ซีดานอาจต้องรอเก้อ หลังเดส์ช็องส์มีแววคุมไก่ต่อ

ทีมชาติฝรั่งเศสภายใต้การนำของ เดส์ช็องส์ กำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในศึก เวิลด์ คัพ ที่ กาตาร์ หลังผ่านเข้ามาถึงรอบตัดเชือก โดยเตรียมที่จะรอพบกับ โมร็อกโก ในคืนวันพุธที่ 14 ธันวาคมนี้ ซึ่งถ้าหากไม่มีอะไรพลิกความคาดหมาย ฝรั่งเศส ก็น่าจะเอาชนะ โมร็อกโก และนั่นจะทำให้พวกเขากลายเป็นทีมที่มีโอกาสป้องกันแชมป์ฟุตบอลโลกได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบ 60 ปี หลังจากที่ บราซิล คือทีมสุดท้ายที่เคยป้องกันแชมป์ฟุตบอลโลกได้ ซึ่งทีมแซมบ้าเป็นแชมป์โลกสองครั้งติดต่อกันในปี 1958 และ 1962

ทั้งนี้ ย้อนกลับไปก่อนหน้าที่ทัวร์นาเมนท์ที่ กาตาร์ จะเริ่มขึ้นนั้น มีรายงานข่าวจากหลายสำนักเชื่อว่ามีโอกาสเป็นไปได้ค่อนข้างมากที่ เดส์ช็องส์ จะตัดสินใจลงจากตำแหน่งกุนซือทีมชาติฝรั่งเศส ไม่ว่าสุดท้ายแล้วเขาจะนำทีมประสบความสำเร็จในฟุตบอลโลกครั้งนี้หรือไม่ โดยที่มีชื่อของ ซีเนดีน ซีดาน อดีตตำนานทีมชาติฝรั่งเศสและอดีตกุนซือ เรอัล มาดริด ชุดสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 3 สมัยซ้อน เป็นตัวเต็งที่จะเข้ามานั่งเก้าอี้นายใหญ่ทีมชาติฝรั่งเศสแทน เนื่องจาก ซีดาน ไม่ยอมตอบรับข้อเสนอคุมทีมไหนอีกเลย นับตั้งแต่ออกจาก เรอัล มาดริด เหมือนกับว่ากำลังรอคอยอะไรบางอย่าง

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ ณ ปัจจุบันดูเหมือนจะไม่เป็นอย่างที่คิดกันเอาไว้แล้ว เมื่อรายงานข่าวจาก เลอ ปารีเซียง ระบุว่า เดสช็องส์ อาจได้รับการสนับสนุนจากสหพันธ์ฟุตบอลฝรั่งเศส หรือ แอฟแอฟแอฟ ให้อยู่ทำหน้าที่กุนซือทีมตราไก่ต่อไปจนถึงศึก ยูโร 2024 ในอีกสองปีข้างหน้า ซึ่งรายงานข่าวนี้ก็ดูมีความเป็นไปได้สูงมาก เนื่องจากไปสอดคล้องกับที่ โนแอล เลอ แกรต ประธานสหพันธ์ฯ เคยกล่าวเอาไว้ว่าเป้าหมายของฝรั่งเศสในฟุตบอลโลกคราวนี้คือรอบรองชนะเลิศเป็นอย่างน้อย ซึ่งถ้าหากทำได้ เดสช็องส์ จะมีโอกาสได้ตัดสินใจด้วยตัวเองว่าจะอยู่คุมทีมต่อไปหรือไม่ และตอนนี้ทีมชาติฝรั่งเศส ก็ผ่านเข้ามาถึงรอบรองฯ ได้เป็นที่เรียบร้อย

ขณะที่ เดส์ช็องส์ ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องที่ เลอ แกรต กล่าวเอาไว้เช่นกัน โดยระบุว่า "ทุกอย่างย่อมมีเวลาของมัน ซึ่งมันก็เป็นเรื่องดีที่ประธานสหพันธ์ฯ ได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้ เขามีความสุข และผมก็รู้ว่าผู้คนมากมายใน ฝรั่งเศส ต่างก็มีความสุข"

"ตอนนี้ผมอยากที่จะดื่มด่ำกับความสำเร็จของเราในเวลานี้ เพราะตอนนี้เราคือหนึ่งในสี่ทีมที่ดีที่สุดในโลก และในหัวของผมกำลังคิดถึงแต่เกมที่จะเจอกับ โมร็อคโก ในวันพุธนี้เท่านั้น"

ทั้งนี้ จากการให้สัมภาษณ์ล่าสุดของ เดส์ช็องส์ บางทีอาจจะเปฺ็นไปได้ว่าเจ้าตัวอาจจะอยากแก้มือในศึกยูโรอีกครั้ง หลังจากที่เมื่อปี 2016 ฝรั่งเศส ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับ โปรตุเกส ก่อนที่จะเป็นฝ่ายพ่ายไป 0-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