เปเรซ คว้าแชมป์ อาเซอร์ไบจาน แม็กซ์ เซ็งเซฟตี้คาร์ทำพิษ

“เปเรซ” คว้าแชมป์ “อาเซอร์ไบจาน กรังด์ปรีซ์” ถัดจาก สปรินท์ เรซ “เวอร์สเตปเปน” เซ็ง เข้าพิตก่อนเซฟตี้คาร์ ออกมาตามหลังเพื่อนร่วมทีม จากนั้นเร่งไม่ขึ้น

เซอร์จิโอ เปเรซ คว้าแชมป์ ฟอร์มูล่า วัน อาเซอร์ไบจาน กรังด์ปรีซ์ เมื่อ 30 เม.ย. ที่ผ่านมา ต่อจากการคว้าแชมป์ สปรินท์ เรซ วันก่อนหน้า ตามด้วย แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน เพื่อนร่วมทีม เร้ดบูลล์ เรซิ่ง ส่วนตำแหน่งสุดท้ายบนโพเดียมคือ ชาร์ลส์ เลอแกลร์ เจ้าของโพล จากเฟอร์รารี่

อาเซอร์ไบจาน กรังด์ปรีซ์ และการเริ่มต้นของ สปรินท์ เรซ

เลอแกลร์ ไม่คุย เมอร์ซิเดส ยังเต็มที่กับ เฟอร์รารี่

เลอแกลร์ แฮททริก คว้าโพลที่บากู 3 สมัยติด

เริ่มออกตัวที่ บากู ซิตี้ เซอร์กิต รถของ แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน พุ่งตัวเพื่อหวังจะขึ้นนำ แต่ ชาร์ลส์ เลอแกลร์ ยังรักษาตำแหน่งได้ดี แต่เมื่อถึงรอบ 3 โซน DRS แชมป์โลกชาวดัตช์พุ่งแซงขึ้นไปได้สำเร็จ ถัดจากนั้น 3 รอบ เซอร์จิโอ เปเรซ แซงหน้า เลอแกลร์ ขึ้นเป็นอันดับ 2

รอบที่ 9 ของการแข่งขัน เวอร์สเตปเปน เข้าโค้งแล้วล้อขวาหลังเฉี่ยวกำแพง จากนั้นรถหลายคันเริ่มทยอยเข้าพิต แต่รอบถัดมา รถของ อัลฟ่าทอรี นิค เดอ ฟรีส อัดกำแพงทำให้ล้อหน้าข้างซ้ายเสียหาย จอดลงกลางแทร็ค และมีเซฟตี้คาร์ออกมา ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายเพราะ เวอร์สเตปเปน เข้าพิตก่อนมี เซฟตี้คาร์ และเสียตำแหน่งให้เพื่อนร่วมทีม จากนั้น เปเรซ ตามด้วย 2 คันจาก เฟอร์รารี่ ก็เข้าพิตบ้างโดยใช้จังหวะระหว่างที่มีธงเหลืองและเซฟตี้คาร์นำหน้า กลับออกมาด้วยการเป็นผู้นำ

รอบที่ 23 เร้ดบูลล์ เรซิ่ง ทั้งสองคันยังคงนำหน้า ตามด้วย เลอแกลร์ และ เฟร์นานโด อลอนโซ่ ที่ค่อยๆ ขยับมาจากอันดับ 6 หลังออกสตาร์ท ค่อยๆ ไต่ขึ้นมา จากนั้นอีก 3 รอบในกลุ่มข้างหลัง ลูอิส แฮมิลตัน เริ่มไล่เข้ามาใกล้ คาร์ลอส ไซนซ์ ที่อยู่ในอันดับ 5

ผ่านไปเกินครึ่งของการแข่งขัน เปเรซ ค่อยๆ นำห่างเพื่อนร่วมทีม 2 วินาที และตอนนั้นเอง เวอร์สเตปเปน ก็เริ่มสื่อสารกับทีมงานถึงความผิดปกติของรถ แต่ก็ยังพยายามรักษาตำแหน่งเอาไว้ จากนั้นในรอบที่ 38 อัลฟ่าโรเมโอ เรียกให้ โจว กวนยู เข้าพิตก่อนออกจากการแข่งขัน พร้อมกับเวลาที่ค่อยๆ ทิ้งห่าง เปเรซ นำ เวอร์สเตปเปน มากกว่า 3.5 วินาที

10 รอบสุดท้ายของการแข่งขัน ไม่มีเหตุการณ์น่าตื่นเต้น รถที่พยายามใช้ยาง HARD ตั้งแต่ช่วงออกตัวค่อยๆ ทยอยเข้าพิตตามกติกาในรอบรองสุดท้าย โดย 1 คะแนนสำหรับการทำรอบที่เร็วที่สุด (Fastest Lap) เป็นของ จอร์จ รัสเซลล์ ทีมเมอร์ซิเดส และรอบสุดท้าย คันสุดท้ายคือรถของ เอสเตบัน โอคอน ทีม อัลพีน ที่ฝ่าฝูงชน เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่กำลังลงไปที่พิตเลนเพื่อเตรียมจัดสถานที่สำหรับโพเดียมและต้อนรับแชมป์สนาม

อเล็กซ์ อัลบอน นักขับไทยทีม วิลเลี่ยมส์ เริ่มต้นด้วยอันดับ 13 จากนั้นตกลงไปที่อันดับ 14 ก่อนจบการแข่งขัน 2 รอบ แซง นิโก้ ฮูลเคนเบิร์ก ขึ้นมาที่ 13 จากนั้นในรอบสุดท้าย โอคอน เข้าพิตถอยไปอยู่ข้างหลังทำให้จบด้วยอันดับ 12 ยังไม่มีแต้มในสนามนี้

ภาพถ่ายทอด