หลุยส์ เอ็นรีเก้ กุนซือทีมชาติสเปนปฏิเสธที่จะพูดถึงเรื่องอนาคตในการคุมทีมชาติสเปนของเขา หลังจากที่นำทีมกระทิงดุพ่ายในการดวลจุดโทษต่อ โมร็อกโก 0-3 ตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายในศึกฟุตบอลโลก 2022 ไปอย่างน่าผิดหวัง
ในเกมรอบ 16 ทีมสุดท้ายเมื่อวันอังคารที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา สเปน มีคิวลงสนามเจอกับ โมร็อกโก ซึ่งก่อนแข่งหลายฝ่ายมองว่าเป็นโอกาสดีของ สเปน ที่เจอกับคู่แข่งที่เป็นรองกว่า และน่าจะมีลุ้นเอาชนะได้ไม่ยากนัก
แต่รูปเกมที่ออกมา แม้ว่า สเปน จะเป็นฝ่ายครองบอลได้เหนือกว่ามาก แต่กลับกลายเป็นว่าได้แต่เคาะบอลไปมา และหาโอกาสเข้าไปจบสกอร์ได้น้อยเหลือเกิน ทำให้จบ 120 นาทีเสมอกันไป 0-0 ซึ่งทั้งเกม สเปน มีโอกาสยิงตรงกรอบเพียง 2 ครั้งเท่านั้น จากโอกาสยิงทั้งหมด 14 ครั้ง ทำให้ต้องไปวัดดวงกันในการดวลจุดโทษ และผลปรากฏว่า 3 คนแรกของ สเปน ยิงไม่เข้าเลย ขณะที่ โมร็อกโก ยิงเข้าไป 3 จาก 4 คน นั่นทำให้ สเปน แพ้ในการดวลลูกโทษไป 0-3 ตกรอบไปแบบช็อกความรู้สึกแฟนบอล
หลังจบเกม เอ็นรีเก้ ที่น่าจะต้องเจอกับแรงกดดันอย่างหนัก จากทั้งสื่อมวลชนและแฟนบอล ได้กล่าวถึงอนาคตตัวเองหลังจากนี้ว่า เขาต้องขอใช้เวลาสักพักในการพิจารณาว่าจะยังอยู่คุมทีมชาติสเปนต่อไปหรือไม่ โดยกล่าวว่า
"ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะพูดถึงอนาคตของผม ผมต้องการที่จะอยู่กับครอบครัวของผมก่อน หลังจากนั้นในสัปดาห์หน้า เมื่อประธานสหพันธ์ฯ เห็นว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะคุยถึงเรื่องนี้กัน ผมก็จะพูดคุยถึงเรื่องนี้ แต่ตอนนี้ผมยังไม่ได้คิดถึงอนาคต เราต้องก้าวผ่านความผิดหวังครั้งนี้ให้ได้ก่อน"
นอกจากนี้ เอ็นรีเก้ ยังกล่าวถึงการยิงจุดโทษที่ย่ำแย่ของ สเปน ด้วยว่าเป็นความรับผิดชอบของเขาเอง "ผมขอรับผิดชอบกับเรื่องนี้ทั้งหมด เพราะผมเป็นคนเลือกคนยิง 3 คนแรกเอง ส่วนที่เหลือนั้นเป็นการตัดสินใจของทีม แต่เราไปไม่ถึงคนที่ 4 เลยด้วยซ้ำ และ (ยาสซีน) โบโน่ ก็เป็นผู้รักษาประตูที่เซฟลูกโทษได้อย่างน่าทึ่ง"
ภาพจาก Getty Images
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :
Website : www.truevisions.co.th
Facebook : Truevisions
Twitter : @TrueVisions
Line : @Truevisions
Youtube official : Truevisionsofficial
Instagram : Truevisionsofficial