F1 2023 และนักขับน้องใหม่ 3 ราย “ปิอัสตรี” ที่ได้รับการพูดถึงอย่างมากกับสงครามชิงตัว “เดอ ฟรีส” ผู้มุ่งมั่นอดทนรอคอยโอกาส และ “ซาร์เจนท์” ที่มาแบบเฉียดฉิว นี่คืออนาคต “ฟอร์มูล่า วัน” ที่เต็มไปด้วยการเดิมพัน
ปี 2022 คริสเตียน ฮอร์เนอร์ บอกว่าการคว้าแชมป์โลกทั้งประเภทเดี่ยวและทีมที่มารวมตัวกันที่ เร้ดบูลล์ เรซิ่ง ทำให้ทีมอื่นเจ็บปวด แต่ขณะเดียวกันก็น่าจะสร้างแรงขับให้ทีมอื่นก้าวหน้าตามมา เพราะการเป็นแชมป์มากถึง 17 จาก 22 สนามตลอดทั้งซีซั่นเป็นสัดส่วนจำนวนมาก รถเป็นเรื่องหนึ่ง และนักขับก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ดังนั้นหลายทีมจึงพยายามเปลี่ยนแปลง และแฟนๆ ก็จะได้เห็น 3 นักขับหน้าใหม่
ออสการ์ ปิอัสตรี
แม็คลาเรน
ปิอัสตรี เป็นชาวออสเตรเลีย เกิดที่ เมลเบิร์น เขาไม่แตกต่างจากเด็กๆ ทุกคนที่ชื่นชอบความเร็วและมอเตอร์สปอร์ต เริ่มขับคาร์ทเมื่ออายุเพียง 10 ขวบและแข่งขันในประเทศเมื่ออายุ 13 ปี ปีถัดมาย้ายมาอยู่ที่อังกฤษและเริ่มเดินทางแข่งขันทั่วยุโรป เขามีทั้งความสามารถและพรสวรรค์ คว้าแชมป์ในหลากหลายรุ่นที่ลงแข่งตั้งแต่ F4 และ ฟอร์มูล่า เรโนลต์ ยูโรคัพ และ F3
ดูเหมือนว่า ปิอัสตรี ได้รับการพูดถึงอย่างมากใน 2 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นนักขับของ เรโนลต์ สปอร์ต อคาเดมี่ ตั้งแต่ปี 2020 และได้แชมป์ F3 แต่ก็คงเร็วเกินไปถ้าจะรีบผลักดันให้ขึ้นมาสู่ F1 ดังนั้น เรโนลต์ จึงไปเซ็นสัญญากับ เอสเตบัน โอคอน ที่ปีก่อนหน้าเป็นเพียงนักขับสำรองค่าย เมอร์ซิเดส จากนั้นปีถัดมา เรโนลต์ รีแบรนด์สู้ อัลพีน และหมดสัญญากับ แดเนี่ยล ริคคาร์โด้ ที่ย้ายไป แม็คลาเรน
ปี 2021 ปิอัสตรี เป็นแชมป์ F2 สร้างประวัติศาสตร์เดียวกับนักขับรุ่นพี่ผู้มากความสามารถอย่าง นิโก้ รอสเบิร์ก, ลูอิส แฮมิลตัน, ชาร์ลส์ เลอแกลร์ และ จอร์จ รัสเซลล์ ที่คว้าแชมป์ทั้ง F3 และ F2 ในปีที่เป็นรุกกี้ กับตำแหน่งที่ว่างลงและเป็นนักขับในอคาเดมี่ นี่คือเวลาอันเหมาะสม ที่จะก้าวขึ้นมาใน F1 แต่ อัลพีน ไปเซ็นสัญญากับ เฟร์นานโด อลอนโซ่ กลับมาสู่วงการ หลังจากอดีตแชมป์โลกจากสเปน ไปขับอินดีคาร์ปี 2020 และเป็นสัญญา 2 ปีที่ชวนให้ ปิอัสตรี รู้สึกว่า เขาคงต้องอยู่กับ F2 ไปอีก 2 ปีแทนที่จะได้ขึ้นสู่จุดสูงสุดกับเพื่อนร่วมรุ่นอย่าง โจ กวนยู ของ อัลฟ่า โรเมโอ
นี่อาจเป็นหนึ่งในจุดดราม่าที่ทำให้ ปิอัสตรี เมิน อัลพีน เมื่อ อลอนโซ่ หมดสัญญา และจะย้ายไป แอสตัน มาร์ติน ในปี 2023 และทันทีที่ อัลพีน ประกาศว่า ปิอัสตรี จะเป็นนักขับคนใหม่ในปี 2023 จึงเกิดการหักหน้ากัน เพราะ ปิอัสตรี ประกาศผ่านอินสตาแกรมว่ายังไม่ได้ตกลงอะไรกันเลย และเขาจะไป แม็คลาเรน! เกิดการยื้อแย่งตัวกัoระหว่างสองค่าย และ แม็คลาเรน เป็นผู้เสียสละ จ่ายค่าฉีกสัญญา แดเนี่ยล ริคคาร์โด้ เพื่อให้ที่นั่งกับ ปิอัสตรี
นิค เดอ ฟรีส
อัลฟ่าทอรี
