การพบกันของแชมป์สาย เอเอฟซี “ชีฟส์” ที่มีเกมบุกเป็นอันดับ 1 ในลีก นำโดย “มาโฮมส์” เจ้าของรางวัลเอ็มวีพี 2 สมัย และแชมป์สาย เอ็นเอฟซี “อีเกิ้ลส์” ที่มาเพื่อพลิกทุกความคาดหมายกับ “เฮริทส์” ควอเตอร์แบ็คที่มีมากกว่าเกมขว้าง
พรีวิว เSUPERBOWL LVII
แคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ @ ฟิลาเดลเฟีย อีเกิ้ลส์
เวลา : 06.20 น. วันที่ 13 ก.พ. 2023 (เช้าวันจันทร์)
ช่อง : ทรูสปอร์ต 1 (666)
ซูเปอร์โบวล์ ครั้งที่ 57 เกมระหว่างสองทีมที่ดีที่สุดในซีซั่นปกติ แคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ มาถึงรอบนี้เป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 4 ปี และ ฟิลาเดลเฟีย อีเกิ้ลส์ เข้าชิงเป็นครั้งที่ 4 ในประวัติศาสตร์แฟรนไชส์ ซึ่งเมื่อปี 2017 เคยคว่ำ นิว อิงแลนด์ เพเทรียตส์ของ ทอม เบรดี้ และ บิลล์ บิลลิชิค แบบช็อกคนทั้งโลกมาแล้ว
แอนดี้ รีด เฮดโค้ช ชีฟส์ จะได้พบกับทีมเก่าที่เคยไล่เขาออกเมื่อสิบกว่าปีก่อน หลังจากร่วมงานกันมานาน 14 ปี เขาพาทีมคว้าชัยได้มากกว่าใครในลีก ติดก็แค่ดันไปแพ้ เพเทรียตส์ ในรอบชิง ซูเปอร์โบวล์ XXXIX (39) และ 5 ปีต่อมา เขาจึงได้เพียงนั่งดูความสำเร็จทีมเก่า แต่มันก็นานผ่านมา แม้ไม่ลืมแต่คงไม่เสียใจ เพราะได้แชมป์กับ ชีฟส์ เมื่อปี 2020 และมี แพทริค มาโฮมส์ ที่น่าจะอยู่ด้วยกันไปอีกหลายปี
อีกฟากฝั่งไม่ใช่ที่ไหน นิค ซีเรียนนี่ อดีตทีมโค้ชของ รี้ด เรียกได้ว่าเป็นลูกศิษย์ ซึ่งเคยอยู่ที่ แคนซัส ซิตี้ ในปี 2013 แต่จากนั้นก็ไปหาประสบการณ์กับ แอลเอ ชาร์เจอร์ส และ อินเดียนาโพลิส โคลต์ส จนกระทั่งมาที่ ฟิลาเดลเฟียในปี 2021 ใช้เวลาเล็กน้อย ในที่สุดผลผลิตที่ปลูกไว้ก็เบ่งบานในปี 2022
แพทริค มาโฮมส์ เพิ่งคว้ารางวัลเอ็มวีพีในซีซั่นนี้ไปครอง แต่ จาเล่น เฮิร์ทส์ ก็เป็นอันดับ 2 แม้มีเหตุผลมากมายที่ทำให้คะแนนห่างกันเป็นเท่าตัว แต่ควอเตอร์แบ็คจอมวิ่งก็มีสไตล์เป็นของตัวเอง
แบรนดอน แกรม ดีเฟนซีฟ เอนด์ มั่นใจว่าทีมชุดนี้ดีกว่าเมื่อปีก่อน มีตัวรับที่มีพรสวรรค์ และทุกคนซ้อมหนักเพื่อให้เป็นไปตามแผนของ โจนาธาน แกนน่อน โค้ชเกมรับ และหนึ่งในเกมที่ติดตาผู้ชมช่วงเพลย์ออฟคงเป็นเกมไหนไม่ได้นอกจากเกมชิงแชมป์สายที่ ฮาสัน เรดดิค ทำให้ บร็อค เพอร์ดี้ ควอเตอร์แบ็ครุกกี้เสียฟัมเบิ้ล ที่จริง เรดดิค เป็นทีมโปรโบวล์ แต่อย่างที่รู้ว่า ซูเปอร์โบวล์ ก็รอเขาอยู่
ขณะที่จาวอน ฮาร์เกรฟ ดีเฟนซีฟ ไลน์แมน เป็นอีกคนที่ต้องทำงานหนัก และเขาประกาศเป้าหมายมาแล้วว่า เขาจะล้ม มาโฮมส์ ให้ได้ และนอกจากเกมรับที่ดี อีเกิ้ลส์ เสียเทิร์นโอเวอร์น้อย มี 11 เกมในฤดูกาลปกติที่เสีย 1 เทิร์นโอเวอร์หรือน้อยกว่า
เนื่องจากทั้งสองมีเกมบุกระดับท็อป 3 ในลีก ดังนั้นตำแหน่งที่ทุกคนจับตาคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ทราวิส เคลซี และ เอเจ บราวน์ ทั้งสองทำเกมบุกได้ 13 เพลย์ ระยะกว่า 40 หลา เป็นรองเพียงคนเดียวคือ ทายรีค ฮิลล์ ของ ไมอามี่ ดอลฟินส์ อดีตคู่มือของ มาโฮมส์ ที่อินดี้จัด เทรดแบบสุดช็อกไปเป็น “เดอะ ฟินส์” แต่ ชีฟส์ ยังมีโชคอยู่บ้างคือทักษาะซูเปอร์แมนของ มาโฮมส์ และมีปีกคนอื่นอย่าง MVS มาร์เกซ วัลเดส-สแคนทลิ่ง แม้ขาด จูจู สมิธ ชูสเตอร์ ที่ชิงเจ็บไปก่อน และมีรันนิ่งแบ็ค ไอเซห์ ปาเชโก้
ปัจจัย X คืออาการเจ็บข้อเท้าของ แพทริค มาโฮมส์ ที่ไม่มีใครรู้ได้เลยว่ามากน้อยเพียงไหนจาก 2 เกมที่ผ่านมา ซึ่งหากตรงกับรายงานว่าเป็นอาการบาดเจ็บข้อเท้าช่วงบนตึง ซึ่งต้องพัก 6-8 สัปดาห์ การที่เขายืนอยู่กลางสนามก็ถือว่าเหลือเชื่อ และหน้าที่ของ อีเกิ้ลส์ คือไล่กดดันให้ มาโฮมส์ เหลือเวลาน้อยที่สุด แบบที่เคยทำกับ เพอร์ดี้ ในเกมชิงแชมป์สาย
อย่างไรก็ตาม ชีฟส์ มีเฮดโค้ชระดับ แอนดี้ รีด ที่รู้ดีว่า ซีเรียนนี่ จะเล่นเกมแบบไหน บางทีเกมนี้อาจตัดสินกันด้วยความดุดัน และการเล่นดาวน์ที่ 4 ใครห้าว ใครกล้ามากกว่า
ผลที่คาด :: แคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ 31-28 ฟิลาเดลเฟีย อีเกิ้ลส์
getty
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :
Website : www.truevisions.co.th
Facebook : Truevisions
Twitter : @TrueVisions
Line : @Truevisions
Youtube official : Truevisionsofficial
Instagram : Truevisionsofficial