'โปรเซฟ' พร้อมลุย เปิดซีซั่น เอเชียนทัวร์

สาริศ สุวรรณรัตน์ โปรกอล์ฟไทยวัย 24 ปี พร้อมเต็มที่ในการแข่งขันกอล์ฟรายการใหญ่เปิดฤดูกาลเอเชียนทัวร์ ในศึก “พีไอเอฟ ซาอุดิ อินเตอร์เนชันแนล พาวเวอร์ด บาย ซอฟต์แบงก์ อินเวสต์เมนท์ แอดไวเซอร์ส” ชิงเงินรางวัล 5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 165 ล้านบาท ณ สนามรอยัล กรีนส์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรีคลับ ในเมืองคิงอับดุลลาห์ อีโคโนมิค ซิตี้ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ถ่ายทอดสดทาง ทรูสปอร์ต5 (684) เริ่มรอบแรกเวลา 15.00 น. ของวันที่ 2 ก.พ. ไปจนถึงรอบสุดท้าย 5 ก.พ. นี้ 

“โปรเซฟ” เป็นเจ้าของแชมป์เอเชียนทัวร์ในรายการปิดท้ายฤดูกาลที่ผ่านมา ที่ บีเอ็นไอ อินโดนีเซียน มาสเตอร์ส สนามรอยัล จาการ์ต้า กอล์ฟ คลับ ประเทศอินโดนีเซีย และเป็นแชมป์ เอเชียนทัวร์ครั้งแรกในอาชีพ หลังจากพักปิดซีซั่นไปนานกว่าเดือน สัปดาห์นี้มีโปรแกรมแข่งขันรายการแรกของปี พีไอเอฟ ซาอุดิ อินเตอร์เนชันแนล พาวเวอร์ด บาย ซอฟต์แบงก์ อินเวสต์เมนท์ แอดไวเซอร์ส” ชิงเงินรางวัลรวม 5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 163.6 ล้านบาท)

สาริศ กล่าวว่า “การคว้าแชมป์ที่อินโดนีเซียทำให้ผมมีความมั่นใจมากขึ้น และรู้สึกโล่งใจด้วย มันไม่ได้ทำให้รู้สึกกดดันเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด ตอนนี้ผมแค่ต้องการคว้าแชมป์ให้ได้มากขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากจบการแข่งขันที่อินโดนีเซีย ผมพักไป 2-3 สัปดาห์ จนถึงสิ้นเดือนธันวาคม และเริ่มกลับมาฝึกซ้อมอีกครั้งช่วงต้นเดือนมกราคมที่สนามสยามคันทรีคลับ ตอนนี้มีความมั่นใจกับเกมของตัวเอง รู้สึกว่าเกมการเล่นลงตัวเกือบ 100% แล้ว เหลือแค่ปรับเรื่องการพัตต์และชิพ ให้เข้าที่อีกนิดหน่อย”

โปรหนุ่มไทยวัย 24 ปี ปิดฉากฤดูกาล 2022 ได้อย่างน่าประทับใจคว้าชัยเหนือคู่แข่ง 4 สโตรกในการแข่งขันที่อินโดนีเซีย หลังต้องเจอกับฤดูกาลที่ยากลำบาก เริ่มต้นปีติดเชื้อโควิด-19 และช่วงปลายเดือนกันยายนเขารั้งอันดับ 64 ในตารางอันดับทำเงินรางวัลสะสมเอเชียนทัวร์ โดยมาคลายความกดดันลงได้หลังจบอันดับ 3 ร่วมในรายการเมอคิวรีส์ ไต้หวัน มาสเตอร์ส จนกระทั่งมาปลดล็อคได้แชมป์อินโดนีเซีย มาสเตอร์ส ช่วยให้หมดความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของตัวเอง

ฤดูกาลที่ผ่านมา สาริศ ปิดฉากอันดับ 10 ในตารางทำเงินรางวัลสะสมของเอเชียนทัวร์ หรือเอเชียนทัวร์ ออร์เดอร์ ออฟ เมอริต ทำเงินรางวัลรวมทั้งสิ้น 415,499 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 4.76 ล้านบาท) จากการลงเล่น 11 รายการ ขณะที่เป้าหมายในฤดูกาลนี้ สาริศกล่าวว่า “ตอนนี้ผมคาดหวังค่อนข้างสูง ผมพยายามจะคว้าแชมป์เอเชียนทัวร์ และแชมป์อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ออร์เดอร์ ออฟ เมอริต ให้ได้ในปีนี้ ส่วนการแข่งขันที่สนามสนามรอยัล กรีนส์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรีคลับ ในสัปดาห์นี้ ลมคือปัจจัยสำคัญ วันนี้ตอนซ้อมก็เริ่มมีลม สัปดาห์นี้โค้ชของผมมาด้วย เรากำลังเตรียมพร้อมกันหลายอย่าง เขาเป็นโค้ชให้กับผมมาแล้ว 13 ปี เราเจอกันตอนที่ผมอายุ 12 ปี ตอนนั้นผมซ้อมอยู่ที่ไดรฟ์วิงเรนจ์ และคุณแม่ได้ทาบทามเขาให้มาเป็นโค้ชให้กับผม ซึ่งเราก็ทำงานร่วมกันนับแต่นั้นเป็นต้นมา”