เทียบอายุกับ ปิอัสตรี แล้ว เดอ ฟรีส ไม่ได้เริ่มต้นอย่างเชื่องช้า เมื่อ ปิอัสตรี ในวัย 13 ปีตระเวนแข่งรถคาร์ท นักขับดัตช์เข้าสู่ ฟอร์มูล่า เรโนลต์ ยูโรคัพ จากนั้นในปี 2016 เขาอยู่ใน GP3 SERIES แต่มีผลงานไม่ดีเท่ากับเพื่อนร่วมทีมอย่าง ชาร์ลส์ เลอแกลร์ และ อเล็กซานเดอร์ อัลบอน แต่ปีถัดมา ก็ยังได้เลื่อนขึ้นขับ F2 ให้ทีม RAPAX ทีมสัญชาติอิตาเลี่ยน และใช้เวลา 3 ปีในดิวิชั่นนี้คว้าแชมป์ในที่สุด
แต่ตำแหน่งว่างใน F1 ก็ยังมาไม่ถึง เขาจึงพาตัวเองไปขับ Formula E และ World Endurance Championship และเป็นนักขับสำรองของ เมอร์ซิเดส มาตั้งแต่ปี 2020 เขาอดทน ใจเย็น และรอคอยมาตลอดด้วยความหวังว่าสักวัน วันของเขาจะมาถึง และมันก็เกิดขึ้นจริงใน สแปนิช กรังด์ปรีซ์ 2022 ที่ คาตาลุนญ่า เซอร์กิต เมื่อ อเล็กซ์ อัลบอน ผ่าตัดไส้ติ่ง เขาคว้า 3 คะแนนให้กับทีม วิลเลี่ยมส์ ในขณะที่ นิโคลัส ลาติฟี ยังไม่มีคะแนน ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เขาทำได้ดีเกินคาด และ อัลฟ่าทอรี ไม่รอช้าที่จะเซ็นสัญญาให้เขามาแทนที่ว่างของ ปิแอร์ แกสลี่ย์ ที่ย้ายไปอัลพีน
เนื่องจาก ยูกิ ทซึโนดะ อายุยังน้อย และต้องเก็บประสบการณ์อีก การได้นักขับที่มีทั้งวัยวุฒิและคุณวุฒิพอตัวอย่าง เดอ ฟรีส มองอย่างไรก็ส่งผลดีต่อทีม
โลแกน ซาร์เจนท์
วิลเลี่ยมส์
ซาร์เจนท์ เป็นชาวอเมริกันคนแรกนับตั้งแต่ปี 2015 ที่เข้ามาใน ฟอร์มูล่า วัน ซึ่งในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมามีนักขับจากสหรัฐมากถึง 57 ราย (มี 19 นักขับที่เคยเข้าร่วมมากกว่า 10 เรซ หรือเป็นนักขับอาชีพที่มีส่วนร่วมจริงๆ) มาริโอ อันเดร็ตติ ประสบความสำเร็จสูงที่สุด เคยคว้าแชมป์ 12 สนาม และเป็นคนล่าสุดที่เป็นแชมป์ใน ดัตช์ กรังด์ปรีซ์ 1978
คนก่อนหน้า ซาร์เจนท์ คือ อเล็กซานเดอร์ รอสซี่ เขาเป็นชาวแคลิฟอร์เนียที่เคยขับให้ทีม มานอร์ ปัจจุบัน เป็นนักขับ อินดี้คาร์ ไปแล้ว ส่วน ซาร์เจนท์ กว่าจะสะสมคะแนนได้มากพอจะเลื่อนขึ้นสู่ F1 ก็ต้องลุ้นจนสนามสุดท้าย แต่ก็ทำสำเร็จ คว้าอันดับ 4 ใน F2 และหากเปรียบเทียบกับทั้ง ปิอัสตรี หรือ เดอ ฟรีส เขาอาจไม่ใช่คนที่โดดเด่นมากนัก แต่อายุยังน้อยสามารถพัฒนาได้อีก ตามสไตล์ วิลเลี่ยมส์ ที่พร้อมจะให้โอกาสนักขับอายุน้อย และ ลาติฟี กับผลงานใน 2 ปีที่ผ่านมา ก็ชวนให้รู้สึกว่า ต้องยอมเสี่ยงเพื่ออนาคต
รถใหม่ นักขับใหม่ หรือต่อให้เป็นนักขับหน้าเดิมที่กลับมายึดที่นั่งอย่าง นิโก้ ฮูลเคนเบิร์ก ล้วนเป็นการเดิมพันกับอนาคตทั้งสิ้น แต่ระยะเวลาจะยืนยาวเพียงไหนเป็นเรื่องยากจะตอบได้ และจะมีใครเคลื่อนที่เคลื่อนไหว ก้าวหน้าแค่ไหน คงต้องติดตามกันต่อไปใน F1 2023
F1DRIVE
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :
Website : www.truevisions.co.th
Facebook : Truevisions
Twitter : @TrueVisions
Line : @Truevisions
Youtube official : Truevisionsofficial
Instagram : Truevisionsofficial