แม็กซ์ แชมป์ สปา 3 ปีซ้อน สถิติ เร้ดบูลล์ 13 สนาม

แม็กซ์ แชมป์ สปา 3 ปีซ้อน สถิติ เร้ดบูลล์ 13 สนาม
“แม็กซ์” คว้าแชมป์ “เบลเจี้ยน กรังด์ปรีซ์” ที่ สปา เซอร์กิต 3 ปีซ้อน ส่วน “เร้ดบูลล์ เรซิ่ง” สร้างสถิติต่อเนื่อง ชนะ 13 สนาม




แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน คว้าแชมป์ เบลเจี้ยน กรังด์ปรีซ์ เมื่อคืน 30 ก.ค. ที่ผ่านมา จากการออกสตาร์ทอันดับ 6 ด้วยการแซง เซอร์จิโอ เปเรซ เพื่อนร่วมทีม สถิติส่วนตัว 8 สนามติดต่อกัน และแฮททริก 3 ปีซ้อนที่ สปา ฟรังโกชองส์ โดย เร้ดบูลล์ เรซิ่ง ยังครองแชมป์ต่อเนื่อง 13 สนามทุบสถิติต่อไป และอันดับ 3 เป็นของ ชาร์ลส์ เลอแกลร์ 


พยากรณ์อากาศระบุว่าจะมีฝนเล็กน้อย แต่เมื่อเริ่มรอบทดลองยังสนามยังแห้งสนิท ท้องฟ้ามีเมฆมาก เริ่มออกตัว ชาร์ลส์ เลอแกลร์ ปิดมุมได้ดีกว่า แต่เพียงแค่ถึงโค้ง 4 เซอร์จิโอ เปเรซ แซงขึ้นมาเป็นผู้นำ ย้อนกลับไปในโค้งแรกหลังออกตัว รถของ คาร์ลอส ไซนซ์ เฉี่ยวกับ ออสการ์ ปิอัสตรี ทำให้รถเสียหาย และต้องจดรถไว้ข้างทาง ออกจากการแข่งขันโดยยังไม่ทันจบรอบ


ไซนซ์ ยังขับต่อไป จากนั้นจึงมีรายงานจากทีมว่าตัวรถมีการเสียสมดุลไปเล็กน้อยที่ 5 เปอร์เซ็นต์ จากการที่ตัวถังเสียหาย ทำให้อันดับค่อยๆ ตกลง ด้าน แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน ออกสตาร์ทจากอันดับ 6 ขยับขึ้นมา 2 ขั้น ขณะที่ อเล็กซานเดอร์ อัลบอน เริ่มต้นด้วยอันดับ 15 แต่ผ่านไปเพียง 2 รอบ ขยับขึ้นเป็นอันดับ 8 และเข้าสู่รอบที่ 5 แซงหน้า ไซนซ์ ได้สำเร็จ 


รอบที่ 6 เวอร์สเตปเปน แซง ลูอิส แฮมิลตัน ขึ้นอันดับ 3 และเริ่มมีรถทยอยเข้าพิตเปลี่ยนยาง จากนั้นอีก 3 รอบจึงแซง เลอแกลร์ ได้ เมื่อผ่าน 1 ใน 4 ของการแข่งขันเจมส์ วาวเลส ส่งวิทยุมาบอกว่าอาจมีฝนโปรยเล็กน้อยในอีก 15-20 นาทีข้างหน้า และอาจเตรียมยางอินเตอร์มีเดียท 


รอบที่ 14 เปเรซ เข้าพิตเปลี่ยนยางและออกมาเป็นที่ 2 ยังอยู่หน้า เลอแกลร์ ตอนนั้นเอง จานปิเอโร แลมเบียส วิศวกรของ เวอร์สเตปเปน ก็บอกนักขับให้ฟังและทำตาม โดยรอบถัดไปขอให้เข้าพิตเพื่อป้องกันการแซงของ เลอแกลร์ จากนั้นรอบที่ 16 ทั้งสองห่างกันเพียง 0.33 วินาที และผ่าน 17 รอบ นักขับดัตช์จึงกลายเป็นผู้นำหลังผ่านโค้งแรก


ผ่าน 18 รอบสนามจาก 44 รอบเริ่มมีฝนตกบริเวณโค้งที่ 15 และคาดว่าฝนจะตกไม่นาน แต่อีก 3 รอบต่อมา เวอร์สเตปเปน บอกทีมงานว่าฝนหนาเม็ดขึ้น พื้นสนามเริ่มลื่น และท้ายสะบัดระหว่างเข้าโค้งชันขึ้นเขาที่ โอ รูจ ไม่นานนักเมื่อถึงครึ่งทางของ เมนเรซ ฝนก็เริ่มตกลงมาเกือบทั่วพื้นที่ และที่สุด ไซนซ์ ก็เก็บรถเข้าพิตการาจ ออกจากการแข่งขัน 


เหลืออีก 11 รอบ หรือ 1 ใน 4 ของการแข่งขัน ผู้นำยังไม่เปลี่ยนแปลง ท็อป 4 ยังเป็น 2 คันจาก เร้ดบูลล์ เรซิ่ง เวอร์สเตปเปน นำหน้า เปเรซมากกว่า 18 วินาที ตามด้วย เลอแกลร์ และ แฮมิลตัน โดยกลุ่มนี้นำหน้า เฟร์นานโด อลอนโซ่ อันดับ 5 มากกว่า 25 วินาที ส่วนอเล็กซ์ อัลบอน ที่พยายามเก็บแต้ม เข้าพิตเปลี่ยนยางครั้งที่ 3 ซึ่งน่าจะเป็นครั้งสุดท้าย ออกมาในอันดับ 17 และจบด้วยอันดับ 14 ไม่มีคะแนนในสนามนี้ 


รอบสุดท้าย แฮมิลตัน เข้าพิตเปลี่ยนยางเซ็ตใหม่ คาดว่าน่าจะเป็นการทำเพื่อเอา 1 คะแนนจากการทำรอบเร็วที่สุดหรือ Fastest Lap และทำสำเร็จ 

ภาพถ่ายทอด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :

Website : www.truevisions.co.th

Facebook : Truevisions

Twitter : @TrueVisions

Line : @Truevisions

Youtube official : Truevisionsofficial

Instagram : Truevisionsofficial