F1 as far as I remember

F1 as far as I remember
“เฟอร์รารี่” ออกตัวแรง แต่โดน “เร้ดบูลล์ เรซิ่ง” เข้าโค้งแซงหน้าคว้าแชมป์ไปแบบไม่เห็นฝุ่น ดราม่าที่มากกว่าการแข่งขันระหว่างสองทีมทำให้ “ฟอร์มูล่า วัน” ในปี 2022 มีเรื่องราวมากมาย และมีเรื่องที่ต้องได้รับการชำระในปีถัดไป



ฟอร์มูล่า วัน และดราม่ามหาศาลที่มาช้าแต่มาแน่หลังจบฤดูกาลอันยาวนานที่พลิกไปพลิกมาตั้งแต่ต้น เริ่มด้วยความแรงของ เฟอร์รารี่ ซึ่งล้มลุกคลุกฝุ่นจบด้วยการคว้ารองทั้งประเภทนักขับของ ชาร์ลส์ เลอแกลร์ และประเภททีม ส่วน เมอร์ซิเดส ที่ครองแชมป์ 8 ปีติดต่อกันเสียตำแหน่ง เป็นการเริ่มต้นยุคพลังงานสะอาดที่ไม่ดีนัก ขณะที่ เร้ดบูลล์ เรซิ่ง เชื่อว่า ถึงเวลาแล้วที่พวกเขาจะกลับสู่ความยิ่งใหญ่ จริงหรือไม่


แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน และ เซอร์จิโอ เปเรซ
 

นี่คือดราม่าเรื่องยาวที่สุดของปี หลังจาก เปเรซ สร้างตำนานไว้ในปี 2021 ด้วยการขวางทาง ลูอิส แฮมิลตัน แม้แค่ไม่กี่วินาทีก็สำคัญ ส่ง แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน คว้าแชมป์โลกสมัยแรก ถัดมาในฤดูกาลนี้ก็ยังมีหลายครั้งที่นักขับเม็กซิกันยอมรับบทพระรอง มีบ้างที่สบโอกาสคว้าแชมป์บางสนามได้ และแสดงให้เห็นว่าเขามีทั้งฝีมือและประสบการณ์ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องแปลกที่เมื่อถึงเวลาต้องการความช่วยเหลือ เขากลับไม่ได้รับในสิ่งที่เขาเคยมอบให้


สถานการณ์ที่เกิดขึ้นใน บราซิเลี่ยน กรังด์ปรีซ์ ถ้า เวอร์สเตปเปน ยอมให้อันดับ 6 เปเรซ จะมีเพิ่ม 2 คะแนน แม้สุดท้ายมันอาจไม่มีผล เพราะ ชาร์ลส์ เลอแกลร์ จบซีซั่นด้วยการมีมากกว่า เปเรซ 3 คะแนน แต่ ณ เวลานั้นสิ่

ที่สำคัญกว่าตัวเลขอคงเป็นเรื่องของจิตใจ 


มีความเป็นไปได้หลายอย่าง ทั้งเรื่องตำแหน่งและจุดยืนของ เวอร์สเตปเปน ที่ทีมอาจวางเขาไว้ในฐานะเบอร์หนึ่ง ผู้ไม่ต้องลดตัวเองลงมาทำอะไรให้ใคร แต่มันก็เป็นก้าวที่ผิดพลาด เพราะหาก เปเรซ คว้าอันดับ 2 ในประเภทนักขับ ฤดูกาลของ เร้ดบูลล์ จะสวยงามกว่านี้อีกนิด 
 
 มัตเตีย บิน็อตโต้ และ เฟอร์รารี่ 


มัตเตีย บิน็อตโต้ อยู่กับ เฟอร์รารี่ มาอย่างยาวนาน เวลา 28 ปีอาจเทียบได้กับ 1 ใน 3 ของอายุขัยเฉลี่ยของคนทั่วไป ซึ่ง บิน็อตโต้ ใช้มันไปกับการทำงานให้ เฟอร์รารี่ ตั้งแต่เป็นเด็กฝึกงาน ไต่ระดับมาเรื่อยๆ จนเป็นหัวหน้าทีม ก่อนมาถึงตำแหน่งใหญ่เท่านี้ เขาเป็นหัวหน้าฝ่ายเทคนิค มีความเชี่ยวชาญเรื่องเครื่องยนตร์ไม่เป็นรองใคร ดังนั้นการส่งทีมขึ้นมายืนเด่นในช่วงต้นฤดูกาล 2022 จึงต้องยกความดีให้ไปด้วย หลังจากความพยายาม 2-3 ปีและอีกหลายปีก่อนหน้า


สิ่งที่ผิดพลาด เสียหายหนักจนไม่สามารถประคองตำแหน่งผู้นำไว้ได้ตลอดซีซั่น ชัดเจนว่าเป็นเรื่องของแท็คติก การวางแผน และการไม่ยึดมั่นกับกลยุทธรวมถึงข้อตกลงเล็กน้อยระหว่างทีมกับนักขับ ซึ่งมันไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่ แต่เป็นเรื่องน้อยนิดมหาศาล เช่นการใช้ยางฮาร์ด ทั้งที่นักขับขอให้เปลี่ยนยางมีเดียม รวมทั้งการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแบบชวนงงหลายต่อหลายครั้ง และการมีเครื่องยนตร์พลังแรง แต่เกิดความผิดพลาดทางเทคนิคจนไม่ได้แม้แต่คะแนนเดียวในบางสนาม แม้อันดับ 2 พัฒนาขึ้นกว่าซีซั่นก่อนหน้า แต่การออกสตาร์ทอย่างมีความหวังทำให้ทุกฝ่ายหวังสูงได้กว่านั้น เมื่อไปไม่ถึง บิน็อตโต้ ก็ต้องรับผิดชอบ


