US OPEN GOLF 2023

การกลับมาจับมือกันของ ลิฟ กอล์ฟ และ พีจีเอ ทัวร์ รวมทั้ง ดีพี เวิลด์ ทัวร์ ทำให้ความไม่สมานฉันท์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เบาบางจบเกือบจะเรียกได้ว่าใกล้ถึงตอนจบ เพราะปัญหาใหญ่เรื่องผลประโยชน์ เงินๆ ทองๆ น่าจะเป็นเรื่องลำดับแรกๆ ที่ทั้งสองฝ่ายยกมาพูดคุย จากนั้นคือเรื่องของระบบและโปรแกรมที่แฟนๆ จะได้ติดตามกันต่อไป

ในที่สุดก็ถึงเรื่องของกอล์ฟ เชื่อว่ายังมีควันหลงกับคำถามบางอย่างระหว่างผู้เล่นค่าย ลิฟ กอล์ฟ และผู้เล่นใน พีจีเอ ทัวร์ แต่มันก็คงไม่ยิ่งใหญ่เท่ากับความน่าจะเป็นที่จะได้เห็นใครสักคนชูถ้วยแชมป์เมเจอร์ ยูเอส โอเพ่น 2023 ในสนามที่แอลเอ ลอส แองเจลิส คันทรี คลับ ซึ่งร่ำลือกันว่าเงินซื้อเมมเบอร์ที่นี่ไม่ได้ ดังนั้นจึงเป็นเกียรติอย่างสูงสำหรับโปรทั้งหลายที่ได้มาที่นี่ 

บรู๊คส์ โคเอปก้า พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าฝ่าย ลิฟ กอล์ฟ แม้ทัวร์นาเมนต์ไม่มาก และแข่งกัน 54 หลุมในแต่ละรายการ ก็ไม่ได้แปลว่าศักยภาพของพวกเขาลดลง ขณะที่ฝั่ง พีจีเอ ทัวร์ การได้แชมป์ของ นิค เทย์เลอร์ ในสัปดาห์ก่อนที่ อาร์บีซี แคนาเดี้ยน โอเพ่น ก็บอกชัดๆ ไปเลยว่า ปาฏิหาริย์ ยังมีอยู่ทั้งบนกรีน และฝั่งแน่นอยู่ในลูกกลิ้งๆ เสมอ แล้วใครกันที่น่าจับตา 

สกอตตี้ เชฟเฟลอร์ 

ตัวเต็งลำดับแรกนั้นยากที่จะตัดสินใจได้ว่าใครมาแรงกว่ากันระหว่าง สกอตตี้ เชฟเฟลอร์ มือ 1 โลก หรือ จอน ราห์ม แชมป์ เดอะ มาสเตอร์ส คนล่าสุด และอาจจะรวม บรู๊คส์ โคเอปก้า ถ้านับกันด้วยฟอร์มในช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งหากวัดกันด้วยสถิติ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นับย้อนไปถึง 18 เดือนที่ผ่านมา การตีของ เชฟเฟลอร์ ดีเยี่ยมกว่าใคร แม้ ราห์ม เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ได้แต้มจากการตีที่ยอดเยี่ยมมาตลอด 6 เดือน แต่ความต่อเนื่องของ เชฟเฟลอร์ มีมากกว่า ที่เหลือที่ทั้งสองจะต่อสู้กันก็คือการพัตต์ 

คอลลิน โมริคาวะ

เจ้าของแชมป์ 2 เมเจอร์ เป็นชาวแคลิฟอร์เนียโดยกำเนิด ฤดูกาลนี้ผลงานโดยรวมอาจดูไม่หวือหวา ลงเล่น 17 รายการ ผ่านการตัดตัว 13 รายการ อยู่ในท็อป10 เพียง 4 รายการ หนึ่งในนั้นได้อันดับ 2 แต่ความทรงจำครั้งหลังใน วอล์คเกอร์ คัพ 2017 เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจไม่น้อย ตอนนั้น โมริคาวะ ในวัย 21 ปีเล่นให้กับทีมสหรัฐ และเอาชนะแมตช์เพลย์ทั้ง 4 แมตช์ได้ครบถ้วน เป็นไปได้ว่านอกจากประสบการณ์ที่พอมี เราอาจเห็นความมหัศจรรย์ได้อีก และบางที โมริคาวะ ที่มีอาการบาดเจ็บหลังจนต้องถอนตัวจาก เดอะ เมโมเรียล ทัวร์นาเมนต์ อาจเก็บแรงเอาไว้ระเบิดพลังในรายการนี้ก็ได้ 

