เยอรมัน กรังด์ปรีซ์ สนามโปรดของ มาร์ค มาร์เกวซ

ผลงานสนามที่แล้ว ในศึก "อิตาเลียน กรังด์ปรีซ์" ปรากฏว่า ฟรานเชสโก้ บันยาญ่า นักบิดจากทีมดูคาดิ ระเบิดฟอร์มคว้าแชมป์ทั้งในรอบสปริ้นท์ และรอบแข่งขัน โกยเพิ่ม 37 คะแนนเต็มๆ ทำให้ "เปคโค่" ยังคงยึดตำแหน่งจ่าฝูงอย่างเหนียวแน่น โดยมีอยู่ 131 คะแนน

อันดับที่ 2 มาร์โก เบซเซคคี่ (มูนีย์ วีอาร์ 46) 110 แต้ม ตามด้วย ฆอร์เก้ มาร์ติน (พริมา พรามัค) 107 แต้ม และ แบรด บินเดอร์ (เร้ดบูลล์ เคทีเอ็ม) 92 แต้ม .... เเต่ที่น่าสนใจคือ "ทุกคน" ยังไม่เคยมีใครคว้าเเชมป์ "เยอรมัน กรังด์ปรีซ์" มาครองกันได้เลยสักครั้ง

"เยอรมัน กรังด์ปรีซ์" นับว่าเป็นอีก 1 รายการเก่าแก่ที่จัดแข่งขัน "รถจักรยานยนต์ชิงเเชมป์โลก" มาเเล้วมากกว่า 70 ปี โดยครั้งเเรกเกิดขึ้นเมื่อปี 1952 เเละแชมป์คนเเรก ได้แก่ เร็ก อาร์มสตรอง นักบิดชาวไอริช แต่ว่าในช่วงเเรกของทัวร์นาเมนต์จะเเข่งกันที่ สนาม โซลิตูเดริง ที่ปัจจุบันปิดใช้งานไปแล้ว(1935-1965)     

นับตั้งแต่ปี 1998 เป็นต้นมา การแข่งขันย้ายมาที่ ซัคเซนริง เมืองเดรสเดน ซึ่งชื่อแมืองนี้แปลว่า “กล่องอัญมณี” ขณะที่การแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตพยายามนำเสนอเทคโนโลยี ความทันสมัย ความโฉบเฉี่ยวล้ำยุค แต่ที่นี่พยายามบอกทุกคนว่า เชิญมาชมการแข่งขันที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ โดยมีแกรนด์แสตนบางพื้นที่ซึ่งผู้ชมจะได้เห็นวิวแบบดาวน์ฮิลล์ 

รูปแบบของสนาม ซัคเซนริง จะพิเศษเล็กน้อยเพราะเป็นการวิ่งทวนเข็มนาฬิกา โค้งซ้ายเยอะถึง 10 โค้ง โค้งขวามีเพียงแค่ 3 โค้ง เส้นทางที่วิ่งค่อนข้างเเคบเเละสลับขึ้นเนินลงเนินต่อเนื่อง โดยมีระยะทางตรงอยู่ประมาณ 700 เมตร ส่วนระยะ 1 รอบสนามยาว 3.671 กิโลเมตร(2.281 ไมล์)

นักแข่งที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดใน "เยอรมัน กรังด์ปรีซ์" คือ ตำนานนักเเข่งชาวอิตาลี จิอาโมโก อกอสตินี่ อดีตเเชมป์โลก 15 สมัย(รวมรุ่นเล็ก) เจ้าตัว ประสบความสำเร็จและคว้าเเชมป์ที่นี่มากถึง 15 ครั้ง โดยแบ่งเป็น รุ่นใหญ่(500 ซีซี) 8 ครั้ง เเละ รุ่นเล็ก(350 ซีซี) 5 ครั้ง

รองลงมาคือ มาร์ก มาร์เกวซ สุดยอดนักบิดชาวสเปน ที่เคยคว้าเเชมป์ในศึก "เยอรมัน กรังด์ปรีซ์" มาแล้วทั้งหมด 11 ครั้ง แบ่งเป็น โมโตจีพี 8 ครั้ง, โมโตทู 2 ครั้ง เเละ รุ่น 125 ซีซี 1 ครั้ง และที่สำคัญ มาร์เกวซ ยังสามารถคว้าเเชมป์ "โมโตจีพี" มาครองได้แบบติดต่อกันทั้ง 8 สมัย(2013-2022)

มาลุ้นกันว่า มาร์ก มาร์เกวซ เจ้าของฉายา "ซัคเซนคิง" จะกลับมาทวงเเชมป์ "เยอรมัน กรังด์ปรีซ์" กลับคืนมาได้หรือไม่! เพราะส่วนหนึ่งที่ เจ้าตัว ต้องพลาดท่าให้กับ "แชมป์เก่า" ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร่ ก็เพราะว่ามีอาการบาดเจ็บเเละลงเเข่งไม่ได้เมื่อปีที่เเล้ว 

"เยอรมัน กรังด์ปรีซ์" เริ่มลงบิดรอบซ้อม ในวันศุกร์ที่ 16 มิ.ย. เวลา 13.55 น. จากนั้นวันเสาร์ที่ 17 มิ.ย. เป็นการประชันความเร็วรอบคัดเลือก และรอบสปรินท์ ก่อนจะแข่งขันจริงในวันอาทิตย์ที่ 18 มิ.ย. เวลา 15.45 น. ทรูวิชั่นส์ ถ่ายทอดสดตลอดการแข่งขันผ่านทางช่อง SPO TV 2