เชลซีต้องหวังพึ่งปาฏิหาริย์ ยิงราชันชุดขาว 3 ลูกเพื่อเข้ารอบ

พรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดที่สอง
เชลซี พบ เรอัล มาดริด
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
เวลา : 02:00 น. วันพุธที่ 19 เมษายน 2566 (แข่งคืนวันอังคาร)
ถ่ายทอดสดทาง : beIN Sports 3 (ช่อง 608)

เชลซี
เชลซี เปลี่ยนกุนซือจาก เกรแฮม พ็อตเตอร์ มาเป็น แฟร้งค์ แลมพาร์ด ในแบบที่ให้คุมชั่วคราวจนจบฤดูกาล แต่ก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้น เมื่อ แลมพาร์ด พาทีมแพ้มา 3 เกมติดต่อกันแล้ว โดยเริ่มจากบุกไปพ่าย วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-0 ในเกมพรีเมียร์ลีก ต่อด้วยบุกไปโดน เรอัล มาดริด อัดไปอีก 2-0 ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดแรก ก่อนที่เกมล่าสุดจะแพ้คาบ้านต่อ ไบรท์ตัน ไปอีก 1-2 ในเกมลีกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้ เชลซี ไม่ชนะใครมา 6 เกมติดต่อกันแล้วในทุกรายการ โดยเป็นการแพ้ 4 เสมอ 2 นั่นทำให้ตอนนี้ เชลซี ไม่เหลืออะไรให้ลุ้นแล้วนอกจากถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งโอกาสที่จะพลิกสถาการณ์กลับมาเข้ารอบก็ดูยากเหลือเกิน เมื่อต้องเอาชนะ เรอัล มาดริด ให้ได้ด้วยสกอร์ 3-0 ขึ้นไป

ในส่วนของสภาพทีม เชลซี จะไม่มีนักเตะอย่าง อาร์มันโด้ โบรย่า และ คาลิดู คูลิบาลี่ ที่บาดเจ็บอยู่ทั้งหมด ขณะที่ ไค ฮาแวร์ตซ์ และ รูเบน ลอฟตัส-ชีค มีอาการเจ็บเล็กน้อย คาดว่าไม่น่าฟิตช่วยทีมในเกมนี้ได้ ส่วน เบน ชิลเวลล์ ติดโทษแบนไปอีกคนด้วย นั่นทำให้เกมนี้สามประสานในแดนหน้าจะเป็น ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, ชูเอา เฟลิกซ์ และ มีไคโล มูดริค ในระบบ 4-3-3

เรอัล มาดริด
ราชันชุดขาวที่นำโดย คาร์โล อันเชลอตติ อาจจะมีสะดุดอยู่บ้างในเกม ลา ลีกา ช่วงที่ผ่านมา แต่โดยภาพรวมแล้วยังถือว่ามีฟอร์มการเล่นที่ค่อนข้างดี โดย 8 เกมหลังสุดรวมทุกรายการพวกเขาแพ้ไปเพียง 2 เกมเท่านั้น ที่เหลืออีก 6 เกมชนะทั้งหมด โดยผลงานในเกมล่าสุดคือการบุกชนะ กาดิซ 2-0 ในเกม ลา ลีกา เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ว่าตอนนี้จะไล่ตาม บาร์เซโลน่า ทีมจ่าฝูงของลีกเหลือเพียง 11 แต้ม แต่เชื่อว่า เรอัล มาดริด คงไม่ได้เน้นเกมลีกเท่าไหร่แล้ว และน่าจะมุ่งสมาธิมาที่ แชมเปี้ยนส์ ลีก มากกว่า ซึ่งโอกาสจะเข้าถึงรอบรองชนะเลิศตอนนี้มีสูงมาก เนื่องจากชนะ เชลซี มาได้ในเกมแรก 2-0 ถ้าไม่ทำอะไรผิดพลาดกันไปเองก็น่าจะประคองตัวเข้ารอบต่อไปได้อย่างไม่ยากนัก

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น เรอัล มาดริด จะไม่มี แฟร์กล็อง เมนดี้ ที่มีอาการบาดเจ็บ ส่วนในรายของ วินิซิอุส จูเนียร์ มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย มีโอกาสที่จะไม่ได้ลงเล่นในเกมนี้ แต่นอกนั้นไม่มีปัญหา โดยคาดว่าเกมนี้ ถ้าหากว่า วินิซิอุส ลงเล่นไม่ได้ สามประสานในแดนหน้าก็น่าจะเป็น โรดรีโก้, คาริม เบนเซม่า และ เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เชลซี (4-3-3) : เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า : รีซ เจมส์, เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, ติอาโก้ ซิลวา, มาร์ก กูกูเรย่า : เอ็นโกโล่ ก็องเต้, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, มาเตโอ โควาซิช : ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, ชูเอา เฟลิกซ์, มีไคโล มูดริค

เรอัล มาดริด (4-3-3) : ติโบต์ กูร์กตัวส์ : ดาเนียล การ์บาฆาล, เอแดร์ มิลิเตา, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า : ลูก้า โมดริช, โอเรเลียง ชูอาเมนี่, โทนี่ โครส : เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้, คาริม เบนเซม่า, โรดรีโก้

ความน่าจะเป็น : เชลซี ฟอร์มย่ำแย่เหลือเกิน ดีไม่ดีจะดูแย่กว่าตอนที่ใช้ เกรแฮม พ็อตเตอร์ เป็นกุนซือด้วยซ้ำ ทีมเล่นกันอย่างไร้ทิศทางและยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น แม้ว่าเกมนี้พวกเขาจะได้เล่นในบ้าน แต่การที่ต้องเอาชนะให้ได้อย่างน้อย 3-0 นั้น ถือเป็นงานที่ยากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องเจอกับทีมอย่าง เรอัล มาดริด นั่นทำให้เกมนี้ เชลซี จะเล่นด้วยความกดดัน และจะเข้าทาง เรอัล มาดริด ที่มาเล่นแบบรอจังหวะ รูปเกมอาจจะเป็น เชลซี ที่พยายามครองบอลบุก แต่ด้วยคุณภาพและความมั่นใจ จะทำให้ เรอัล มาดริด บุกมาเอาชนะไปได้อย่างไม่ยากนัก

สกอร์ที่คาด : เชลซี แพ้ เรอัล มาดริด 0-2