ม้ามืด 

แซนเดอร์ ชอฟเฟเล่ 

นี่คือหนึ่งในโปรผู้มีความคงเส้นคงวาอย่างที่สุด ผลงานที่ผ่านมาในรายการเมเจอร์ ไม่มีรายการใดต่ำกว่าท็อป 10 ที่แย่ที่สุดคืออันดับ 10 ร่วมใน พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ 2020 ขณะที่ เดอะ มาสเตอร์ส หรือ ดิ โอเพ่น ก็แตะอันดับ 2 ร่วมมาแล้ว โดยผลงานที่ดีที่สุดใน ยูเอส โอเพ่น คืออันดับ 3 ร่วมเมื่อปี 2018 โดยผลงานในซีซั่นนี้ลงเล่น 15 รายการผ่านตัดตัวทั้งหมด แม้ยังไม่มีแชมป์แต่เป็นอันดับ 2 มา 1 รายการ และติดท็อป 10 ถึง 8 รายการหรือเกินครึ่ง

ย้อนหลังดูผลงานใน ยูเอส โอเพ่น 5 จาก 6 ครั้งล่าสุด มีเพียงปี 2022 เท่านั้นที่หลุดท็อป 7 ด้วยอัดนักบ 14 ร่วมดังนั้นหากจะบอกว่าตำแหน่งท็อป 10 คงไม่ไปไหนไกล ก็เป็นเรื่องที่หลับตาเดาได้เลย แต่ในคอร์สที่มีความยากอย่าง LACC ท่ามกลางมือระดับสูงมากมาย ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ต้องมุ่งมั่นมากกว่าแค่ท็อป 10

ฟิล มิเคลสัน 

และแล้วก็ถึงวันที่เจ้าของฉายา “เลฟตี้” กลับมายืนในรายการใหญ่โดยไม่ต้องตั้งรับคำถามมากมาย ที่จริงแล้ว ลิฟ กอล์ฟ VS พีจีเอทัวร์ อาจเป็นเหมือนความชอบต่างค่ายแบบ มาร์เวล และ ดีซี ซึ่งทั้งสองก็เป็นซูเปอร์ฮีโร่จากต่างที่มาและต่างจักรวาล เพียงแค่ ลิฟ และ พีจีเอ ถือกำเนิดมาจากระบบโครงสร้างเดียวกัน จนชวนให้เกิดความรู้สึกว่า ดังแล้วแยกวง 

กลับมาที่เรื่องของ มิเคลสัน ที่เป็นทั้งโปรรุ่นใหญ่ และเป็นหนึ่งในผู้เล่นระดับตำนานที่คว้าแชมป์เมเจอร์ได้มากที่สุดในบรรดาผู้เล่น ลิฟ กอล์ฟ นับได้ 6 สมัย และถ้าจะมีอะไรที่ขาดหาย ก็คงเป็น ยูเอส โอเพ่น เท่านั้น ที่ “เลฟตี้” จบด้วยอันดับ 2 ถึง 6 ครั้ง ล่าสุดคือปี 2013 หลังจากนั้นในทศวรรษที่ผ่านมา ไม่เคยขึ้นสูงกว่าอันดับ 28 ร่วม แถม 2 ใน 3 ปีล่าสุดก็ไม่ผ่านการตัดตัว แต่ถ้าไม่ลืมว่าเมื่อปี 2021 อดีตกัปตันทีม ไรเดอร์ คัพ สหรัฐ เคยเป็นแชมป์เมเจอร์ พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ ด้วยวัย 50 ปี มากที่สุดในประวัติศษสตร์เมเจอร์ ตอนนี้ในวัย 53 ปี เขาอาจทุบสถิติของตัวเองได้ 

เมเจอร์ ยูเอส โอเพ่น กอล์ฟ เริ่ม 16 มิ.ย. นี้ ถ่ายทอดสดทางช่อง SPOTV2 (690)