริด
ในแชมป์ทั้ง 15 สนาม เวอร์สเตปเปน คว้าแชมป์จากการออกสตาร์ทในตำแหน่งต่างๆ กัน 7 ตำแหน่ง การได้โพลและเป็นแชมป์รวดเดียวแบบที่ อาบูดาบี กรังด์ปรีซ์ เป็นสิ่งสวยงาม แต่ที่สวยงามยิ่งกว่าคือการออกสตาร์ทด้วยอันดับ 10 ที่ฮังการีก่อนขึ้นมาคว้าแชมป์ น่าทึ่งและสวยงามกว่านั้นที่เบลเยี่ยม
เวอร์สเตปเปน เปลี่ยนอะไหล่เครื่องยนตร์ โดนปรับให้ลงไปเริ่มเป็นอันดับ 14 แต่ก็เป็นแชมป์อีก ทำสถิติทียบเท่า บรูซ แม็คลาเรน ที่ไต่อันดับจาก 10 หรือต่ำกว่าขึ้นมาเป็นแชมป์ 2 เรซติดต่อกัน และสถิติในปี 2005 ที่ คิมี่ ไรโคเน่น เคยเป็นแชมป์จากการออกสตาร์ท ด้วยกริดที่แตกต่าง 5 ตำแหน่งก็โดนทำลายลง
ได้แชมป์สนามมากที่สุด โดยไม่ได้มาจากตำแหน่งโพล - 9 รายการ
ปัญหาของ เฟอร์รารี่ เป็นไปตามที่ เลอแกลร์บอกว่าพวกเขามักจะมีปัญหาในวันอาทิตย์ ส่วนวันเสาร์พวกเขาคว้าโพล 12 จาก 22 รายการ เป็นสถิติร่วมมากที่สุดที่ทำได้ต่อหนึ่งซีซั่น แต่มันไม่หยุด เวอร์สเตปเปน ที่ก้าวข้ามอีกสถิติของ มิชาเอล ชูมัคเกอร์ เมื่อปี 1995 ที่คว้าแชมป์จากนอกตำแหน่งโพล 7 สนาม และ ลูอิส แฮมมิลตัน ที่เคยคว้าแชมป์จากการไม่อยู่ในตำแหน่งโพล 8 สนาม เมื่อปี 2019
เร้ดบูลล์ เรซิ่ง
คว้าอันดันท็อป 2 ติดต่อกันมากที่สุด - 19 สนาม
การจับคู่ของ เวอร์สเตปเปน และ เซอร์จิโอ เปเรซ น่าจะเป็นคู่ที่พวกเขาเฝ้าตามหาและเฝ้ารอคอยมาอย่างยาวนาน เหมือนที่ครั้งหนึ่ง เว็ทเทล เคยมีค่เป็นนักขับที่ไม่เป็นรองใครอย่่าง มาร์ค เว็บเบอร์ ซึ่งความพยายามมากมายประสบความสำเร็จในปี 2022
เวอร์สเตปเปน และ เปเรซ คว้าอันดับท็อป 2 ติดต่อกันมากที่สุด 19 เรซ 17 แชมป์ 11 โพเดียม นับตั้งแต่ซาอุดิอาระเบียถึงเม็กซิโก โดยสถิติก่อนหน้า 17 สนาม เป็นของ วิลเลี่ยมส์ (1993-1994) และ เมอร์ซิเดส (2014-2015)
ปี 2023 กับการแข่งขันที่มากขึ้นเป็นประวัติกาล เป็นไปได้ว่าจะมีอีกหลายสถิติให้ติดตาม และทำลายลง
F1DRIVE
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :
Website : www.truevisions.co.th
Facebook : Truevisions
Twitter : @TrueVisions
Line : @Truevisions
Youtube official : Truevisionsofficial
Instagram : Truevisionsofficial