เรือใบสีฟ้ายังเหนือกว่า จะชนะงูใหญ่คว้าแชมป์ยุโรปสมัยแรก

พรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ
แมนฯ ซิตี้ พบ อินเตอร์ มิลาน
สนาม : อตาเติร์ก โอลิมปิก สเตเดี้ยม (อิสตันบูล, ตุรกี)
เวลา : 02:00 น. วันอาทิตย์ที่ 11 มิถุนายน 2566 (แข่งคืนวันเสาร์)
ถ่ายทอดสดทาง : beIN Sports 3 (ช่อง 609)

แมนฯ ซิตี้
ทีมเรือใบสีฟ้า ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คว้าไปแล้ว 2 แชมป์ นั่นคือแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และ เอฟเอ คัพ และพวกเขากำลังจะสร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญ หากว่าวันนี้เอาชนะ อินเตอร์ มิลาน คว้าแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จ นั่นคือนอกจากจะเป็นการได้แชมป์ยุโรปสมัยแรกของพวกเขาแล้ว ยังจะเป็นการคว้า ทริปเปิ้ลแชมป์ ได้เป็นครั้งแรก และเป็นทีมที่สองของอังกฤษต่อจาก แมนฯ ยูไนเต็ด อีกด้วย ซึ่งโอกาสที่ทีมเรือใบสีฟ้าจะทำได้นั้นก็มีค่อนข้างสูง เมื่อเราพิจารณาจากฟอร์มการเล่นในฤดูกาลนี้ของพวกเขา ที่มีความแข็งแกร่งมากจริงๆ ขณะที่ผลงานเกมล่าสุดของ ซิตี้ ก็คือเกมเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ ที่เอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ 2-1 เมื่อสัปดาห์ก่อน

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น แมนฯ ซิตี้ มีทีมที่สมบูรณ์มาก ไม่มีนักเตะบาดเจ็บหรือว่าติดโทษแบนเลยแม้แต่รายเดียว โดยเกมนี้คาดว่า กวาร์ดิโอล่า จะใช้ผู้เล่นชุดใหญ่เต็มพิกัดในระบบ 3-2-4-1 โดยเกมรุกนัดนี้ยังคงนำโดย เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า และมีตัวสนับสนุนอย่าง แจ็ค กรีลิช, เควิน เดอ บรอยน์, อิลคาย กุนโดกัน และ แบร์นาร์โด้ ซิลวา เหมือนเดิม

อินเตอร์ มิลาน
ทีมงูใหญ่กำลังอยู่ในฟอร์มการเล่นที่ดีมากๆ แม้ว่าผลงานใน เซเรีย อา ฤดูกาลนี้ จะจบด้วยการคว้าเพียงอันดับที่ 3 ของตาราง เก็บได้เพียง 72 แต้มจาก 38 นัด และแพ้ทีมแชมป์อย่าง นาโปลี ไปถึง 18 คะแนน แต่ก่อนหน้านี้พวกเขาก็คว้าแชมป์มาได้แล้วหนึ่งรายการ นั่นคือ โคปปา อิตาเลีย ที่ในรอบชิงชนะเลิศ เอาชนะ ฟิออเรนติน่า มาได้ 2-1 ทำให้ อินเตอร์ มีลุ้นที่จะคว้าดับเบิ้ลแชมป์ในฤดูกาลนี้ได้เช่นกัน หากว่าพวกเขาล้ม แมนฯ ซิตี้ และคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาครองได้สำเร็จ นอกจากนี้ ฟอร์มระยะหลังของทีมงูใหญ่นั้นสุดยอดมากๆ หลังจากที่ 12 เกมหลังสุดรวมทุกรายการ พวกเขาชนะได้ถึง 11 นัดและแพ้ไปแค่เกมเดียวเท่านั้น

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุด อินเตอร์ มิลาน จะไม่มีเพียงแค่ ฆัวกิน กอร์เรอา ที่มีอาการเจ็บเล็กน้อย และ เฮนริค มคิทาร์ยาน ที่ต้องรอเช็คความฟิตอีกครั้งเท่านั้น แต่ที่เหลือนั้นไม่มีปัญหา โดยเกมนี้ ซิโมเน่ อินซากี้ จะส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามแบบเต็มสูบ ในระบบการเล่น 3-5-2 เกมรุกในนัดนี้จะฝากความหวังไว้ที่คู่กองหน้าอย่าง เลาตาโร่ มาร์ติเนซ และ เอดิน เชโก้ ขณะที่แดนกลางจะมี ฮาคาน ชัลฮาโนลู, มาร์เซโล่ โบรโซวิช และ นิโกโล่ บาเรลล่า คอยปั้นเกม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนฯ ซิตี้ (3-2-4-1) : เอแดร์ซอน โมราเอส : ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, มานูเอล อาคานจี : จอห์น สโตนส์, โรดรี้ : แบร์นาร์โด้ ซิลวา, เควิน เดอ บรอยน์, อิลคาย กุนโดกัน, แจ็ค กรีลิช : เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์

อินเตอร์ มิลาน (3-5-2) : อองเดร โอนาน่า : มัตเตโอ ดาร์เมียน, ฟรานเชสโก้ อาแชร์บี้, อเลสซานโดร บาสโตนี่ : เดนเซล ดุมฟรีย์ส, นิโกโล่ บาเรลล่า, ฮาคาน ชัลฮาโนลู, มาร์เซโล่ โบรโซวิช, เฟเดริโก้ ดิมาร์โก : เลาตาโร่ มาร์ติเนซ, เอดิน เชโก้

ความน่าจะเป็น : เป็นเกมที่ต้องบอกว่า แม้จะเป็นเกมในรอบชิงชนะเลิศแล้ว แต่ แมนฯ ซิตี้ ก็ยังดูเหนือกว่า อินเตอร์ มิลาน อยู่พอสมควร เมื่อดูจากฟอร์มการเล่นที่ผ่านมา รวมถึงความสำเร็จในฤดูกาลนี้ อย่างไรก็ตาม อินเตอร์ เองก็มีฟอร์มการเล่นในที่ยอดเยี่ยมเช่นเดียวกัน ซึ่ง แมนฯ ซิตี้ จะประมาทไม่ได้ และขึ้นชื่อว่าเป็นเกมฟุตบอลนัดเดียวแบบนี้ อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ เชื่อว่ารูปเกมที่ออกมาจะยังเป็น แมนฯ ซิตี้ ที่ครองเกมได้เหนือกว่า แต่จะเล่นด้วยความรัดกุมและไม่เปิดเกมรุกแบบหมดหน้าตัก ขณะที่ อินเตอร์ คงจะรอใช้จังหวะสวนกลับเล่นงานเป็นหลัก เกมน่าจะมีความสูสี และไปวัดกันที่ความเด็ดขาด ซึ่งเชื่อว่า แมนฯ ซิตี้ ยังมีเกมรุกที่ดุดันกว่า และจะเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ แต่สกอร์อาจจะไม่ขาดลอย

สกอร์ที่คาด : แมนฯ ซิตี้ ชนะ อินเตอร์ มิลาน 2-0