ศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบ 8 ทีมสุดท้าย อังกฤษ จะพบกับ ฝรั่งเศส โดยเกมนี้ อังกฤษ น่าจะยังยึดทีมชุดล่าสุดจากเกมที่แล้วเป็นหลัก แม้ว่าจะได้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง กลับมาอยู่ในทีมแล้ว แต่คงต้องหลีกทางให้ ฟิล โฟเด้น ก่อน ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ยังฟูลทีมเหมือนเดิม ขณะที่ ฝรั่งเศส มีทีมที่สมบูรณ์สุดๆ รวมถึงฟอร์มการเล่นในช่วงที่ผ่านมาก็ยอดเยี่ยมมาก โดยการจัดทีมน่าจะยังเป็นชุดเดิมๆ นำโดยกองหน้าตัวเก่งอย่าง คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ที่ยิงไป 5 ประตูแล้วในฟุตบอลโลกคราวนี้
พรีวิวฟุตบอลโลก 2022 รอบ 8 ทีมสุดท้าย
อังกฤษ พบ ฝรั่งเศส
สนาม : อัล เบย์ท สเตเดี้ยม
เวลา : 02:00 น. วันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม 2565 (แข่งคืนวันเสาร์)
ถ่ายทอดสดทาง : True Sport 2 (ช่อง 667)
อังกฤษ
ทีมสิงโตคำรามของ แกเร็ธ เซาธ์เกต โชว์ฟอร์มได้น่าพอใจ หลังผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ในฐานะแชมป์กลุ่มบี จากนั้นในรอบ 16 ทีมสุดท้ายก็ยังโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยม เมื่อเอาชนะ เซเนกัล ไปได้อย่างขาดลอย 3-0 ลอยลำเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายแบบสบายๆ นอกจากนี้ ข่าวดีก็คือดูเหมือนว่า เซาธ์เกต จะค้นพบ 11 ผู้เล่นที่ดีที่สุดในตอนนี้ของ อังกฤษ แล้ว อย่างไรก็ตาม มาถึงตรงนี้พวกเขาต้องเจอกับของจริงแล้วเช่นกัน เมื่อต้องปะทะกับ ฝรั่งเศส ทีมที่น่าจะเป็นเต็งหนึ่งที่จะคว้าแชมป์โลกในตอนนี้ หลังจากที่เต็งแชมป์อย่าง บราซิล พลิกล็อคตกรอบ 8 ทีมไปเรียบร้อย
ในส่วนของสภาพทีมนั้น มีรายงานว่า ราฮีม สเตอร์ลิ่ง กลับมาเข้าแคมป์เป็นที่เรียบร้อย หลังกลับไปเคลียร์เรื่องถูกโจรขึ้นบ้านที่อังกฤษ แต่เชื่อว่าคงไม่ได้เป็นตัวจริง เพราะตอนนี้ ฟิล โฟเด้น กำลังท็อปฟอร์มสุดๆ ส่วนที่เหลือไม่มีปัญหา พร้อมลงสนามทั้งหมด ในระบบการเล่น 4-3-3 โดยในเกมรุกน่าจะยังใช้สามประสานชุดเดิมอย่าง ฟิล โฟเด้น, แฮร์รี่ เคน และ บูคาโย่ ซาก้า
ฝรั่งเศส
ทีมตราไก่ ดีกรีแชมป์โลกหนที่แล้ว โชว์ฟอร์มได้สมราคาแชมป์เก่ามากๆ หลังเข้ารอบน็อคเอาท์มาในฐานะแชมป์กลุ่มดี จากนั้นในรอบ 16 ทีมพวกเขาก็จัดการเอาชนะ โปแลนด์ มาได้แบบสบายๆ 3-1 เรียกได้ว่าเป็นฟุตบอลแบบคนละชั้นเลยก็ว่าได้ แถมกองหน้าตัวเก่งอย่าง คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ก็กำลังเข้าฝักสุดๆ ยิงไป 5 ลูกแล้วในฟุตบอลโลกคราวนี้ นำเป็นดาวซัลโวแบบเดี่ยวๆ แม้ว่าในรอบ 8 ทีมพวกเขาต้องโคตรมาเจอกับทีมแกร่งอย่าง อังกฤษ แต่ว่ากันตามตรงแล้ว ฝรั่งเศส ยังดูมีความอันตรายกว่ามาก
ในส่วนของสภาพทีม ต้องบอกว่า ฝรั่งเศส ไม่มีปัญหานักเตะบาดเจ็บหรือว่าติดโทษแบนเลยแม้แต่รายเดียว โดยเกมนี้ ดีดิเย่ร์ เดส์ช็องส์ จะส่งผู้เล่นชุดใหญ่เต็มพิกัดในระบบการเล่น 4-2-3-1 เช่นเดิม โดยเกมรุกยังนำโดย 4 ตัวหลักอย่าง เอ็มบั๊ปเป้, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์, อองตวน กรีซมันน์ และ อุสมาน เดมเบเล่
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
อังกฤษ (4-3-3) : จอร์แดน พิคฟอร์ด : ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, ลุค ชอว์ : จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ดีแคลน ไรซ์, จู๊ด เบลลิงแฮม : บูคาโย่ ซาก้า, แฮร์รี่ เคน, ฟิล โฟเด้น
ฝรั่งเศส (4-2-3-1) : อูโก้ โยริส : ชูลส์ กุนเด้, ราฟาแอล วาราน, ดาโยต์ อูปาเมกาโน่, เตโอ แอร์กน็องเดซ : โอเรเลียง ชูอาเมนี่, อาเดรียง ราบิโอต์ : อุสมาน เดมเบเล่, อองตวน กรีซมันน์, คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ : โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์
ความน่าจะเป็น : ถือเป็นเกมที่สูสีอย่างมาก และคาดเดาผลการแข่งขันได้ลำบาก แม้ว่า ฝรั่งเศส จะดูฟอร์มดี และมีชื่อชั้นที่เหนือกว่า แต่ อังกฤษ ชุดนี้ก็เป็นทีมที่มีนักเตะที่ครบเครื่องให้เลือกใช้งานมากที่สุดทีมหนึ่ง เชื่อว่าน่าจะเป็นเกมที่สูสีกัน โดยที่ ฝรั่งเศส อาจจะครองบอลบุกได้มากกว่า และ อังกฤษ จะคอยหาจังหวะสวนกลับ ซึ่งเกมนี้น่าจะตัดสินกันที่ใครเล่นพลาดน้อยกว่ากัน มีความเป็นไปได้สูงว่าใน 90 นาทีอาจจะเสมอกัน และต้องไปลุ้นกันต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ
สกอร์ที่คาด : อังกฤษ เสมอ ฝรั่งเศส 1-1
ภาพจาก Getty Images
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :
Website : www.truevisions.co.th
Facebook : Truevisions
Twitter : @TrueVisions
Line : @Truevisions
Youtube official : Truevisionsofficial
Instagram : Truevisionsofficial