ชาร์ลส์ เลอแกลร์


การก้าวขึ้นมาสู่ที่นั่งใน ฟอร์มูล่า วัน อย่างรวดเร็วแสดงถึงพรสวรรค์ในตัวของ ชาร์ลส์ เลอแกลร์ ซึ่งต้องใช้คำพูดเดียวกันกับอันดับของทีมว่า ที่ 2 นับว่าพัฒนากว่าซีซั่นก่อน แต่การเริ่มต้นแบบสุดสวย ได้โพล ได้แชมป์ 2 จาก 3 สนามแรกหมายความว่าเขาสามารถฝันถึงแชมป์โลกได้ แต่ 7 สนามต่อจากนั้น ได้มา 1 โพเดียม และต้องออกจากการแข่งขันที่ คาตาลุนญ่า และ บากู ซิตี้ เซอร์กิต เป็นเรื่องที่ยากจะทำใจ มาถึงครึ่งซีซั่นก็กลายเป็นว่าโดน เวอร์สเตปเปน ตามทัน และครึ่งฤดูกาลที่เหลือ ไม่ได้แชมป์สักสนาม


เฟอร์รารี่ พยายามมาตลอดที่จะเปลี่ยนแปลงด้วยการให้โอกาสดาวรุ่ง แม้ทั้ง เลอแกลร์ และ คาร์ลอสไซนซ์ ยอมรับว่าพวกเขาล้วนขาดประสบการณ์ในการลุ้นแชมป์อย่างเต็มตัว แต่หากซีซั่นถัดไป ต้องเจอเหตุผิดพลาดอย่างไม่น่าให้อภัยอีก ถึงตอนนั้นคงไม่รู้ว่าจะโทษใคร แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในซีซั่นนี้ไม่ได้มาจากนักขับฝ่ายเดียว


ออสการ์ ปิอัสตรี หรือ แดเนี่ยล ริคคาร์โด้


ไม่ว่านักขับ หัวหน้าทีม หรือวิศวกรจากทั้ง 10 ทีม แฟนๆ คงเห็นว่าทุกคนวนเวียนไปไม่ห่างไกลวงการ ย้ายจากทีมนี้ไปอีกทีมหนึ่ง หรือกระทั่งย้ายกลับมาถิ่นเก่าอีกครั้ง เหมือนที่เกิดขึ้นกับ แดเนี่ยล ริคคาร์โด้ แตกต่างไปเล็กน้อยที่สถานะ เขากลายเป็นนักขับมือ 3 ของ เร้ดบูลล์ เรซิ่ง ซึ่งคงไม่ใช่คำขู่ถึง เซอร์จิโอ เปเรซ ว่าอย่าทำตัวมีปัญหา เพราะมีคนที่พร้อมจะแทนตำแหน่งตลอดเวลา เหมือนที่ เมอร์ซิเดส ดึง มิค ชูมัคเกอร์ มาเป็นนักขับสำรอง เผื่อว่า ลูอิส แฮมิลตัน เปลี่ยนใจจะอำลาวงการ


มาร์ติน บรันเดิ้ล นักวิเคราะห์ของสกาย สื่อเจ้าใหญ่สัญชาติอังกฤษเชื่อว่า เรื่องช็อกที่สุดของปีคือ อันเดรียส เซเดิ้ล ย้ายจาก แม็คลาเรน ไป เซาเบอร์ ซึ่ง แซ็ค บราวน์ ซีอีโอยืนยันว่าช้าเร็วก็จะไป ไม่ว่าปี 2023 หรือ 2025 ปลายทางของ เซเดิ้ล ก็เหมือนเดิม รวมทั้งการมาของ ออสการ์ ปิอัสตรี ก็ดูไม่น่าเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจาก แม็คลาเรน จะใช้นักขับอายุน้อยทั้งสองตำแหน่งร่วมกับ ลันโด นอร์ริส แม้ทั้งคู่มีพรสวรรค์มาก และ ริคคาร์โด้ ในซีซั่นสุดท้ายทำให้ แม็คลาเรน ผิดหวังมากกับอันดับ 11 ในประเภทนักขับ แต่ ริคคาร์โด้ ก็คงผิดหวังเช่นกันที่ต้องรับค่าฉีกสัญญาจากการรู้ล่วงหน้าว่า แม็คลาเรน แอบเจรจากับ ปิอัสตรี มานานแล้ว


ปี 2023 ฟอร์มูล่า วัน เพิ่มเติมทั้งปฏิทินการแข่งขันและนักขับหน้าใหม่ ภารกิจแชมป์โลกที่ยังไปไม่ถึงของ เฟอร์รารี่ ดาวรุ่งที่จะโดนรับน้องในสนามแข่ง และบรรดานักขับหน้าเดิมที่พลาดเมื่อไร ตัวสำรองก็พร้อมสอดแทรก มีเรื่องราวมากมายให้ต้องชำระสะสาง ดังนั้นมอเตอร์สปอร์ตจึงยังน่าติดตาม ไม่เปลี่ยนแปลง

getty

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :

Website : www.truevisions.co.th

Facebook : Truevisions

Twitter : @TrueVisions

Line : @Truevisions

Youtube official : Truevisionsofficial

Instagram : Truevisionsofficial