เทน ฮาก ยังภูมิใจในลูกทีม แม้สุดท้ายพ่ายเรือใบชิงเอฟเอ

แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องโคจรมาเจอกับ แมนฯ ซิตี้ ในเกมเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยถ้าหากว่าทีมปีศาจแดงเอาชนะได้ในเกมนี้ ก็จะเป็นแชมป์รายการที่สองของพวกเขาในซีซั่นนี้ต่อจาก คาราบาว คัพ ขณะเดียวกันถ้าหากว่าเป็นทางทีมเรือใบสีฟ้าที่คว้าแชมป์ไปได้ ก็จะเป็นแชมป์รายที่สองในปีนี้ของพวกเขาเช่นกัน ต่อจากแชมป์พรีเมียร์ลีก

และยิ่งไปกว่านั้นก็คือ แมนฯ ซิตี้ จะมีลุ้นสร้างประวัติศาสตร์ในการทำ "ทริปเปิ้ลแชมป์" เหมือนกับที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เคยทำไว้เมื่อปี 1999 ทันที หลังจากที่พวกเขายังเหลือเกมรอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รออยู่ ในวันที่ 10 มิถุนายนนี้

อย่างไรก็ดี แม้ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะสู้อย่างเต็มที่ แต่ก็พ่ายให้กับคุณภาพที่เหนือกว่าของ แมนฯ ซิตี้ ที่ขึ้นนำได้ก่อนตั้งแต่ 12 วินาทีแรกจากการยิวสุดสวยของ อิลคาย กุนโดกัน แม้ว่าทีมปีศาจแดงจะมาตีเสมอได้จากจุดโทษของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ในนาทีที่ 33 จากการทำแฮนด์บอลในกรอบเขตโทษของ แจ็ค กรีลิช แต่กระนั้นช่วงต้นครึ่งหลัง ซิตี้ ก็มาได้ประตูนำอีกครั้งจาก กุนโดกัน คนเดิมในนาทีที่ 51 ก่อนที่ช่วงเวลาที่เหลือจะทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ และเป็นเรือใบสีฟ้าที่เอาชนะไปได้ในที่สุด 2-1

หลังจบเกม เทน ฮาก เปิดเผยว่า เขายังคงภาคภูมิใจในตัวของลูกทีม แม้ว่าท้ายที่สุดแล้วจะเป็นฝ่ายพ่ายไปก็ตาม โดยกล่าวว่า "เรารู้สึกแตกสลาย แน่นอนว่ามันย่อมมีความผิดหวัง แต่ผมอยากจะบอกว่าผมรู้สึกภาคภูมิใจในทีมของผม เราทำได้ดีมาก แม้ว่าเราจะเสียสองประตูแบบง่ายเกินไป แต่เราก็ยังอยู่ในเกม มีสปิริตที่ยอดเยี่ยม และมีระบบการเล่นที่ดีมาก"

"ทีมนี้แสดงให้เห็นถึงความคาแรคเตอร์ ความยืดหยุ่น และบุคลิกภาพ เรารู้ดีว่ายังมีงานที่ต้องทำกันต่อหลังจากนี้ แต่สิ่งนี้ (ความพ่ายแพ้) จะทำให้เราดีขึ้นกว่าเดิม มันคือบททดสอบของเรา แม้ว่าเราอาจไม่ได้ประสบความสำเร็จ แต่เราก็สามารถมองเห็นหลายอย่างใในเชิงบวกที่จะเกิดขึ้นในฤดูกาลหน้าได้"

ทั้งนี้ สำหรับการทำงานของ เทน ฮาก ปีแรกกับ แมนฯ ยูไนเต็ด นั้น ถือว่าน่าพอใจไม่น้อย เมื่อสามารถพาทีมจบอันดับที่ 3 ในพรีเมียร์ลีกพร้อมกับคว้าสิทธิ์ไปเล่นใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้าได้สำเร็จ อีกทั้งยังมีแชมป์ คาราบาว คัพ ซึ่งถือเป็นการคว้าแชมป์ครั้งแรกของทีมปีศาจแดงนับตั้งแต่ฤดูกาล 2016-17 ในยุคของ โชเซ่ มูรินโญ่ รวมถึงยังผ่านเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ แม้ว่าท้ายที่สุดแล้วจะไม่ได้แชมป์มาครองก็ตาม