ซานโต๊สยืนยันไม่เสียใจ ที่ดร็อปโรนัลโด้เป็นแค่สำรอง

โปรตุเกส ต้องเจอกับ โมร็อกโก ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ซึ่งตามหน้าเสื่อ โปรตุเกส ย่อมดูเหนือกว่า และหลายฝ่ายก็คาดการณ์กันว่าคู่นี้ไม่น่ามีเหตุการณ์ที่เหนือความคาดหมาย "ทัพฝอยทอง" น่าจะเป็นฝ่ายเอาชนะ โมร็อกโก ไปได้ไม่ยากนัก เมื่อดูจากฟอร์มการเล่นที่ผ่านมา รวมถึงตัวผู้เล่นที่ โปรตุเกส ก็มีนักเตะดีๆ อยู่เต็มทีม

อย่างไรก็ตาม กลับเป็น โมร็อกโก ที่ออกนำไปก่อนในนาทีที่ 42 จากจังหวะที่ ดีโอโก้ คอสต้า นายทวารของโปรตุเกสออกมาไม่ถึงบอล และเป็น ยูสเซฟ เอน-เนสเซรี่ กองหน้าตัวเก่งโฉบเข้ามาโหม่งทำประตู ทำให้จบครึ่งแรก โปรตุเกส ต้องตกเป็นฝ่ายตามหลัง 0-1

จากนั้นในครึ่งหลัง นาทีที่ 51 แฟร์นานโด ซานโต๊ส ทำการเปลี่ยน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ ชูเอา กันเซโล่ ลงมา เพื่อต้องการเกมรุกที่มากขึ้นกว่าเดิม แต่การลงสนามมาของ โรนัลโด้ กลับไม่ได้สร้างความแตกต่างอะไรมากมายนัก ขณะที่ โมร็อกโก ก็เล่นเกมสวนกลับได้น่ากลัวเป็นระยะ และถ้าพวกเขาจบสกอร์ได้คมกว่านี้ ก็น่าจะมีประตูที่สองเกิดขึ้นไม่ยาก

เกมดำเนินมาถึงในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ โปรตุเกส มีโอกาสตีเสมอจากจังหวะขึ้นโหม่งของ เปเป้ แต่ก็หลุดกรอบออกไปนิดเดียว ทำให้ท้ายที่สุดแล้ว โมร็อกโก เป็นฝ่ายเอาชนะ โปรตุเกส ไป 1-0 สร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมจากทวีปแอฟริกาทีมแรกที่สามารถผ่านเข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศของศึกฟุตบอลโลกได้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ผลงานที่ดีที่สุดที่ทีมจากแดนกาฬทวีปทำได้นั้น คือรอบ 8 ทีมสุดท้ายเท่านั้น โดยในรอบรองชนะเลิศ โมร็อกโก จะได้เข้าไปเจอกับ ฝรั่งเศส แชมป์โลกเมื่อปี 2018 ที่เอาชนะ อังกฤษ มาได้ 2-1

ทั้งนี้ หลังจบเกม หลายคนได้เห็นภาพ โรนัลโด้ เดินกลับเข้าห้องแต่งตัวไปทั้งน้ำตา และฟุตบอลโลกครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายของเจ้าตัวแล้ว เนื่องจากปัจจุบัน โรนัลโด้ กำลังจะอายุครบ 38 ปี ในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ซึ่งกว่าจะถึงฟุตบอลโลกครั้งหน้าในปี 2026 โรนัลโด้ ก็ไม่น่าจะอยู่ในช่วงอายุที่เหมาะสมที่จะรับใช้ทีมชาติอีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม แฟร์นานโด ซานโต๊ส กุนซือของโปรตุเกส ได้เผยถึงการตัดสินใจดร็อป โรนัลโด้ เอาไว้เป็นเพียงแค่ตัวสำรองในเกมนี้ว่า เขาไม่ได้รู้สึกเสียใจแต่อย่างใด เนื่องจากเชื่อว่าเขาได้เลือกทีมที่มีความสมดุลย์ดีแล้ว ในการต่อกรกับ โมร็อกโก ในนัดนี้ โดยกล่าวว่า "ผมไม่เสียใจกับการตัดสินใจของผม"

"แน่นอนว่า คริสเตียโน่ (โรนัลโด้) ย่อมรู้สึกโศกเศร้า ทีมนี้มีความเป็นหนึ่งเดียวกันเสมอมา และผมก็ไม่รู้สึกเสียใจกับการตัดสินใจ (ที่เลือก โรนัลโด้ นั่งสำรอง) เนื่องจากผมได่เลือกทีมที่มีความสมดุลย์ที่สุดแล้ว และอันที่จริงเกมนี้เราเป็นฝ่ายครองเกมได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด"

"สำหรับอนาคตของผมน่ะเหรอ? ผมจะมีการพูดคุยกับประธานของสมาคมฟุตบอลโปรตุเกสในตอนที่กลับไปถึง เราจะคุยกันอย่างรอบคอบถึงสถานการณ์ของสัญญาของผมที่เป็นอยู่ในเวลานี้"